ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง คำนี้เป็นคนที่เราทุกคนนั้นเคยได้ยินกันมาไม่มากก็เยอะมากเพราะเป็นคำพูดที่พูดกันให้เราได้ยินอยู่บ่อยครั้ง มีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่กลัวคำนี้จนไม่กล้าที่จะลงทุนกับธุรกิจหรือลงทุนกับสิ่งต่างๆ เราควรจะสร้างความมั่นใจให้ตัวเองขจัดความ กลัวการลงทุน ต่างๆเหล่านั้นด้วยวิธีต่างๆ
วิธีที่หนึ่ง
ศึกษาข้อมูลทุกครั้งก่อนตัดสินใจ
เราควรหาความรู้และหาข้อมูลของสิ่งที่เราจะลงทุนก่อนเสมอ ว่าสิ่งที่เราจะลงทุนนั้น มีราคาต้นทุนที่มากมายรึเปล่า สามารถขายออกในราคามากมายขนาดไหน ศึกษาดูความคุ้มค่าของสิ่งที่เราจะลงทุนว่าสิ่งที่เราลงทุนนั้น ประชาการทั่วไปหรือคนส่วนใหญ่ต้องการหรืออยากได้กันรึเปล่า
การศึกษาข้อมูลสิ่งต่างๆเหล่านี้จะทำให้เรานั้นมั่นใจเกี่ยวกับการลงทุนได้มากขึ้น ทำให้เรามั่นใจได้ว่าเมื่อใดก็ตามที่เรานั้นได้ลงทุนแล้ว เราจะไม่รู้สึกเสียเปล่ากับการลงทุนสิ่งต่างๆเหล่า แต่การศึกษาข้อมูลการลงทุนก็ไม่ใช่เพียงสิ่งที่ของความสำเร็จ การศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนนี้ถึงแม้ว่าเราจะพิจารณาไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าดีแน่นอน ก็อาจจะล้มเหลวได้เหมือนกัน เพราะเรามีทางรู้ได้ว่าผู้บริโภคนั้นจะซื้อสินค้าของเราหรือเปล่า ลูกค้าจะเห็นสินค้าของเราเป็นสิ่งของที่ฟุ่มเฟือยหรือเปล่า
หรืออาจมองเป็นบริการที่ไม่จำเป็นต้องมี เช่น เราอาจจะศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหนังไดโนเสาร์ว่า หายาก มีความเหนียวแข็งแรงกว่ากระเป๋าทุกใบบนโลก ต้นทุนก็สูงแต่ราคาขายนั้นก็สูงตามเช่นกัน จึงนำมาทำเป็นกระเป๋าที่เหนียว แข็งแรง ทนทานทุกการใช้งาน ทนทานไฟ กันกระสุนและที่สำคัญใช้กันจนเป็นมรดกตกทอดกันห้ารุ่นก็ไม่ขาดหรือเสียหาย ลูกค้านั้นเมื่อเห็นสินค้าแล้วลูกค้าเหล่านั้นอาจจะคิดว่า แพงเกินไปถึงแม้ว่าจะเป็นกระเป๋าที่ดีมากก็ตาม ลูกค้าอาจจะนิยมกระเป๋าธรรมดาที่สานจากกิ่งไม้เสียมากกว่า เพราะถูกมากหาง่าย
วิธีที่สอง
หาจุดเด่นของสิ่งที่เราลงทุน
การมองหาจุดเด่นของสินค้าหรือบริการที่เราจะลงทุนนั้น คือการหาข้อได้เปรียบที่สินค้าจากบริษัทอื่นๆหรือบริการต่างๆจากบริษัทอื่นๆนั้นไม่มี ทำให้ลูกค้านั้นมองเห็นจุดเด่นของเราเหล่านี้และหันมานิยมซื้อสินค้าหรือใช้บริการของเราได้ ทำให้เรานั้นมั่นใจที่จะลงทุนได้มากขึ้นและกล้าที่จะลงทุนกับสิ่งนี้ในระดับหนึ่ง
แต่ที่สำคัญต้องดูว่าจุดเด่นของสินค้าหรือบริการที่เราจะลงทุนนั้นคุ้มค่ากับเงินที่เพิ่มขึ้นหรือมันจำเป็นที่จะต้องมีหรือเปล่า ถ้าไม่จำเป็นลูกค้าอาจจะซื้อสินค้าหรือใช้บริการแบบเดียวกันนี้จากบริษัทอื่นๆที่ถึงแม้จะคล้ายๆหรือเหมือนๆกันแต่ก็ใช้งานได้เหมือนกัน เช่น กระเป๋าหนังไดโนเสาร์ใบเดิมของวิธีที่หนึ่ง ลูกค้านั้นจำเป็นหรือเปล่าที่ต้องการเกระเป๋าที่มีสภาพที่อึด ทนทานต่อทุกการใช้งาน กันกระสุน ทนทานไฟ กระเป๋านั้นมีการใช้งานเพียงใส่สิ่งต่างๆที่สามารถพกพาไปได้สะดวก ใส่ของสิ่งต่างๆที่ต้องการใช้
