สวัสดีค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีดี กำไรงามๆ โดยที่ไม่ต้องทำงานหนักมากมายอยู่ล่ะก็ อาจจะมีทางเลือกเพียงไม่กี่ทาง อย่าง กองทุนรวม เล่นหุ้น ฝากประจำกับธนาคาร ซื้อสลากออมสิน ซื้อทองคำ และอื่นๆ แต่อย่าลืมค่ะ ว่ามีการลงทุนในรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือ การลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์ นั่นเองค่ะ
สำหรับการซื้อ อสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น บ้าน,ที่พัก,คอนโด,ที่ดิน,ตึกแถว,อาคารพาณิชย์,
อพาร์ตเมนต์,หรือที่รกร้างว่างเปล่าต่างๆ สิ่งเหล่านี้ ล้วนเป็นทรัพย์สินที่สามารถทำเงินให้เราเป็นกอบเป็นกำได้ โดยไม่ยาก ซึ่งหลายคนก็อาจจะบอกว่า การซื้อ อสังหาริมทรัพย์ นั้น จะมีความเสี่ยงสูงมากไปหรือเปล่า ? ซื้อมาแล้วติดมือ ซื้อมากลัวขายไม่ได้ ถ้าขายไม่ได้จะทำอย่างไร ? ที่ดินไม่ติดตลาด ทำเลไม่น่าสนใจ นั่นเป็นเพียงความคิดที่เกิดจากความกลัวเท่านั้นเองค่ะ ความคิดด้านลบ ทำให้เรานึกกลัวไปต่างๆนานา ถึงแม้ว่ามันอาจจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ความสำเร็จก็คงจะมีโอกาสไม่ต่างกันซะเท่าไหร่หรอกจริงไหม ท่องไว้ค่ะ ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ใจของเรา ยิ่งกลัวยิ่งมองไม่เห็นวิธีการ ยิ่งมืดบอด เรามาดูวิธีง่ายๆสำหรับใครที่อยากลงทุนซื้อสิ่งปลูกสร้าง อสังหาริมทรัพย์ ไว้เพื่อเก็งกำไรกันดีกว่าค่ะ
สำรวจหาบ้าน,อาคาร,ที่ดิน ที่ติดจำนองหรือขายไม่ออกมาหลายปี เจ้าของต้องการขายมากๆ
ถ้าหาได้จะช่วยในเรื่องของการต่อรองราคา ยิ่งถ้าโชคดีสอบถามถูกที่ เจ้าของอยากขาย อย่างเช่นในกรณีตัวอย่าง สมพรขับรถตระเวนหาบ้านพร้อมที่ดินในแถบชานเมืองรอบนอก ที่ไม่ไกลมากนัก เจอบ้านหลังหนึ่งประกาศขาย เมื่อโทรติดต่อไปถามเจ้าของเดิม(คุณศักดา) บทสนทนาของพวกเขาจึงเป็นดังนี้
สมพร : สวัสดีครับ ผมชื่อ สมพรนะครับ ผมสนใจบ้านที่กำลังประกาศขายอยู่ ไม่ทราบว่าคุณศักดา พอจะว่างให้รายละเอียดผมสักครู่ได้ไหมครับ
ศักดา : ยินดีครับ ผมต้องการขายพร้อมที่ดินเลยในราคา XXXXXXX บาท ครับ
สมพร : ลดอีกสักหน่อยได้ไหมครับ คือ ผมก็ดูไว้หลายที่อยู่เหมือนกัน ที่คุณศักดาเสนอมา ราคายังดูสูงกว่าสองที่ที่ผมดูมาอยู่ครับ อีกอย่างตัวบ้านก็ถือว่าอยู่ลึกและซอยค่อนข้างเปลี่ยว
ศักดา : ลดได้ XXXXXXX ครับ ไม่ทราบว่าคุณสมพรตั้งงบไว้ที่ประมาณเท่าไหร่ครับ
สมพร : ประมาณ xxxxxxx บาท ครับ ผมขอคิดดูก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวอย่างไรจะติดต่อกลับไปอีกครั้ง ขอบคุณครับผม
ศักดา : ได้ครับ สวัสดีครับ
