ความสำเร็จของธุรกิจนั้นจำเป็นจะต้องมีผลมาจากหลักการคิดภายในจิตใจก่อนจะออกมาสู่ด้านปฏิบัติ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เกือบจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าเป็นสูตรสำเร็จ แต่ก่อนจะมาถึงจุดนี้ได้ หลายคนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมีสิทธิ์กำหนดความสำเร็จของตัวเอง หลายคนจึงปล่อยชีวิตไปตามยถากรรม แต่สิ่งนั้นไม่เกิดกับชายคนนี้ที่มีชื่อว่า Brian Tracy ซึ่งเป็นหนึ่งในนักคิด นักพูดที่สร้างแรงจูงใจที่ สร้างผลสำเร็จ ให้กับคนมาแล้วทั่วโลก 55 ประเทศ กว่า 5 ล้านคน จากการบรรยายกว่า 5,000 ครั้งใน 30 ปีที่ผ่านมา
ทั้งยังเป็นที่ปรึกษามาแล้วกว่า 1 พันบริษัท ในแต่ละปี เขาได้ให้แนวคิดกับคนมากกว่า 250,000 คน นอกจากการบรรยายปาฐกถาแล้ว เขายังเขียนหนังสือที่ขายดีระดับโลกอีกด้วย เล่มที่หลายคนรู้จักกันดีก็คือ กินกบตัวนั้นซะ หรือ (Eat That Frog!) และ พ่อไม่รวยก็รวยได้ (The 21 Success Secrets of Self – Made Millionaires) Brian Tracy จึงเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลต่อความคิดของผู้คนทั่วโลกในยุคสมัยนี้ เขาไม่ได้สร้างธุรกิจที่โด่งดังหรือเลอเลิศ แต่สิ่งที่ต้องการสร้างคือ องค์ความรู้ ที่จะสามารถช่วยให้คนเรา สร้างผลสำเร็จ ได้ชีวิต
Brian Tracy เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1944 ในครอบครัวที่มีฐานะยากจน ซึ่งน่าจะเป็นแรงใจให้กับคนทั่วไปได้เป็นอย่างดี เพราะคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่คนเราเลือกที่จะเป็นได้ ในวัยเด็กเขามักได้ยินพ่อเขาพูดเสมอว่า “ไม่สามารถจ่ายได้” “ไม่สามารถซื้อได้” ซึ่งเขาก็เริ่มตั้งคำถามว่าทำไมบางครอบครัวถึงมีฐานะดี ทำไมครอบครัวเขายากจน สิ่งนี้อยู่ในใจของ Brian Tracy เสมอมาว่าต้องมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เกิดความแตกต่างนี้ขึ้น ชีวิตของเขาก็เหมือนคนทั่วไปที่ไม่ได้มีทางเลือกมากนัก อาชีพล้างจาน กรรมกรก่อสร้าง เขาก็ทำมาแล้ว แม้ว่าจะได้ค่าแรงไม่มาก
แต่มันก็จุดประกายความคิดให้เขาในวันหนึ่งว่า คนเรานี่แหละที่ต้องรับผิดชอบตัวเอง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือชีวิตคนเราจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็เพราะตัวเราเอง
จากวันนั้นที่เขาคิดได้ ก็เหมือนจุดพลิกผันชะตาชีวิตให้เขาเปลี่ยนมาทำงานเป็นพนักงานขาย ด้วยแนวคิดง่าย ๆ ของเขาก็คือ อยากประสบความสำเร็จก็ต้องเรียนรู้จากคนที่ประสบความสำเร็จแล้วก็ทำตามที่เขาทำซะ แล้วก็จะได้รับความสำเร็จเหมือนกัน จากหลักการนี้เขาก็ประสบความสำเร็จในอาชีพการขายมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเป็นระดับผู้จัดการและเป็นผู้บริหาร เป็นตัวอย่างของผู้ที่ต่อสู้ชีวิตมาด้วยความวิริยะอุตสาหะอย่างแท้จริงคนหนึ่ง
Brian Tracy มีนิสัยรักการอ่านมาก เขาไม่เพียงอ่านเรื่องราวของธุรกิจ การตลาด แต่ยังสนใจความรู้สาขาปรัชญา ประวัติศาสตร์ จิตวิทยา เมตาฟิลิกส์ เขาอ่านอย่างนี้มาตลอด 50 ปี อาจจะถึง 7,000 เล่ม หลายท่านที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว ลองพิจารณาดูว่าตนเองอ่านหนังสือปีละกี่เล่ม Brian Tracy อ่านหนังสือวันละ 3 ชั่วโมง และสั่งสมความรู้มาอย่างมากมาย ในที่สุดเขาก็มีแนวคิดที่จะรวบรวมความรู้ความเข้าใจเหล่านี้สรุปเป็นประเด็นรวบยอดต่าง ๆ เพื่อบอกเล่าให้ผู้คนทั่วไปได้รับรู้และมีความรู้ที่จะนำพาไปสู่ความสำเร็จได้
หนังสือ “กินกบตัวนั้นซะ!” เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ในการชี้ประเด็นที่คนเราส่วนใหญ่มักจะเป็นกันอยู่แล้ว แต่ไม่มีใครกล่าวหรือพูดให้เห็นถึงแนวทางการปฏิบัติ หนังสือเล่มนี้ถูกแปลออกไปหลายภาษาทั่วโลก ซึ่งมีเนื้อหาและแรงจูงใจให้คนเรามองเห็นความสำคัญของการลงมือทำ โดยเฉพาะงานใหญ่หรืองานยาก เพราะโดยกฎของ 80/20 แล้ว ในวันหนึ่ง ๆ มักจะมีงานเข้ามามากมาย แต่จะมีงานอยู่ 20% ที่เป็นงานใหญ่งานยาก และสร้างผลกระทบให้กับองค์กรได้ถึง 80% คนเราส่วนใหญ่มักจะเลื่อนงานที่ว่านี้ออกไปก่อน หรือที่เรียกว่าอาการผัดวันประกันพรุ่ง แล้วก็เอาเวลาไปทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่มีความสำคัญอะไรนักจนหมดเวลาของวันนั้น สุดท้ายงานใหญ่ชิ้นนั้นก็ถูกปล่อยให้ล่าช้าไปอีกหนึ่งวันและอาจจะถูกเลื่อนออกไปอีกเรื่อย ๆ ก็เป็นได้
Brian Tracy ได้ก่อตั้ง Brian Tracy International ซึ่งเป็นสถาบันที่เชี่ยวชาญในการฝึกฝนพัฒนาบุคคลและองค์กรให้ไปสู่ความสำเร็จ Brian Tracy ได้กล่าวไว้ว่า You can’t hit a target you can’t see ซึ่งมีความหมายง่าย ๆ ว่า “คุณจะไม่สามารถทำตามเป้าหมายได้ ถ้าคุณไม่สามารถเห็นเป้าหมายนั้นซะก่อน” (ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนการยิงธนูนั่นเอง คนเราต้องรู้เป้าหมายและวิธีการที่แน่ชัดเพื่อให้ยิงธนูไปถูกเป้าหมาย:ผู้เขียน) Brian Tracy ส่งเสริมให้คนเราศึกษาหาความรู้จากผู้ที่ประสบความสำเร็จ ไม่โดยการซักถามก็โดยการอ่านและลงมือทำตาม อาจจะเรียกว่าเป็นสูตรสำเร็จก็ว่าได้ ถ้าคนเรามีหลักการที่ดี และมีความคิดที่ดีแล้ว สิ่งดี ๆ ก็จะเกิดขึ้นได้ ด้วยการฝึกตัวของเราเองให้เก่งขึ้น
จะเห็นได้ว่าแบบอย่างของ Brian Tracy นั้น เน้นไปที่การศึกษาหาความรู้เป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ง่ายมากในโลกยุคอินเทอร์เน็ตนี้ที่สามารถหาความรู้ได้มากมาย แต่เมื่อมีความรู้แล้วก็ต้องมาพร้อมกับการปฏิบัติเพื่อเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับการลงมือทำ การไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ความกล้าในการลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองและการกำหนดเป้าหมายให้ชัด รู้จักว่างานใดสำคัญก็ทำก่อน ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง และมีทัศนคติเชิงบวกต่อเรื่องต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบการใช้ชีวิต ซึ่งถ้าคนเราสามารถทำได้อย่างที่กล่าวมานี้ได้ ก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน แนวคิดต่าง ๆ ของ Brian Tracy นั้นยังมีอีกมาก เพราะเขาเขียนหนังสือขายดีกว่า 45 เล่ม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการไขว่คว้าความสำเร็จให้กับตัวเอง
ที่มารูป : standoutandreign.wordpress.com