หากใครติดตามข่าวจากสื่อออนไลน์ คงอาจจะได้ผ่านตาเรื่อง สภาวะ ปัญหาฟองสบู่แตก กันบ้าง แต่หากไม่ได้อ่านหรือติดตามแต่ข่าวดาราคงพลาดข่าวนี้แน่นอน หากไม่อยากพลาดก็อ่านที่นี่เราสรุปสิ่งที่น่าสนใจที่เป็นสัญญาณเตือน ปัญหาฟองสบู่แตก จากภูมิภาคมาให้คุณได้วิเคราะห์และเตรียมความพร้อมในการรับมือหากมันเกิดขึ้นจริงๆ
ปัญหาหลักของเศรษฐกิจประเทศไทยในตอนนี้คือ เรื่องของการส่งออก ที่ต่ำลงทำให้โรงงานผลิตสินค้าหลายแห่งได้รับผลกระทบ แต่มันไม่ใช่แค่นั้นผลกระทบมันเป็นลูกโซ่ลามมาถึงประชาชนคนกินเงินเดือน คนงานรายวันและผู้ประกอบการรายย่อย โดยที่เห็นได้ชัดตอนนี้คือ โรงงานในเขตอุตสาหกรรภาคเหนือ ที่จ.ลำพูนซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงงานผลิตสินค้าต่างๆที่มีเจ้าของเป็นกลุ่มทุนจากต่างประเทศ เช่น โรงงาน โฮย่า ที่เป็นกลุ่มทุนจากญี่ปุ่น ซึ่งมีการผลิตสินค้าประเภท แผ่นแก้ว,ฮาร์ดดิสก์ ที่มีพนักงานมากกว่า 4,000 คนที่ตอนนี้ทางโรงงานเริ่มมีการใช้มาตรา 75 คือ ให้พนักงานฝ่ายผลิตหยุดงาน 400 คน โดยจ่ายค่าจ้าง 75% นอกจากนี้ยังมี บริษัท ทีเอสพีที, บริษัท เคอีซี และบริษัทลำพูนซิงเดนเก้นท์ ทีใช้มาตรานี้
ซึ่งผลกระทบไม่ใช่พนักงานโรงงานดังที่กล่าวมา แต่ สภาพภายในนิคมที่มีร้านค้า หอพัก บ้านเช่า ต่างได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ หลายรายติดประกาศขายสิ่งก่อสร้างทั้งบ้าน หอพัก ตึกแถว เพราะจำนวนคนงานในนิคมลดลง การค้าต่างๆเริ่มเงียบเหงา แม้ว่าที่พักแต่ละแห่งจะราคาถูก แต่ก็มีพนักงานย้ายออก บางแห่งไม่มีคนเช่ามาหลายเดือนแล้ว ส่วนร้านอาหารที่อยู่รอบๆนิคมก็เช่นเดียวกัน รายได้จากการขายอาหารก็ลดลงด้วยเช่นกัน หลายคนต้องปรับเปลี่ยนวิธีการค้าจากที่เคยขายอาหารสำเร็จรูปต้องเปลี่ยนมาขายอาหารสดเพราะพนักงานที่เหลืออยู่ในนิคม เริ่มหันมาประหยัดมากขึ้นเนื่องจากต้องเก็บเงินไว้สำรองหากถูกลดวันทำงาน หรือ โรงงานปิดตัวลง
จากเหตุการณ์นี้เชื่อว่าหลายคนยังคิดว่ามันก็เรื่องไกลตัว เพราะเป็นแค่ส่วนของโรงงานผลิตสินค้าในเขตภูมิภาค เท่านั้นแต่ส่วนกลางความต้องการแรงงานยังคงมีอยู่ และ โรงงานใหญ่ๆ หรือ ผู้ประกอบการส่งออกก็ยังส่งออสินค้าได้อยู่
แต่หากคิดให้ดีๆ จะเห็นได้ว่า การที่โรงงานที่ไปตั้งตามต่างจังหวัดยังต้องหยุดการผลิต ต้องลดจำนวนวันทำงาน ต้องลดพนักงาน มันตอบได้ว่าสภาพการส่งออกซึ่งเป็นเศรษฐกิจหลักในภาพรวมของประเทศนั้นมันย่ำแย่ลงจริงๆ
