วันนี้คุณสามารถที่จะเป็นคนที่เต็มไปด้วยความพร้อม มีหน้ามีตา มีการเงินที่ดี ที่รองรับการใช้งานได้อย่างที่บอกได้เลยว่าชีวิตมีความสงบสุขเป็นที่สุดแล้วนั่นเอง เพราะวันนี้ไม่มีอะไรที่ดี และสมบูรณ์แบบไปกว่าการที่คุณได้มีเงินไว้เพียงพอต่อการใช้จ่ายไปตลอดชีวิต และบั้นปลายชีวิตคุณนั้นจะไม่พบกับความลำบากจัดได้เลยว่าชีวิตดี แสนจะแฮปปี้กันเลยทีเดียว
ดังนั้น วันนี้เรามาเริ่มต้นในการเก็บออมเงินกันดีกว่านะคะ เพื่อชีวิตที่ดี อนาคตวันข้างหน้าที่ไม่ลำบาก มีเงินใช้จ่ายอย่างพอเพียง และมีความมั่นคงของชีวิต แต่ทั้งนี้เชื่อได้เลยว่าหลายคนในที่นี่มีจำนวนไม่น้อยเลยที่อยากจะเป็นเศรษฐี แต่เดินไปได้เพียงครึ่งทางเท่านั้นก็เกิดความท้อ และไม่อยากที่จะเดินต่อไป
ดังนั้นเราจึงมีวิธีการที่ดีๆ รวมไปถึงเทคนิคใน บริหารเงินให้รวย การสร้างเงิน และทำให้ตัวเองเป็นเศรษฐีได้ไม่ยากมาฝากกันนะคะ ทั้งนี้เพื่อเป็นแนวทางในการที่คุณจะได้นำไปดัดแปลง หรือแก้ไขใช้กับตัวคุณนั่นเองค่ะ
มาดูเคล็ดลับบริหารเงินให้รวย เป็นเศรษฐี ที่ทางเราเอามาฝากกัน เชื่อได้เลยว่ามีประโยชน์แก่ผู้อ่านไม่น้อยเลยนั่นเอง
1. สร้างจิตสำนึก
ก่อนอื่นก่อนที่คุณจะทำการเก็บเงินต้องสร้างจิตสำนึกในการรู้คุณค่าของเงินเสียก่อน โดยต้องพึงคิดเสมอว่า เงินทองเป็นของมีค่า ต้องใส่ใจอย่างจริงจังตั้งคำถามกับตัวเองว่า ในแต่ละเดือนคุณจะ “เหลือเก็บก่อนค่อยเอาไปใช้ หรือ เหลือจ่ายก่อนค่อยเอาไปเก็บ” ซึ่งจัดได้เลยว่าเป็นสมการออมเงินที่กว่าการที่เหลือจ่ายแล้วค่อยนำมาเก็บเป็นอย่างมาก เพราะเชื่อเถอะว่าถ้ารอให้เงินเหลือจากการใช้จ่ายนั้นเป็นส่วนน้อยมากๆเลย
ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือ หักเงินออมไว้ก่อน ที่เหลือจึงนำไปใช้จ่าย เพื่อกันเงินสำหรับการเก็บออมอย่างสม่ำเสมอในแต่ละเดือน แต่สำหรับคนที่มองหาความมั่งคั่ง สมการแบบนี้ก็ยังไม่เพียงพอ ต้องเลือกใช้สมการเศรษฐี นั่นคือรายได้ – เงินออม – เงินลงทุน = รายจ่าย โดยหลังหักเงินออมแล้ว ยังต้องแบ่งเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับลงทุนด้วย เพื่อให้เงินทำงาน เงินทองจะได้งอกเงยยิ่งๆ ขึ้นไป
2. ยิ่งเริ่มต้นลงทุนเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งรวยเร็วขึ้นเท่านั้น
มันคงดีไม่น้อยหากคุณคิดจะเริ่มต้น และตั้งหลักได้ด้วยเวลาที่แสนสั้นและรวดเร็ว ยิ่งเรามีการจัดการที่ดีตั้งแต่อายุน้อยๆเชื่อได้เลยว่าจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งนี้เป็นเพราะว่าระยะเวลามีผลต่อผลตอบแทนในการลงทุน”ยิ่งเริ่มต้นลงทุนเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งรวยเร็วขึ้นเท่านั้น”
ถ้าคุณเริ่มต้นออมเงินและลงทุนตั้งแต่วันนี้ คุณมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าเร็วขึ้น โดยระยะเวลาการลงทุนเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงสำหรับการได้รับผลตอบแทน เพราะยิ่งออมหรือลงทุนนานกว่า ก็รับผลตอบแทนที่มากกว่า และที่สำคัญต้องอย่าผัดวันประกันพรุ่งสำหรับการบริหารจัดการเงิน
3. รู้จักตนเองก่อนลงทุน
สำรวจตัวเองว่าคุณยอมรับความเสี่ยงในการลงทุนได้มากน้อยเพียงใด ปัจจุบันสถาบันการเงินต่างๆ มีแบบทดสอบวัดระดับความเสี่ยงสำหรับลูกค้าก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อเลือกวัดระดับความเสี่ยงที่ลูกค้าแต่ละรายจะยอมรับได้ และเลือกประเภทการลงทุนให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และเป้าหมายในการลงทุนของแต่ละบุคคล
4. ระวังความเสี่ยง
ผลตอบแทนมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงผลตอบแทนของการลงทุนแต่ละประเภทแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยง การลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อย ผลตอบแทนย่อมน้อยตาม แต่หากลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ก็อาจได้ผลตอบแทนที่สูงตามไปด้วยเช่นกัน แต่มีข้อพึงระวังว่าการลงทุนแบบนี้ก็เสี่ยงต่อโอกาสการขาดทุนได้เช่นเดียวกัน
5. มีแผนการรับมือ
ในการลงทุนแต่ละครั้งต้องคำนึงถึงความเสี่ยงเสมอ และควรที่จะหาแนวทางแก้ไข้ หรือการป้องกัน หรืออาจเป็นแผนการรับมือไว้ล่วงหน้าด้วยก็ดีไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่เคล็ดลับในการลงทุนที่สำคัญที่สุดเลยนั่นคือ ลงทุนอย่างเหมาะสมอย่าลงทุนกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทใดประเภทหนึ่งเพียงอย่างเดียวเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนสูง
เพราะนั่นหมายถึงคุณมีความเสี่ยงที่สูงมากในกรณีที่เกิดการขาดทุน แต่การจัดสรรพอร์ตการลงทุนโดยลงทุนในผลิตภัณฑ์การเงินแต่ละประเภทอย่างเหมาะสม ในระดับที่มีความเสี่ยงน้อยไปถึงมาก จะช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนได้
6. ศึกษาการลงทุนให้รอบคอบ
ย่อมเป็นที่แน่นอนว่าการลงทุนนั้นมักจะมากับความเสี่ยงเสมอ ดังนั้นหากคุณต้องการทีจะห่างไกลกับคำว่าเสี่ยง ต้องทำการศึกษาระบบการลงทุนให้รอบคอบก่อนที่จะทำการลงทุนกันเสียก่อน โดยอาจเป็นการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการลงทุน
“การลงทุนมีความเสี่ยง” โดยเฉพาะถ้าลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนและให้ผลตอบแทนที่สูง จำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจ มีข้อมูลรอบด้าน และมีการวางแผนจัดการที่ดี เพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้องแม่นยำ หากไม่มั่นใจให้เลือกปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน หรือผู้จัดการการเงินส่วนบุคคล
ซึ่งจะช่วยให้การตัดสินใจลงทุนไม่ผิดพลาด และจะช่วยวาง แผนการเงินให้สอดคล้องกับความต้องการและเป้าหมายในชีวิต เพื่อปูทางสู่อนาคตทางการเงินที่สดใสของคุณไงล่ะ
เป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยทีเดียวหากคุณต้องการที่จะเก็บออมเงินนั้น คือใจรักที่จะเก็บ และความเข้มแข็งที่บอกได้เลยว่าหากมีสองอย่างนี้อยู่ในตัวรับรองได้เลยว่าคุณจะเดินทางไปถึงฝั่งไม่ยากเลยล่ะ