หากคุณได้ลองลิ้มรสการเป็นเจ้านายเงินในมือคุณบ้างละ! จะเป็นยังไง! ถ้าทั้งชีวิตของคุณที่คุณคิดว่า คุณทำงานด้วยความอดทนอยู่ทุกวันๆ ยอมโดนโขกสับอย่างยากลำบาก เพื่อเงินทั้งนั้น
เพราะฉะนั้น เราเลยอยากให้คุณได้ลองสำผัสชีวิต ดี๊ดี ของการใช้งานเงิน ให้ทำงาน อย่างชิวชิว ในครั้งนี้ เพื่อที่คุณจะได้มาซึ่งมูลค่าทางการเงินที่งอกงาม และ การรู้จักใช้เงินให้เป็น (ที่มากกว่า การซื้อของแล้วหมดไป) เพราะฉะนั้น จงอย่าได้รอช้า! มาดูวิธีใช้เงินทำงานกันดีกว่า!โดย แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนดังต่อไปนี้!
1. เป็นคนมั่นๆ ด้วยเงินสำรองที่มี!
การที่จะทำอะไรสักอย่าง ที่มีอัตราการเสี่ยงสูง โดยเฉพาะ เรื่องเงินๆทองๆแล้วละก็ คุณก็ยิ่งต้องมีสิ่งสำรองเอาไว้รับรองความเป็นไปได้ไม่ว่าจะ ทางดีหรือทางร้าย เงินทุนสำรองนั้นเป็นสิ่งที่เรานำแยกตัวออกมาจากเงินเดือน เงินสำรองถ้าแยกออกจากเงินออมได้ จะดีมาก ทั้งนี้การมีเงินทุนสำรองนั้น เป็นเรื่องสำคัญมาก เนื่องจากเป็นก้าวแรกก่อนการที่เราจะลงทุนกับอะไรก็ตาม คือแผนการที่เราต้องกำหนดขึ้นมาเพื่อรองรับ การลงทุนนั้นมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเสี่ยงเรื่องที่ดี หรือเรื่องที่ไม่ดี ก็ตาม เงินสำรองจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยควรมีเงินได้ แล้วถ้ามีรายได้ไม่แน่นอนในแต่ละเดือน แถม ยังต้องรับภาระในครอบครัวมาแบกไว้บนบ่าอีก ก็ควรจะมีเงินสำรองเอาไว้ใช้ในเวลาประมาณครึ่งปี เพื่อป้องกันการฉุกเฉินที่จะเกิดขึ้นตามมา แนะนำว่า เงินส่วนนี้ควรจะเก็บเอาไว้ในสมุดเงินฝากของธนาคารด้วยนะ หรืออาจจะเป็นกองทุนตลาดการเงิน เพื่อเป็นหลักประกันยืนยันตัวเราได้ว่า เงินต้นจะไม่หายแว๊บไปไหน และยังผลต่อการมีสภาพคล่องตัวสูง ซึ่งจะเหมาะกับเหตุฉุกเฉินต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้น เมื่อเล็งเห็นความสำคัญของการสำรองเงินเงินแล้ว (ซึ่งเป็นสิ่งแรกที่ควรจะมี ) ก็ให้รีบทำการสำรองเงินไว้เลย หากต้องการลงทุนทางการเงินแล้วควรจะมีสิ่งรองรับเอาไว้ในยามเกิดปัญหาอีกด้วย เห็นไหมว่าการมีเงินทุนสำรองนั้นดีแค่ไหน เพราะฉะนั้นก่อนที่จะให้เงินทำงานให้เราอย่าลืมเริ่มเก็บเงินทุนสำรองไว้ให้มากพอก่อนนะคะ
2. อุ่นใจ สบายใจ ด้วยการทำประกัน
ไม่มีใครที่อยากเกิดอุบัติเหตุหรอกใช่มั้ย (ยกเว้นพวกหัวหมอ ที่พยายามทำให้เกิดอุบัติเหตุ เพื่อเรียกร้อง เอาเงินประกัน) แน่นอนว่า อุบัติเหตุคือ การเกิดสาเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นมา ไม่วาจะด้วยความประมาณ หรือ สภาพแวดล้อมไม่อำนวย ก็ดีเราจึงควรจะมีประกันอุบัติเหตุเอาไว้ก่อนที่จะเริ่มต้นการลงทุน แน่นอนว่า เวลาเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริงๆ จะต้องมีวงเงินการคุ้มครองอุบัติเหตุที่พอกับค่ารักษาที่เป็นอยู่ ถ้าหากโชคร้ายต้องเกิดอุบัติเหตุแล้วนั้น ตัวประกันที่เราทำนั่นละ จะช่วยบรรเทาความเสียหายลดลงไปได้ ค่ารักษาพยาบาลไม่ต้องเสียเพิ่ม จะได้ไม่เสียจังหวะของการลงทุน ซึ่งนอกจากประกันอุบัติเหตุแล้ว ควรจะมีการทำสิทธิประกันสุขภาพอย่างอื่น เอาไว้ด้วย หากที่ทำงานยังไม่มีสวัสดิการเพื่อการรักษานี้ หากว่าบริษัทที่เราทำงานอยู่ มีนโยบาย เปิดโอกาสดีๆ ให้สมัครประกันสุขภาพแบบเป็นกลุ่มแล้ว ก็ควรทำไว้ด้วยจะเป็นการดี เพราะจะมีเบี้ย น้อยกว่าประกันรายบุคคล แต่ถ้าไม่มีการทำประกันกลุ่มดังกล่าว ก็ให้ทำเป็นรายบุคคลก็ดีเช่นเดียวกัน นี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เงินทำงานให้กับเรา แต่เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่จะให้เราได้ผลตอบแทนเมื่อเกิดเหตุการณ์ตามเงื่อนไขหรือเมื่อเสียชีวิต ซึ่งผตอบแทนที่ได้ก็จะตกแก่ลูกหลานของเราต่อไปนั่นเอง
- มั่นใจด้วยกองทุน
ข้อสุดท้ายของวันนี้ คือหลังจากมีทั้งเงินทุนสำรองและเงินประกันแล้ว ซึ่งเมื่อมีอาวุธคู่ใจทั้งสองอันนี้แล้วนั้น เราก็เริ่มออกตัวลงทุนกันได้เลย แต่ถ้าคนใดไม่มีความพร้อมด้านเวลา ในการศึกษาด้านเศรษฐ์กิจ และ วิธีการลงทุนนั้น ในปัจจุบัน ก็จะมีกองทุนรวมที่บริหารโดยผู้จัดหากองทุนมืออาชีพมาให้เราได้เลือกซื้อได้อย่างสะดวกสบาย เพราะการลงทุนควรจะเป็นการลงทุนในระยะยาว เราจึงต้องตวงน้ำหนักผลค่าตอบแทนระยะยาวเป็นตัวหลักสำคัญ ถ้าเราดันไปซื้อกองทุนที่มีความ ยุ่งยากในการซื้อขาย มันจะส่งผลให้ตัวเรานั่นละ มีการขาดระบบระเบียบวินัยในการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ หรือ ถ้าสะดวกกองทุนแบบผสมไปเลยก็ได้ เพื่อง่ายต่อการอำนวยความสะดวกในการลงทุนนั่นเอง นอกจากนี้ใครที่มีเงินทุนมากพอและมีความรู้ทางด้านของการตลาดและเศรษฐกิจมากพอ ก็อาจจะลงทุนด้วยการเล่นหุ้นหรือ Forex ก็ได้ ทีนี้ก็รอให้เงินทำงานให้กับเราได้เลย
เมื่อได้อ่าน 3 ข้อ การใช้ ให้เงินทำงาน กันไปแล้วนั้น หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการเลือกวิธีการ ให้เงินทำงาน ให้ได้เงินกลับคืนมา แล้วต่อจากนี้ไปคุณจะได้มีความรู้สึกว่า เงินนี่ใช้งานได้ ง่ายกว่าที่คิดแฮะ! .ใครที่มีเงินก้อนโตเป็นทุนสำรองอยู่แล้วอย่าลืมนำมันออกมาทำให้เกิดประโยชน์ด้วยการลงทุนเพื่อให้เกิดเงินขึ้นมาอีกก้อนหนึ่งนะคะ
แต่อย่าลืมว่าการ ลงทุน อาจมีการพลิกผันกันได้ ดังนั้นจึงไม่ควรมุ่งมั่นและทุ่มเทกับการลงทุนมากเกินไป เพราะคุณอาจจะขาดทุนโดยไม่คาดคิดได้นั่นเอง