การต่อรองราคาเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่เราเองก็ควรที่จะเรียนรู้ไว้ การต่อรองจะช่วยให้ได้ผลมากขึ้น เราอาจจะให้เหตุผลในเรื่องทำเลที่ตั้ง,สภาพของบ้าน หรือ การเปรียบเทียบราคาจากเจ้าอื่น จะช่วยให้เจ้าของเดิมนั้น อยากขายมากขึ้น ยิ่งถ้าเขามีเหตุผลจำเป็นต้องใช้เงิน เราก็สามารถปิดการขายได้ในราคาอาจจะไม่สูงมากนั้น นั่นจะส่งผลดีกับเรามากขึ้นค่ะ
เมื่อได้ราคาเหมาะสมเป็นที่พอใจทั้งสองฝ่ายแล้ว ในระหว่างการดำเนินการเรื่องเอกสารและทำสัญญาซื้อขายต่างๆ ก็อย่ามัวรีรอช้า ลงโฆษณาขายบ้านที่เราซื้อมาซะ ประกาศขายตามเว็บต่างๆคือวิธีที่ง่ายที่สุด หรืออาจจะลงทุนทำเป็นใบปลิวก็ได้ แจ้งชื่อที่อยู่เบอร์โทรติดต่อกลับให้เรียบร้อย การตั้งราคาขาย จะตั้งให้สูงกว่าเท่าไหร่ก็ได้ตามความเหมาะสมที่พอเหมาะพอดี ไม่ควรสูงมากจนเกินไป หรือจะแบ่งเช่าเป็นรายเดือน ก็เป็นวิธีการสร้าง passive income เป็นรายได้ให้มีเข้ามาตลอดนั่นเอง
ทักษะพิเศษของการขายอสังหาริมทรัพย์รวมไปถึงการขายสินค้าอื่นๆ นั้น หัวใจสำคัญออยู่ที่การทำการตลาด และสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้านั้นสนใจในทรัพย์สินที่เราเสนอขาย การซ่อมแซมปรับปรุงหรือต่อเติมใหม่เป็นสิ่งที่จะช่วยให้บ้านน่าสนใจมากยิ่งขึ้น แต่บางครั้งก็ไม่จำเป็นเพราะบางทีลูกค้าเองก็ต้องการที่จะตกแต่งและออกแบบตามสไตส์ตามความชอบของตน นั่นก็จะถือว่าเป็นโชคดีของเราที่ไม่ต้องรับผิดชอบในส่วนนี้ (แต่การดูแลรักษาไม่ปล่อยให้บ้านดูโทรมจะเป็นเรื่องที่ดีนะคะ)
ข้อดีของการสำรวจหาบ้านและที่ดินที่ต้องการขายหรือติดจำนองไว้เสมออยู่นั้น ก็เหมือนกับการที่เราได้มองเห็นช่องทางและโอกาสในการทำเงินมากขึ้น โดยที่เราอาจจะไม่ต้องลงทุนซื้อเก็บไว้เพื่อขายก่อน แต่การที่เรามองๆไว้ แล้วไปสำรวจลูกค้า หาลูกค้าและติดต่อ เจรจาเพื่อพิจารณากันว่า พวกเขานั้นต้องการบ้านแบบไหน สิ่งแวดล้อมใกล้เคียงเป็นอย่างไรบ้างอย่าง ใกล้แหล่งชุมชน ใกล้บริการขนส่งสาธารณะ อยู่ในตัวเมือง นอกเมือง ใกล้ศูนย์การค้า หรือสวนสาธารณะ ก็จะช่วยให้เรานั้นทราบถึงความต้องการและหาสิ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น ทั้งยังมีส่วนช่วยวิเคราะห์ตลาดเข้าถึงความต้องการส่วนใหญ่ได้
การเป็นนายหน้า เป็นคนกลางในการซื้อขายนั้น จำเป็นที่จะต้องมีไหวพริบที่ดีพอเหมือนกัน เพราะการจับเสือมือเปล่าก็ไม่ได้จับกันง่ายๆเสมอไป ต้องกล้าตัดสินใจ มีสติในการแก้ไขปัญหา รอบรู้ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การซื้อขายบ้านมือสอง ซื้อทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ ย่อมมีค่าใช้จ่ายและภาษีต่างๆด้วยเช่นกัน ถ้าหากเราไม่อยากยุ่งยากในส่วนนี้ ก็ควรหาที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางให้มาช่วยดำเนินการจะสะดวกและรวดเร็วกว่า และยังช่วยให้เราสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นด้วยว่า ถ้าเราจะลงทุนทำอะไรสักอย่างนั้น จะได้ไม่ต้องมากังวลกับปัญหาจุกจิกนี้อีกต่อไป