และที่สำคัญลูกค้าหลายๆคนนั้นอาจจะเลือกกระเป๋าที่ทำมาจากอย่างอื่นที่ไม่ใช่กระเป๋าหนังไดโนเสาร์ถ้าลูกค้านั้นต้องการความทนทาน มีสิ่งต่างๆมากมายที่มีความทนทานสูง มีความเหนี่ยวแน่นยืดหยุ่นนำมาทำเป็นกระเป๋าที่ราคาไม่แพง ลูกค้าหลายคนนั้นต้องการของที่ใช้งานได้เหมือนกันและราคาต้องไม่แพงมาก
วิธีที่สาม
ดูระบบเศรษฐกิจอย่างสม่ำเสมอ
ระบบเศรษฐกิจนั้นจะเป็นตัวชี้วัดอะไรหลายๆอย่างของประชากรต่างๆ ระบบเศรษฐกิจนั้นสามารถชี้วัดอะไรหลายๆอย่างในเรื่องการบริโภคอาหาร ระบบเศรษฐกิจนั้นสามารถชี้วัดสิ่งต่างๆเกี่ยวกับการซื้อสินค้าหรือใช้บริการของคนทั่วไป
ซึ่งระบบเศรษฐกิจนี้ บางครั้งก็มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจธุรกิจต่างๆของเราโดยตรง หรือบางครั้งก็กระทบถึงระบบเศรษฐกิจต่างๆของเราทางอ้อม เช่น ธุรกิจการท่องเที่ยว ถ้าช่วงไหนเศรษฐกิจไม่ดีคนส่วนใหญ่เลือกที่จะประหยัดเงินอยู่กับบ้านเฉยๆไม่ออกไปเที่ยว จะทำให้ระบบเศรษฐกิจนั้นแลดูซบเซาลงไปมากมายและเกิดปัญหาอื่นๆตามมาเช่นธุรกิจโรงแรมเมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวก็ไม่คนเงินเข้าธุรกิจอาจทำให้จาดทุนได้อย่างมากมาย
ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาต่างๆเหล่า โรงแรมและธุรกิจการท่องเที่ยวหลายๆแห่งอาจจะเลือกทำการลดราคาเพื่อที่จะกระตุ้นนักท่องเที่ยวนั้น ให้มาเที่ยวตามสถานที่ต่างๆจองโรงแรมนอนพัก และทำให้ระบบการท่องเที่ยวนั้นดูคึกคักขึ้นอีกด้วย ถ้าเรามั่นใจและวิเคราะห์ถึงตรงนี้แล้วว่าสินค้าหรือบริการของเรานั้น ไม่หวั่นไหวต่อระบบเศรษฐกิจหรือหวั่นไหวน้อย เราก็สามารถมั่นใจในการลงทุนได้มากมาย
วิธีที่สี่
หาวิธีต่างๆให้คนนั้นหันกลับมาใช้สินค้าของเราอีก
สินค้าต่างๆของเรานั้น ถึงแม้จะดีและทนทานมากมาย แต่ในทางกลับกันถ้าสินค้าชิ้นนั้น ลูกค้าซื้อไปครั้งหนึ่งแล้ว และไม่กลับมาซื้ออีกด้วยเหตผลที่ว่าสินค้าตัวนั้นที่เคยซื้อไปนั้นยังไม่ชำรุดหรือยังใช้ได้อยู่ เราก็อาจจะขาดทุนเพราะของเราดีเกินได้เช่นกัน
เพราะเหตุนี้สินค้าต่างๆหรือบริการต่างๆจึงต้องสร้างเทคนิคใหม่ๆขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นคำว่าแฟชั่นที่ทำให้สินค้าต่างๆที่เกี่ยวกับสิ่งของเครื่องใช้สามารถขายออกได้ตลอดเวลา อาจจะเป็นความอร่อยของอาหารที่ทำให้คนที่เคยซื้อไปบริโภคนั้นเกิดอาการอยากกลับมาบริโภคอีกครั้ง หรือจะเป็นความสะดวกสบายที่มากขึ้นอย่างคอมพิวเตอร์ที่นับวันยิ่งพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
ทุกอย่างล้วนเป็นแผนทางธุรกิจ ถ้าเราศึกษาในส่วนนี้แล้วเรามั่นใจว่าเรามีจุดเด่นและสามารถทำให้ลูกค้ามาซื้อหรือใช้บริการของเราซ้ำจนติดได้ เราจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
การลงทุนนั้นหากเรามั่นใจว่าสิ่งที่เราลงทุนนั้นจะประสบความสำเร็จแน่นอน ก็ควรที่จะเลือกลงทุนด้วยตัวเองมากกว่าการฟังเสียงของคนอื่น มีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จทั้งๆที่ตอนเริ่มการลงทุนนั้น พวกเขาเหล่านั้นแลดูจะไปไม่รอดเลยเสียด้วยซ้ำ เพราะพวกเขาเหล่านั้นผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆได้