“ศบค.” ไฟเขียว คลายล็อกเพิ่ม 3 กิจกรรมเสี่ยงสูง
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า วันนี้ (21 ส.ค.63) ที่ประชุม ศบค. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.เป็นประธาน มีมติผ่อนคลายกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งเป็นไปตามการเสนอของ คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณามาตรการผ่อนคลายการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยเห็นควรให้ผ่อนคลายกิจการ/กิจกรรม ทั้งในส่วนของสถาบันการศึกษาที่กลับมาเปิดเรียนตามปกติ 100%, อนุญาตการแข่งขันกีฬาแบบมีผู้เข้าชม และให้การขนส่งสาธารณะมีจำนวนผู้โดยสารเต็มตามความจุมาตรฐาน ซึ่งได้เริ่มทดลองไปตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมาแล้ว
สำหรับแนวทางการจัดการแข่งขันกีฬาแบบมีผู้เข้าชมได้นั้น ทาง ศบค.ไม่ได้มีการกำหนดจำนวนผู้เข้าชมในสนามไว้อย่างตายตัว เพียงแต่กำหนดจำนวนผู้เข้าชมเป็นสัดส่วนต่อความจุของสนาม โดยประเภทกีฬาที่มีความเสี่ยงต่ำ คือ กีฬากลางแจ้งและไม่มีการตะโกนเชียร์ ซึ่งก็จะอนุญาตให้มีผู้เข้าชมได้ 70% ของความจุสนาม เช่น กอล์ฟ เทนนิส ยิงธนู ยิงปืน เป็นต้น ส่วนประเภทกีฬาที่มีความเสี่ยงสูง คือ กีฬาในร่มและมีการตะโกนเชียร์ ก็จะอนุญาตให้มีผู้เข้าชมได้เพียง 25% ของความจุสนาม เช่น บาสเก็ตบอล, วอลเลย์บอล และมวย เป็นต้น
เฮ! รีบเช็ค “ศบค.” ไฟเขียวคลายล็อก เพิ่ม 3 กิจกรรม
วันที่ 21 สิงหาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงว่า ในที่ประชุม ศบค. มีมติผ่อนคลายกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่
1. การเปิดเรียนปกติ 100%
2.การแข่งขันกีฬา แบบมีผู้ชม แต่ต้องลดความแออัดของผู้ชมให้ได้ ไม่ใช่นั่งเต็มพื้นที่เหมือนเวทีมวย ต้องปฏิบัติตามวิถีนิวนอร์มอล โดยกีฬาที่ต้องตะโกนเชียร์ ต้องเน้นรักษาระยะห่าง และแบ่งระดับกีฬาเป็น “ขาว เขียว เหลือง ส้ม แดง” รวมถึงจัดสัดส่วนพื้นที่กับจำนวนผู้ชมที่จะเข้าไปนั่งชมได้
3.ระบบขนส่งสาธารณะ อนุญาตให้นั่งได้เต็มความจุ ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ซึ่งได้เห็นชอบ และทดลองแล้วตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2563