การทำประกัน อาจไม่สามารถชดเชยความสูญเสียทั้งหมดได้ โดยเฉพาะทางด้านจิตใจ แต่อย่างน้อยสามารถช่วยชดเชยความเสียหายบางส่วนที่เกิดขึ้นได้ จึงอยากขอแนะนำประเภทและ ประโยชน์ของประกันแต่ละประเภท ที่เราควรมีไว้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงหรือ เหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ การแบ่งประเภทของประกันภัยสามารถแบ่งได้ ดังนี้
1. การประกันภัยบุคคล
1.1 การประกันชีวิต ( Life Insurance )
เป็นการวางแผนสำหรับอนาคต เพื่อสร้างหลักประกันต่อชีวิตและทรัพย์สิน ที่ให้ความคุ้มครองและความมั่นคงในระยะยาว กรมธรรม์ประกันชีวิตที่ดีนั้น จะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้เอาประกันภัยได้มากที่สุด แบ่งออกเป็น 4 แบบด้วยกัน คือ
- แบบชั่วระยะเวลา คือ ความคุ้มครองชีวิตในชั่วระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยบริษัทจะจ่ายเงินให้ผู้รับประโยชน์ เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น
- แบบตลอดชีพ คือ การทำประกันชีวิตไว้เพื่อเป็นมรดกแก่ลูกหลาน โดยบริษัทจะจ่ายเงินตามจำนวนเงินเอาประกันภัย ให้ผู้รับประโยชน์ ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต ไม่ว่าจะเสียชีวิตเมื่อใดก็ตาม
- แบบสะสมทรัพย์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองชีวิต และออมเงินระยะยาว โดยประกันรูปแบบนี้จะมีการจ่ายผลตอบแทนหรือเงินปันผลเป็นรายงวดตลอดระยะเวลาของสัญญา สำหรับเงินเอาบริษัทจะจ่ายให้แก่ผู้เอาประกันภัยในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่รอดพ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ หรือจ่ายให้แก่ผู้รับประโยชน์ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้
- แบบเงินได้ประจำ (แบบบำนาญ) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บออมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณ โดยบริษัทจะจ่ายเงินให้แก่ผู้เอาประกันภัยเป็นรายงวด และเริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ผู้เอาประกันภัยเกษียณอายุไปจนถึงวันที่กำหนดไว้ (อาจเป็นชั่วระยะเวลาหนึ่ง หรือตลอดชีพ ขึ้นอยู่กับแบบกรมธรรม์)
1.2 การประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล
คงไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่าอุบัติเหตุจะไม่เกิดขึ้นกับตัวเอง และแน่นอนว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วย่อมมีค่าใช้จ่ายตามมา การทำประกันอุบัติเหตุจึงเป็นการสร้างความคุ้มครองผู้เอาประกันภัย ในกรณีที่ ผู้เอาประกันภัยประสบอุบัติเหตุ ได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต บริษัทประกันภัยจะเข้ามารับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลของผู้เอาประกันภัย หรือจ่ายค่าทดแทนในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยต้องทุพพลภาพหรือเสียชีวิต
1.3 การประกันสุขภาพ
ประกันสุขภาพ มีความสำคัญ เปรียบเสมือนการออมเงินไว้เพื่อดูแลตัวเองยามเจ็บป่วย เพื่อช่วยในเรื่องค่าของใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล แต่ประกันสุขภาพนั้นต้องทำตั้งแต่ตอนที่ยังมีสุขภาพแข็งแรงดี เพราะ หากเป็นโรคใดโรคหนึ่งแล้ว บริษัทประกันภัยอาจไม่รับทำประกัน หรือ รับทำแต่ไม่คุ้มครองโรคที่เป็นอยู่ รวมทั้งหากทำประกันตอนอายุมาก ค่าเบี้ยประกันก็จะสูงขึ้นตามอายุที่มากขึ้นด้วย
การทำประกันสุขภาพ ควรทำให้คุ้มครองในหลายๆ ด้าน เช่น ค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากโรคภัยไข้เจ็บและอุบัติเหตุ ครอบคลุมโรคร้ายแรง เช่น โรคมะเร็ง โรคเส้นเลือดอุดตัน โรคหัวใจ หรือโรคเกี่ยวกับสมอง เป็นต้น และควรมีค่าชดเชยรายวัน ในกรณีที่ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งจะได้รับค่าชดเชยตามจำนวนวันที่นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล
ในบทความต่อไป จะต่อในหัวข้อของการประกันวินาศภัย ความหมาย และประโยชน์ของแต่ละแบบ