ไหนจะจีนลดค่าเงินหยวน โรงงานใหญ่ๆที่มีกลุ่มทุนจากเกาหลี ญี่ปุ่นหันไปเปิดฐานการผลิตยังประเทศเพื่อนบ้านที่ค่าแรงค่าครองชีพ ที่ถูกกว่าเรา ทำให้ตอนนี้หลายๆนิคมก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน เพียงแค่ไม่เป็นข่าวเท่านั้นและอาจมีเพียงบางส่วน
แต่หากเราไม่มีการเตรียมตัวรับรองว่าหากเกิดสภาวะฟองสบู่แตกขึ้นมาจริงๆ หลายๆคนรับมือไม่ทันแน่นอน เพราะในภาพรวมหนี้สินครัวเรือน หนี้สินบุคคล ของประชากรไทยนั้นก็ค่อนข้างสูง ปัญหาแรงงานต่างด้าวที่เขามาแย่งอาชีพคนไทยในหลายๆตำแหน่งงาน ก็กำลังส่งผลไหนจะเปิดอาเซี่ยนกลุ่มแรงงานถูกกฎหมายที่มีความสามารถก็จะแย่งงานกับคนไทย ยกตัวอย่างง่ายๆ งานเสริฟตามร้านอาหารแถวๆทองหล่อนั้นเชื่อไหมว่ารับแต่แรงงานต่างชาติเพราะบางคนนั้นพูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่าคนไทย ขยันและอดทนกว่าคนไทย หรือ อาชีพบางอย่างที่คนไทยคิดว่าเป็นงานหนักแต่พวกเขาทำได้ เช่นเข็นรถขายผลไม้ เด็กเสริฟตามร้านอาหารทั่วไป หรือ ตามโรงานอาหารทะเละส่งออก โรงงานผลิตอาหารต่างๆ ซึ่งโรงงานใหญ่ๆเหล่านี้มีแรงงานต่างชาติที่ถูกกฎหมายค่อนข้างเยอะกว่าแรงงานไทย เพราะคนไทยส่วนใหญ่ปัจจุบันนี้มีการศึกษาถึงระดับปริญญาตรีเป็นอย่างต่ำ เมื่อจบมาก็หวังทำงานสบายๆ เงินเดือนสูงๆ หรือ บางคนก็เปิดกิจการค้าขาย บางส่วนทำงานโรงงานแต่ก็เรียนไปด้วยเมื่อจบมางานหนักๆ หรือ งานที่ต้องใช้แรงงาน หรือ เป็นแค่พนักงานไลน์ผลิตในโรงงานก็ไม่อยาทำกันแล้ว ทำให้อัตรการว่างงานของคนไทยมีสูงขึ้น การแย่งตำแหน่งงานมีมากขึ้น แต่งานโรงงาน งานอื่นๆที่คนไทยมองข้ามก็เป็นช่องทางการเข้ามาทำงานของแรงงานต่างชาติ
ซึ่งเรื่องผลกระทบของแรงงานต่างชาติ ก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาเศรษฐกิจไทยในภาพรวม เพราะมีทั้งแรงงานผิดกฎหมายและถูกกฎหมาย ที่มันกระทบถึงการส่งออกเพราะนโยบายกีดกันทางการค้าของต่างประเทศในกลุ่มต่างๆเช่น อียู หรือ อเมริกา ผลพวงจากสิ่งต่างๆเหล่านี้มันก็สะท้อนกลับมาที่เศรษฐกิจไทยแต่คนไทยส่วนใหญ่คิดว่ามันไม่ใช่ปัญหาเรายังหลงกับภาพมายาของคำว่า ประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งคำๆนี้ได้ยินกันมากี่รุ่นแล้ว ปัญหาเศรษฐกิจแก้กันไม่รู้จบ หากเราไม่รู้จักเตรียมตัวรับมือ หรือ เตรียมความพร้อมทางการเงินให้กับตัวเองและครอบครัวในวันนี้ หากเกิด ปัญหาฟองสบู่แตก ในวันหน้าเราจะเป็นอย่างไร คำว่าข้าวยากหมากแพง ทุกวันนี้เราคงรู้ซึ้งกันดีอยู่แล้ว มองง่ายๆไข่ไก่ใบละ 4 บาท ปลาทูเข่งละ 25-30 กุ้งกิโลละ 200 อัพ แค่นี้คงบอกอะไรคุณได้บ้างไม่มากก็น้อยก็ลองไปคิดกันดูว่าควรทำอย่างไร