รถยนต์ คือ สิ่งที่อำนวยความสะดวกในการเดินทางจากที่หนึ่งไปที่หนึ่ง ทำให้หลายคนเลือกที่จะโดยสารด้วยรถยนต์ สำหรับผู้ที่ไม่มีรถยนต์จึงมองหารถยนต์ใหม่หรือรถมือสองสักคันไว้ใช้ แต่เมื่อดูเงินสดในบัญชีไม่พอกับราคาของรถยนต์ จึงเลือกที่จะเป็นหนี้ด้วยการซื้อรถยนต์แบบผ่อนชำระ
ทั้งนี้เมื่อได้รถยนต์มาครอบครองจึงถึงช่วงเวลาที่ต้องผ่อนส่งค่างวดรถยนต์ พอเริ่มต้นส่งไปได้สักระยะหนึ่ง เริ่มชักหน้าไม่ถึงหลัง จึงส่งผลให้การผ่อนส่งค่างวดรถยนต์ทำได้ไม่เต็มที่ หรือถึงขนาดผิดชำระ แล้วจะทำอย่างไรเมื่อรู้ตัวว่าไม่สามารถผ่อนไหวอีกต่อไป ทางออกที่นิยมทำกัน คือ
1. วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ขาย หรือโอนกรรมสิทธิให้กับผู้อื่น ที่สามารถผ่อนต่อได้ จากนั้นนำเงินที่ได้ไปปิดภาระหนี้
2. การขอ Refinance กับสถาบันการเงินเดิมที่ผ่อนชำระหนี้รถยนต์อยู่ โดยวิธีนี้จะช่วยยืดระยะเวลาในการผ่อนออกไปจากที่ทำสัญญาก่อนหน้านี้ ซึ่งจะต้องมีระยะเวลาในการผ่อนชำระคงเหลือไม่เกิน 12 เดือน เช่น มีกำหนดระยะเวลาในการผ่อนชำระรวม 60 เดือน ผู้เช่าซื้อต้องผ่อนไปแล้วไม่น้อยกว่า 48 เดือนจึงจะสามารถ Refinance ได้ สำหรับระยะเวลาในการขอ Refinance ใหม่ สามารถทำได้สูงสุดไม่เกิน 60 เดือน เมื่อรวมอายุรถต้องไม่เกิน 17 ปี วิธีการนี้จะทำให้การผ่อนจ่ายต่อเดือนน้อยลดลง แต่จะต้องแบกภาระในเรื่องของดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น แต่อย่างน้อยก็เป็นการขยายเวลาในการผ่อนชำระหนี้ หากตัดสินใจที่จะสู้ต่อ
3.หากมีรถยนต์สองคัน แล้วคันแรกไม่มีภาระที่ต้องผ่อนจ่ายอีกต่อไป สามารถนำรถยนต์คันดังกล่าวไปขายเพื่อนำเงินสดมาเป็นค่าผ่อนชำระคันใหม่ หรืออาจจะเป็นการนำรถยนต์ไปแลกขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน แต่ผู้ขอสินเชื่อต้องมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในเล่มทะเบียนรถยนต์ที่ปลอดภาระหนี้หรือภาระผูกพันใดๆ สามารถขอวงเงินสินเชื่อสูงถึงร้อยละ 80 ของราคาที่บริษัทฯ ประเมิน
ทางออกนั้นมีเสมอสำหรับผู้เป็นหนี้ แต่ทางที่ดีที่สุด คือ ประเมินตัวเองว่าสามารถผ่อนชำระได้หรือไม่ จะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลกับดอกเบี้ยหรือภาระในแต่ละเดือน