มาทำความรู้จักการ ประกันชีวิต กันดีกว่า ประกันชีวิต อย่างที่หลายคนเข้าใจ และทำประกันชีวิตเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการสร้างหลักประกันให้แก่บุคคลที่อยู่ในอุปการะของเรารวมไปถึงตัวของบุคคลที่ทำประกันชีวิตเอง ขั้นตอนในการทำประกันชีวิตก็ไม่ยุ่งยากมากซักเท่าไหร่ เพียงแต่เราต้องทำความเข้าใจอย่างละเอียด และถูกต้องครบถ้วน อันดับแรกคือต้องทำใบขอทำประกันชีวิต และเมื่อบริษัทได้รับใบคำขอทำประกันชีวิตและเบี้ยประกันของผู้เอาประกันแล้ว หากผ่านและบริษัทได้ตกลงรับประกันชีวิต
ขั้นตอนต่อมาคือบริษัทจะออกกรมธรรม์ให้ผู้เอาประกันทันที เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วจะถือว่าเป็นสัญญาที่บริษัทประกันทำสัญญาและตกลงที่จะจ่ายเงินให้กับผู้รับประโยชน์หรือผู้เอาประกันภัย ซึ่งต้องจ่ายเงินตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์นั้นๆด้วย อย่างไรก็ตามเราไม่ได้ซื้อประกันชีวิตเพราะสาเหตุที่จากการเสียชีวิตเพียงอย่างเดียว การทำประกันชีวิตจริงๆแล้วเพื่อเป็นการสร้างหลักประกันคุณภาพชีวิต และวัตถุประสงค์หลักของการซื้อประกันชีวิตก็เพื่อไม่ให้รายได้ของเราสูญสิ้นไป โดยเฉพาะการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรรวมไปถึงคนที่ยังมีชีวิตอยู่ที่อยากมีเงินประกันไว้ใช้จ่าย ซึ่งการทำประกันก็ถือว่าเป็นการออมเงินได้อีกหนึ่งวิธี และเป็นทุนสำรองใช้เมื่อยามจำเป็นได้เช่นกัน อีกทั้งยังถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นด้วย รวมไปถึงเมื่อพ้นระยะเวลาที่สามารถทำงานการทำประกันชีวิตก็ยังมีผลต่อเนื่อง ซึ่งผู้เอาประกันนั้นยังได้รับความคุ้มครองด้วยเช่นกัน ถือได้ว่าการประกันชีวิตจึงเป็นวิธีที่สามารถทำให้มีเงินสำรองในยามฉุกเฉิน
การประกันชีวิตนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทดังนี้
- ประกันชีวิตประเภทสามัญ เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้ปานกลาง ที่สามารถจ่ายเบี้ยประกันในราคาที่สูงได้ ซึงถือว่าเป็นการประกันชีวิตที่มีจำนวนเงินเอาประกันภัยค่อนข้างสูง ต้องเป็นผู้ที่ต้องมีกำลังจ่ายตั้งแต่ ห้าหมื่น บาทขึ้นไป ดังนั้นผู้ที่มีความสามารถทำประกันปนะเภทนี้ได้ ต้องเป็นผู้ที่ค่อนข้างมีรายได้มากพอสมควร เริ่มตั้งแต่ผู้ที่มีรายได้ปานกลางขึ้นไป ขั้นตอนในการพิจารณารับประกันชีวิต จะมีการตรวจสุขภาพหรือไม่ตรวจสุขภาพก็ได้เช่นกันซึ่งทั้งนี้ก็ย่อมขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทนั้นๆด้วย การจ่ายเบี้ยประกันภัยมีให้เลือกจ่ายได้ทั้งแบบจ่ายทุกเดือน ราย 3 เดือน ราย 6 เดือน หรือแม้กระทั่งการจ่ายแบบรายปีก็มีให้เลือก
- ประกันชีวิตประเภทอุตสาหกรรม เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้ปานกลางรวมไปถึงผู้มีรายได้ต่ำก็สามารถทำได้เช่นกัน ตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสามหมื่นบาท ส่วนวิธีการในการชำระเบี้ยประกันภัยนั้น จะให้ชำระเป็นแบบรายเดือน และไม่มีการตรวจสุขภาพใดๆทั้งสิ้น แต่บริษัทจะไม่จ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยให้ ถ้าผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตไม่สบายจากโรคภัยไข้เจ็บตามธรรมชาติ แต่จะคืนเบี้ยประกันภัยที่ผู้เอาประกันภัยได้ชำระมาแล้วทั้งหมดนั่นเองแต่ถือว่าก็ยังโอเคอยู่เพราะอย่างน้อยก็ยังได้เงินที่จ่ายไปแล้วคืนบ้าง
- ประกันชีวิตประเภทกลุ่ม การทำประกันชนิดนี้ส่วนมากจะใช้ในกลุ่มของพนักงานบริษัท เป็นการประกันชีวิตที่กรมธรรม์หนึ่งจะมีผู้เอาประกันชีวิตทำร่วมกัน โดยมีผู้ร่วมเอาประกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ซึ่งสิ่งที่จะใช้ในการพิจารณาการรับประกันอาจจะมีการตรวจสุขภาพหรือไม่ตรวจก็ได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทค่ะ ซึ่งการประกันชีวิตแบบกลุ่มนี้ สามารถทำได้ตั้งแต่บุคคลทั่วไปโดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้ไม่มากนักก็สามารถทำได้ เพราะอัตราเบี้ยประกันชีวิตจะต่ำกว่าประเภทสามัญและประเภทอุตสาหกรรม
มาดูกันค่ะว่าการทำประกันชีวิตมีประโยชน์อย่างไรบ้าง?
การทำประกันชีวิตนั้น จะสามารถช่วยสร้างหลักประกันและสร้างความมั่นคงให้แก่ผู้เอาประกันภัยและครอบครัวของผู้เอาประกันภัยได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้นำครอบครัวทำประกันชีวิตไว้แล้วเกิดเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ซึ่งเงินประกันชีวิตที่ได้รับจากการทำประกันชีวิตจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระทางการเงินของครอบครัวได้ หรือถ้าหากใครที่ทำประกันชีวิตเพื่อการศึกษาของลูกไว้ ก็จะส่งผลดีเงินประกันชีวิตจะช่วยลูกก็จะมีเงินใช้จ่ายเพื่อการศึกษาได้ต่อไป เป็นต้น
ข้อดีของการทำประกันชีวิตอีกอย่าง ก็คือ จะช่วยให้เกิดการออมทรัพย์อย่างมีวินัยและต่อเนื่อง และเป็นการฝึกให้รู้จักคุณค่าของเงิน และรู้จักเก็บหอมรอมริบได้ด้วย เพราะการประกันชีวิตเป็นสัญญาระยะยาวและผู้เอาประกันภัยต้องจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันภัยเป็นรายงวดและต้องจ่ายเป็นประจำ ดังนั้นผู้เอาประกันจำเป็นต้องสำรองเงินไว้ใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วย อีกทั้งบางรูปแบบของการประกันชีวิต จะมีส่วนของการออมทรัพย์อยู่ด้วยนั่นเอง แต่ก็จะไม่เหมือนกับการฝากเงินไว้กับธนาคารซะทีเดียว เพราะการทำประกันชีวิตเป็นเพียงการซื้อความคุ้มครองเป็นหลักประกันคุณภาพชีวิต ดังนั้น หากมีการยกเลิกกรมธรรม์ในปีใดก็ตามระหว่างอายุสัญญาเงินที่ผู้เอาประกันภัยได้รับคืนนั้น จะไม่เท่ากับจำนวนเงินเบี้ยประกันภัยที่จ่ายให้บริษัท ซึ่งเป็นเพราะส่วนหนึ่งต้องจ่ายเป็นค่าซื้อความคุ้มครอง แต่ส่วนดีนั่นก็คือ หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตภายใต้เงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ผู้รับประโยชน์จะได้รับเงินผลประโยชน์ตามจำนวนเงินเอาประกันภัยนั้นๆ ซึ่งมากกว่า จำนวนเบี้ยประกันภัยที่จ่ายบริษัทไปแล้ว
การ ประกันชีวิต เป็นอีกหนึ่งการระดมเงินทุนในรูปของเบี้ยประกันชีวิต ซึ่งบริษัทแต่ละบริษัทที่ทำประกันชีวิตสามารถนำไปลงทุนเพื่อประกอบธุรกิจอื่นได้ตามที่กฎหมายกำหนด จะทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงิน การจ้างงาน เป็นต้น และนำมาซึ่งการพัฒนาประเทศ
เป็นไงกันบ้างคะสำหรับความรู้ที่นำมาฝากกันเกี่ยวกับเรื่องการ ประกันชีวิต สำหรับผู้ที่มีความสนใจหรือกำลังคิดจำทำ ประกันชีวิต แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจทำ อาจใช้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อใช้ประกอบในการตัดสินใจทำประกันชีวิตได้ง่ายขึ้น