บริการใหม่ของคนยุคโลกไร้พรหมแดน Pay Social เป็นบริการชำระเงินผ่านระบบโซเชียลอย่างเฟสบุ๊ค ซึ่งถือเป็นการบริการที่สะดวกสำหรับคนที่ค้าขายออนไลน์ ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาไปธนาคาร เพราะสามารถคลิกตามลิงค์ของร้านค้าเพื่อเข้าสู่ระบบชำระเงินได้ทันที
Pay Social ช่องทางใหม่ที่จะอำนวยความสะดวกทางการเงินสำหรับการชำระเงินค่าสินค้าบริการบนอินเตอร์เน็ต
โดยจุดมุ่งหมายคือ ต้องการบริการนั้นครอบคลุมการโอนเงินในทุกช่องทาง เช่นหักบัญชีธนาคาร , บัตรเครดิต , บัตรเดบิต เพย์พาว (Pay Pal) บิตคอยด์ ( Bitcion) รวมถึงจุดรับชำระเงินต่างๆ เช่น เคาท์เตอร์เซอร์วิส ซึ่งผู้ขายหรือร้านค้าต่างๆในอินเตอร์เนตสามารถจัดทำลิ้งค์ URL บนเว็บไซต์ www.pay.sn เพื่อส่งให้ลูกค้าเข้าสู่การชำระเงินได้ทันที สะดวกรวดเร็ว เพราะมีแอพพลิเคชั่นรองรับการใช้งาน และ ตรวจสอบได้ง่ายๆทุกรายการทั้งผู้รับและผู้โอน ในการกรอกรายละเอียด ตั้งชื่อลิ้งค์ของร้าน พร้อมเลขที่บัญชีการรับโอน ตามขั้นตอนที่ในเวปไซค์แนะนำ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายกับผู้ขายบนเฟซบุ๊ค , อินสตาแกรม , ไลน์ และอื่นๆ ซึ่งตอนี้นั้นเปิดให้สมัครกันแบบฟรีๆ แต่ข้อเสียคือค่าธรรมเนียมนั้นลูกค้าต้องจ่ายถึง 3.75% สำหรับการโอนแต่ละครั้งหากจ่ายด้วยบัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิต จ่ายผ่านธนาคาร หรือ เคาน์เตอร์เซอร์วิส และ สูงถึง 4.75% หากจ่ายผ่าน Paypal และ AMEX ซึ่งยังไม่รวมค่าภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% ซึ่งคิดต่อครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถเลือกแบบผ่อนชำระได้หากสินค้ามีราคาเกิน 3,000 บาทซึ่งจะมีสถาบันการเงินเข้าร่วมบริการสำหรับการผ่อนด้วย
อ่านแรกๆเหมือนดีใช่ไหม ?
ซึ่งมันสะดวกแต่ค่าธรรมเนียมที่ลูกค้าต้องรับภาระหลายคนมองว่าไม่เหมาะแน่นอนเพราะหากเป็นจำนวนเงินเยอะๆ นั่นหมายถึงลูกค้าต้องรับภาระส่วนนี้ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะมีคนใช้เยอะแค่ไหนสำหรับกลุ่มของลูกค้า แต่สำหรับกลุ่มเจ้าของร้านค้าแน่นอนว่าต้องใช้แน่นอนเพรามันสะดวกตรงที่เช็คยอดชำระได้ตลอดเวลา แต่กว่าเงินจะเข้าบัญชีนั้น ก็ต้องรอกันตามรอบบิลของผู้ให้บริการ Pay Social โดยกำหนดขั้นต่ำ 5,000 ต่อรอบบัญชีที่จะโอนจากระบบ Pay Social เข้ายังบัญชีเจ้าของร้านค้าที่ผูกกับบริการนี้ แน่นอนว่า ร้านค้าเล็กๆจะต้องรอให้เงินครบ แต่ก็ถือเป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจเพราะมันสะดวกกับลูกค้า นอกจากนี้ยังมีการให้บริการหักค่าธรรมเนียมจากผู้ค้านั่นหมายถึงร้านค้าออกให้ลูกค้า ซึ่งคงเป็นเฉพาะร้านค้าใหญ่ๆที่มียอดการซื้อขายต่อบิลสูงจึงยอมรับภาระนี้แทนลูกค้า
ซึ่งหากใครจะใช้บริการนี้คงต้องคิดกันหนักสำหรับลูกค้าแต่แน่นอนว่าลูกค้าอาจจะไม่รู้ว่าโดนค่าธรรมเนียมนอกจากจะกดลิงค์เข้าไปจ่ายเงิน หรือ ร้านค้าแจ้งบอกช่องทางชำระเงินที่หลากหลายให้ลูกค้าเลือก เช่นโอนผ่านธนาคารเหมือนปรกติทั่วๆไป ซึ่งลูกค้าหลายคนใช้บริการ Mobile Banking หรือ Internet Banking กันเป็นส่วนใหญ่ก็จะสะดวกเพราะหากร้านค้าไม่ใช่เป็นบัญชีต่างจังหวัดก็จะไม่โดนค่าโอน 25 บาท ดูเผินๆเหมือนจะสะดวกแต่ฝ่ายเสียผลประโยชน์คือลูกค้าที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้นหากร้านค้าไหนคิดจะใช้บริการนี้ควรคิดราคาสินค้าที่ไม่สูงเพราะลูกค้าส่วนมากยอมเสียเวลาไปโอนเงินที่ธนาคารมากกว่ามาเสียค่าธรรมเนียมและภาษีมูลค่าเพิ่ม อีกทั้งการให้บริการ Pay Social นั้น ร้านค้าต้องมีเอกสารทางภาษีด้วยสำหรับร้านค้าที่เปิดในรูปแบบบริษัท ดังนั้น แม่ค้าพ่อค้าออนไลน์ทั่วๆไปก็ใช้บริการนี้ไม่ได้ ซึ่งหลักเกณฑ์คร่าวๆ มีดังนี้
- Facebook Account (เป็นสมาชิกไม่ต่ำกว่า 30วัน)
- สำเนาบัตรประชาชน /สำเนาหนังสือเดินทาง/สำเนาใบอนุญาติทำงาน
- กรณีนิติบุคคล: หนังสือรับรองบริษัท, ภพ.20
- สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร
- หนังสือสัญญาไทยอีเพย์, หนังสือสัญญากสิกรไทย (หากยอดโอนเข้าบัญชีแต่ละรอบเกิน 5,000 บาท)
- รูปถ่ายตัวอย่างสินค้า และ/หรือบริการ
หากสนใจก็ลองหาข้อมูลกันดู เพื่อว่าเป็นอีกช่องทางที่สามารถช่วยให้การค้าเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้นหรือ สะดวกในเรื่องของการเช็คยอดเงินต่างๆ เพื่อความถูกต้อง หรือ ได้รับเงินเป็นก้อนสะดวกในการบริหารจัดการร้านค้า
อยากช้อปออนไลน์เหรอ ? ลองใช้แอพสุดฮิตพวกนี้สิ ! >> 10 App Shopping Online ที่น่าจับตามอง <<