กลับมาอีกครั้งสำหรับซีรีย์มือใหม่เข้าตลาดหุ้น ซึ่งแน่นอนว่าเป็นมหากาพย์ที่ยาวอย่างแน่นอน ที่กล่าวเช่นนี้เพราะหลังจากที่ศึกษาข้อมูลอย่างจริงจัง พบว่าการเล่นหุ้นนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด มีเงื่อนไขและวิธีการที่หลากหลาย รวมถึงข้อมูลต่างๆที่ผู้ลงทุนหรือนักเล่นหุ้นจะต้องรู้และทำความเข้าใจก่อนที่จะโบยบินเข้าตลาดหุ้น
ดังนั้น ในซีรีย์ที่ 3 จะเป็นการพูดถึงต่อเนื่องจากซีรีย์ที่ 2 จะเป็นการกล่าวถึงขั้นตอนการเตรียมตัวที่จะเข้าสู่ตลาดหุ้นว่าต้องเข้าใจในสิ่งใดบ้างและเตรียมตัวอย่างไรบ้าง โดยแบ่งออกเป็นดังนี้
วางแผนการลงทุน
อันดับแรกเริ่มเลยสำหรับผู้ที่ต้องการจะเข้าสู่ตลาดหุ้น คือ การวางแผนในเรื่องของวิธีการซื้อ การค้นหาข้อมูลต่างๆ รวมถึงเป้าหมายของการลงทุนว่าต้องการจะลงทุนในรูปแบบไหน และที่สำคัญ คือ การลงทุนที่เรากำลังจะลงทุนในหุ้นนี้ เรามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน มีเงินทุนที่สามารถนำไปลงทุนได้โดยไม่เดือดร้อนกับชีวิตประจำวันหรือไม่
ศึกษาข้อมูล รู้จักหน่วยงาน
การลงทุนที่ดี จะต้องเข้าใจถึงข้อมูลสิ่งที่เรากำลังจะลงทุน รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุนของเรา โดยสามารถแบ่งออกเป็นดังนี้
- กลต (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์) ดูแลทุกเรื่องเกี่ยวกับหุ้น ตั้งแต่ Broker รวมไปถึงการจดทะเบียนหุ้นของบริษัทที่ต้องการเข้าตลาดหลักทรัพย์
- Settrade ผู้ให้บริการระบบซื้อขายหุ้น (Trade) ผู้สร้างตลาดให้ซื้อขายได้
- TSD ศูนย์ให้บริการฝากหลักทรัพย์ ทำหน้าที่ชำระราคา รับประกันว่าถ้าเราซื้อแล้วจะได้หุ้น แต่ถ้าเราไม่จ่ายก็จะเกิดปัญหากับเราแน่นอน โดยระยะเวลาชำระจะใช้เวลา 3 วันทำการ เช่นเดียวกันกับการขายหุ้น เมื่อขายก็ต้องรอ 3 วัน รวมถึงทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของผู้ซื้อหุ้น
- TSI หน่วยงานที่ให้ความรู้ด้านการลงทุนให้กับนักลงทุนหรือนักวิเคราะห์
เรียนรู้ตัวเอง
การเป็นนักลงทุนที่ดีต้องเข้าใจตนเอง รู้จักตนเอง ว่าสามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยเพียงใด ไม่ใช่ว่าพอหุ้นตก กลับสร้างความวิตกให้กับตนเอง กินไม่ได้นอนไม่หลับ ต้องเข้าใจตัวเองว่าเป็นคนที่รับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน หากกลัวความเสี่ยงก็ต้องลงทุนในแบบระยะยาว หรืออาจจะเป็นการซื้อทีเดียวและถือยาว รวมถึงมีเวลาในการใช้เวลากับหุ้นมากน้อยเพียงใด
เข้าใจวิธีการลงทุน
การลงทุนในตลาดหุ้น นั้นมีเทคนนิคที่มากมาย ซึ่งไม่สามารถที่จะกล่าวได้หมดในบทความนี้ แต่มีอยู่เทคนิคหนึ่งที่นักลงทุนนิยมทำกัน คือ
การลงทุนแบบ VI (Value Investor) คือ การลงทุนในหุ้นที่มีสถานะภาพที่ดีหรือมีคุณค่าดี โดยเน้นการเข้าซื้อที่มีมูลค่าราคาตํ่ากว่าราคาปรกติในตลาด หรือลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี ซึ่งจะเหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในแบบระยะยาว
วิธีการดูในหุ้น VI ให้ดูในกลุ่มที่อยู่ในดัชนี High SD คือกลุ่มหุ้นที่ปันผลสูง โดยแต่ละ Broker จะมีข้อมูลของหุ้นที่ปันผลสูง ผู้ลงทุนสามารถที่จะทำการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้
การลงทุนแบบ Growth Investor คือ การลงทุนในหุ้นที่เติบโต เป็นการคาดการณ์ในตัวหุ้นที่กิจการเติบโตกว่าค่าเฉลี่ย เพื่อประเมินค่าในอนาคต ที่จะส่งผลต่อการทำกำไรในอนาคตได้
การลงทุนแบบ Speculator คือ นักลงทุนที่ไม่สนใจเรื่องของผลประกอบการ หรือการปันผล แต่จะดูแค่กราฟในแต่ละวัน โดยจะเข้าทำการเข้าซื้อหุ้นเพื่อทำกำไรในระยะยาวเท่านั้น และเน้นทำกำไรจากส่วนต่างเพียงเท่านั้น (Capital Gain) แต่การเล่นหุ้นลักษณะนี้มีความเสี่ยงสูงเพราะเป็นการเก็งกำไร ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะสูญเสีย และต้องมีเวลาในการเฝ้าดู
เข้าซื้อและติดตามข้อมูล
เมื่อเริ่มเข้าใจถึงวิธีการลงทุนแล้ว สิ่งที่นักลงทุนจะต้องทำ คือ การเริ่มจะเข้าซื้อและติดตามข้อมูล โดยมีวิธรการดังต่อไปนี้
- เลือกบริษัทหลักทรัพย์ที่ต้องการลงทุน หลังจากที่ได้ทำการศึกษาข้อมูลของบริษัทหลักทรัพย์นั้นๆแล้ว เพราะการเลือกบริษัทหลักทรัพย์ แต่ละทีจะมีข้อดีแตกต่างกัน และต้องเลือกบริษัทที่มีความมั่นคง เพราะหากเลือกบริษัทหลักทรัพย์ที่ไม่มั่นคง บริษัทอาจจะล้ม รวมถึงการให้บริการของเจ้าหน้าที่จะต้องมีความเชี่ยวชาญ และช่องทางการให้บริการที่สะดวก มีบริการที่หลากหลาย และที่สำคัญ คือ ข้อมูลบทวิเคราะห์จะต้องมีความน่าเชื่อถือ รวมถึงระบบซื้อขายที่มีความปลอดภัย
- ตรวจสอบบัญชีที่คุณต้องการจะทำการลงทุน โดยสามารถเลือกลงทุนได้จากบัญชี
Cash Balance คือ บัญชีที่คุณทำการฝากเงินไว้แล้วสามารถซื้อได้ตามเงินที่มีอยู่ในบัญชี เมื่อต้องการทำซื้อ ก็ทำคำสั่งซื้อ ระบบก็จะตัดผ่านบัญชี พอขายเงินก็จะถูกโอนเงินกลับมา เวลาซื้อระบบจะตัดเงินในวันที่ 3 ของวันทำการ และที่สำคัญการฝากเงินแบบนี้จะได้รับดอกเบี้ยสูงกว่าการฝากเงินแบบออมทรัพย์ทั่วไป
Cash Collateral คือ การซื้อผ่านโทรศัพท์ (Broker) ก่อนและในระยะเวลา 3 วันระบบจึงจะค่อยทำการตัด บัญชี โดยการนำเงินไปฝากก่อนถึงวันกำหนดชำระ แต่ถ้าเงินไม่พอในการตัดบัญชี จะต้องเสียค่าปรับวันละ 500 พร้อมดอกเบี้ย
Credit Balance คือ เป็นการให้กู้ยืมบางส่วนไปซื้อ แต่ผู้ที่จะกู้ได้จะต้องมีประวัติการเทรดที่ดี และเคยทำการเทรดมาแล้ว
- เลือกช่องทางการลงทุน เช่น ผ่านอินเตอร์เน็ต หรือผ่าน Broker
การเข้าซื้อหุ้น สามารถทำได้ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตที่เรียกว่าโปรแกรม Streaming โดยสามาถเข้าผ่านลิงก์ที่ทางบริษัทหลักทรัพย์ได้ให้ไว้พร้อมรหัสผ่าน หรือผ่านทาง Settrade
- ทำความเข้าใจเงื่อนไขการซื้อและกฎเกณฑ์ต่างๆ
เงื่อนไขการซื้อขายในหุ้น หรือเงื่อนไขต่างๆนั้นมีความสำคัญอย่างมากที่ผู้ลงทุนจะต้องทำความเข้าใจ เพราะเนื่องจากกฎระเบียบของการซื้อขายนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจ ซึ่งจะกล่าวในซีรีย์ต่อๆไป
- เริ่มต้นทำการเข้าซื้อและขาย
หลังจากที่เข้าใจถึงหลักเกณฑ์และขั้นตอนการซื้อต่างๆเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงขั้นตอนทำการซื้อหุ้น ซึ่งในส่วนนี้จะขอทำการศึกษาเพิ่มเติมแล้วจะนำมาถ่ายทอดให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงเทคนิคและกลยุทธ์ในการซื้อหุ้นอย่างละเอียดในซีรีย์ต่อไป
จากที่กล่าวมาทั้งหมด น่าจะพอมองเห็นภาพที่ชัดขึ้นว่าการจะเข้าสู่ตลาดหุ้นนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จะต้องเข้าใจข้อมูลที่หลากหลาย แม้จะเข้าใจแล้ว แต่เมื่อลงมือซื้อขายก็ต้องมีความชำนาญด้วยเช่นกัน ซึ่งในซีรีย์ที่ 4 จะกล่าวแบบละเอียดถึงการดูหุ้นและการซื้อและขาย ติดตามอ่านกันต่อได้ในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน