โรเบิร์ต คิโยซากิ ผู้เขียนหนังสือขายดีระดับโลกชุด “พ่อรวยสอนลูก” โดยได้ถ่ายทอดความรู้ที่ได้จากคำสอนจากพ่อรวยของเขา ซึ่งทำให้ผู้คนได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโลกของการเงินได้ดียิ่งขึ้น
หนังสือชุด พ่อรวยสอนลูก ได้ตีพิมพ์ออกมาหลายเล่มมาก จนบางคนเริ่มงงว่าควรจะอ่านเล่มไหนก่อนดี ซึ่งผมขอแนะนำเลยว่าควรจะอ่านเล่มแรกสุดก่อน เพราะเป็นเล่มที่สอน บทเรียนของพ่อรวย (Rich Dad’s Lesson) ทำให้ผู้อ่านได้มีรากฐานทางความคิดที่ดีทางการเงิน และเป็นการปูทางไปสู่การพัฒนาความรู้และทักษะด้านอื่นๆ ที่สามารถหาอ่านได้จากหนังสือเล่มอื่นๆ ของเขา
บทเรียนจากพ่อรวย จะมีอยู่ทั้งหมด 6 บท โดยสามารถสรุปบทเรียนในแต่ละบทได้ดังนี้
1. คนรวยไม่ทำงานเพื่อเงิน
ข้อนี้อาจจะแย้งความรู้สึกของใครหลายๆ คน เพราะไม่ว่าคนรวยหรือคนจน ต่างก็ต้องการเงิน ถ้าไม่ทำงานเพื่อเงินแล้วจะทำงานเพื่ออะไร คำตอบคือ ในขณะที่คนจนตั้งหน้าตั้งตาหาเงิน โดยโฟกัสไปที่รายได้ที่จะได้มา (เพื่อมาใช้จ่าย) แต่คนรวยจะโพกัสไปที่การสร้างทรัพย์สิน ถึงแม้ในตอนแรกคนรวยก็ทำงานเพื่อหาเงินเหมือนกัน แต่เมื่อหาเงินแล้วจะต้องนำเงินไปบางส่วนเพื่อลงทุนในทรัพย์สินเสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งที่ทรัพย์สินสามารถสร้างรายได้ด้วยตัวมันเองได้มากพอที่จะทำให้เกิดกระแสเงินสดที่เลี้ยงดูเราได้
เพื่อเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพ คนที่ทำงานเพื่อเงินก็เหมือนคนที่เพาะถั่วงอกขาย อาจจะใช้เวลาแค่ 2-3 วันก็สามารถนำไปขายได้ แต่ถ้าหยุดทำก็ไม่มีรายได้ ในขณะเดียวกันถ้าเป็นคนรวยในช่วงแรกก็อาจจะเพาะถั่วงอกเหมือนกันเพื่อให้พอเลี้ยงดูตัวเองได้ แต่ก็จะแบ่งเวลามาปลูกต้นมะม่วงด้วย ซึ่งก็อาจใช้เวลาในการปลูกหลายปี แต่พอมันโตได้ที่ออกผลมาให้เราแล้ว เราก็เก็บกินอย่างเดียว โดยที่เราไม่ต้องไปทำอะไรเพิ่มแล้ว อุปมาต้นมะม่วงก็เหมือนกับทรัพย์สิน ถ้าอยากเป็นคนรวยต้องไม่ทำงานเพื่อเงิน แต่ต้องรู้จักสร้างทรัพย์สินครับ
2. คนรวยต้องรู้เรื่องเงินๆ ทองๆ
ความรู้เรื่องเงินๆ ทองๆ หรืออาจจะเรียกได้ว่าความฉลาดทางการเงิน ซึ่งเป็นสิ่งที่คนรวยทุกคนต้องมี ประกอบด้วย การหารายได้ (Earning) การใช้จ่าย (Spending) การลงทุน (Investing) และการเก็บออม (Saving) คนส่วนใหญ่จะมีความรู้เฉพาะการหารายได้ แล้วนำรายได้ไปใช้จ่าย แค่นั้น แต่การที่จะเอาตัวรอดในเกมการเงินนั้นจะต้องมีความรู้ในเรื่องของการลงทุน และการออมด้วย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับบุคคลนั้นด้วยว่ามีหารายได้มาเพียงพอกับรายจ่าย และมีเงินเพียงพอที่จะนำมาลงทุนและออมหรือไม่
ยิ่งไปกว่านั้นคนรวยจะต้องรู้เรื่องงบการเงิน ไม่ว่าจะเป็นงบรายรับ-รายจ่าย และงบดุล ที่สำคัญต้องแยกให้ออกว่าอะไรคือทรัพย์สิน และอะไรคือหนี้สิน โดยโรเบิร์ตได้ให้คำจำกัดความง่ายๆ ว่า ทรัพย์สิน คือ สิ่งที่ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนหนี้สิน คือ สิ่งที่ทำให้มีรายจ่ายเพิ่มขึ้น ดังนั้นใครที่ซื้อบ้าน ซื้อรถ แล้วต้องจ่ายค่าผ่อนเป็นๆ อย่าคิดว่าสิ่งเหล่านนั้นคือทรัพย์สิน เพราะจริงๆ แล้วมันคือ หนี้สิน ต่างหาก
3. คนรวยรู้จักเพิ่มทรัพย์สิน และมีธุรกิจของตัวเอง
ทรัพย์สินและธุรกิจของตัวเองในที่นี้หมายถึงทั้งที่มีโดยตรงและโดยอ้อม ได้แก่
- ธุรกิจ (โรเบิร์ตบอกว่าเป็นทรัพย์สินที่มีพลังทวีสูงมาก มีโอกาสทำเงินให้กับเจ้าของสูงมาก)
- อสังหาริมทรัพย์ (หมายถึงการลงทุนเพื่อค่าเช่าเท่านั้น ซึ่งเป็นการสร้างทรัพย์สินอย่างแท้จริง ไม่ใช่ซื้อมาเพื่อเก็งกำไร เพราะการเก็งกำไรเป็นการลงทุนบนข้อคิดเห็น ไม่ใช่ข้อเท็จจริง)
- ตราสารทางการเงิน เช่น หุ้น กองทุนรวม เป็นต้น ซึ่งก็ต้องเป็นการซื้อมาเพื่อได้รับเงินปันผล ไม่ใช่เพื่อเก็งกำไรเช่นกัน
- ทรัพย์สินทางปัญญา เช่น งานเขียน งานเพลง สิทธิบัตร เป็นต้น
4. คนรวยรู้ที่มาของภาษี และประโยชน์ของนิติบุคคล
คนรวยจะเข้าใจเรื่องภาษี และข้อกำหนดต่างๆ โดยจะรู้จักการใช้ประโยชน์จากการลงทุนบางประเภท หรือบางอย่างที่ทำให้ไม่ต้องเสียภาษีหรือเสียภาษีน้อยลง (กว่าบุคคลธรรมดา)
5. คนรวยพิมพ์เงินใช้เอง
ไม่ได้หมายถึงว่าคนรวยมีสิทธิพิเศษที่จะสามารถผลิตเงินขึ้นมาเท่าไหร่ก็ได้ แต่เพราะเนื่องจากคนรวยทีทรัพย์สินที่มาก ซึ่งทรัพย์สินนั้นเอง เปรียบเสมือนแท่นพิมพ์ ที่สามารถสร้างกระแสเงินสดให้กับเจ้าของอย่างต่อเนื่อง
โรเบิร์ตยังบอกอีกด้วย “Money is an idea” หรือ “เงินคือไอเดีย” ถ้าคุณมีไอเดีย ที่สามารถแก้ปัญหาอะไรบางอย่างให้กับคนอื่นได้ คุณก็จะสามารถสร้างเงินได้ ดังนั้นปัญหามันไม่ได้อยู่ที่คุณมีเงินรึเปล่า แต่มันอยู่ที่ว่าคุณมีไอเดียรึเปล่าต่างหาก
6. คนรวยทำงานเพื่อเรียนรู้
นอกจากเรื่องเงินๆ ทองๆ แล้ว ยังมีอีกหลายเรื่องที่คนรวยจำเป็นต้องรู้ ได้แก่ เรื่องบัญชี ภาษี หลักการและวิธีการลงทุน ต้องเข้าใจเกี่ยวกับการตลาด ต้องรู้เรื่องกฎระเบียบ และข้อกฎหมาย และต้องมีทักษะด้านการบริหารกระแสเงินสด ระบบ และคน
คนรวยนั้นเรียนรู้โดยการตั้งคำถาม โดยจะถามตัวเองเสมอว่าอะไรบ้างที่จำเป็นต้องรู้ และต้องรู้ด้วยว่าจะหาคำตอบได้จากที่ไหน ในขณะที่คนจนจะไม่ค่อยยอมทุ่มเทแรงกาย และเวลาในการหาคำตอบที่เป็นข้อเท็จจริง
เมื่อคุณรู้บทเรียนทั้ง 6 ข้อแล้ว การสร้างความมั่งคั่งทางการเงินของคุณก็ไม่ใช่เรื่องยาก!