ปัจจุบันนี้ผู้มีรายได้ประจำต่างก็พากันเป็นหนี้บัตรเครดิตกันถ้วนหน้า และต้องบอกเลยว่าปัญหาหนี้สินกำลังเป็นปัญหาใหญ่ ที่จริงแล้วไม่ว่าจะเป็นหนี้ประเภทไหนก็จัดเป็นปัญหาทั้งนั้น แต่หนี้ที่หนักหนาสาหัสคงจะหนีไม่พ้นหนี้บัตรเครดิต เพราะดอกเบี้ยสูง และยิ่งมีหลายใบดอกเบี้ยแต่ละใบก็แตกต่างกันออกไป จึงมีสินเชื่อบางประเภทที่มาช่วยแก้ปัญหาหนี้บัตรเครดิตหลายๆใบให้รวมเป็นหนี้เดียว โดยเสียดอกเบี้ยในอัตราเดียว สินเชื่อประเภทดังกล่าว ได้แก่ สินเชื่อบุคคล ที่รวมหนี้บัตรเครดิต
ผู้ที่กำลังหาทางชำระหนี้ประเภทนี้ ลองดูรายละเอียดว่า การนำสินเชื่อบุคคลไปชำระหนี้บัตรเครดิตนั้นมีวิธีการ และข้อดีข้อเสียอย่างไรลองมาดูกัน
สินเชื่อบุคคลช่วยในเรื่องอัตราดอกเบี้ย
แม้ว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตจะอยู่ที่ ร้อยละ 20 แต่อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อบุคคลจะอยู่ที่ ร้อยละ 28 บางคนอาจจะบอกว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรในเมื่อดอกเบี้ยสูงกว่า ให้ลองคิดถึงผลในระยะยาวคือบัตรเครดิตมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าก็จริง แต่ลักษณะการคิดดอกเบี้ยเป็นแบบทบต้นทบดอก และคิดเป็นรายวัน แต่ดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคลนั้นจะคำนวณแบบลดต้นลดดอก
สินเชื่อบุคคลช่วยให้มีหนทางปลดหนี้
ช่วยแก้ปัญหาในกรณีที่เราต้องการเหลือเงินไว้ใช้จ่ายอย่างอื่น เป็นการหมุนเงินไม่ให้เกิดภาวะขาดเงินหมุนเวียนในแต่ละเดือน โดยยอดชำระหนี้สินเชื่อบุคคลจะต่ำกว่ายอดชำระหนี้บัตรเครดิต เพราะบัตรเครดิตกำหนดให้ชำระขั้นต่ำที่ 10% แต่สินเชื่อบุคคลยืดระยะเวลาชำระหนี้ให้นานขึ้นทำให้ยอดชำระต่องวดน้อยลง หลายคนอาจจะเกิดคำถามว่า แล้วถ้ายืดระยะเวลาชำระหนี้ออกไปจะเสียดอกเบี้ยสูงขึ้นหรือเปล่า คำตอบคือใช่ แต่เราสามารถนำข้อยืดหยุ่นตรงนี้ไปช่วยแก้ปัญหาด้านอื่น เช่น การหมุนเงินไม่ทัน มีเงินไม่พอชำระหนี้ขั้นต่ำ 10% ซึ่งสินเชื่อบุคคลสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้
สินเชื่อบุคคลช่วยให้ดำเนินชีวิตไปต่อได้
เหมาะกับผู้ที่ตั้งใจว่าจะหยุดใช้บัตรเครดิตแล้วจริงๆ นั่นคือเมื่อปิดหนี้บัตรแล้วต้องยกเลิกการใช้งานบัตรเครดิต ไม่เช่นนั้นคุณก็จะกลับไปตกอยู่ในวังวนหนี้เดิมๆแน่นอน ต้องมีวินัยในการจัดสรรเงินสำหรับชำระหนี้สินเชื่อบุคคลในแต่ละเดือน รักษาเครดิตไว้ให้ดี เผื่อในอนาคตต้องขอสินเชื่อจากธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ หรือสินเชื่อเพื่อธูรกิจ
จากข้อมูลที่เรานำมาบอกกล่าวกันในข้างต้น ลองนำไปพิจารณาดูว่าสินเชื่อบุคคลเพื่อแก้ปัญหาหนี้บัตรเครดิตนั้นสามารถแก้ปัญหาของเราได้หรือไม่ ข้อแนะนำในการเลือกสินเชื่อเพื่อมาช่วยแก้ปัญหาบัตรเครดิต สิ่งแรกคือ เลือกสินเชื่อที่มีการคำนวณดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก อย่าใช้วิธีขอสินเชื่อจากธนาคารเจ้าของบัตร เพราะธนาคารอาจชักจูงให้เพิ่มวงเงิน เช่นนี้เท่ากับว่ามีโอกาสเป็นหนี้เพิ่มอีก นอกจากนี้การขอสินเชื่อบุคคล ควรขอเป็นจำนวนพอดีกับยอดหนี้ที่ต้องการจะปิด อย่าสนใจโปรโมชั่น หรือการส่งเสริมการขายใดๆที่จูงใจให้กู้เงินเพิ่มขึ้น และอย่าขอสินเชื่อบัตรกดเงินสด เพราะเราจะ เสียค่าธรรมเนียมการถอนเงิน จากตู้เอทีเอ็มเพิ่มอีกประมาณ 3% กลายเป็นว่าเสียดอกเบี้ยเพิ่มเข้าไปอีก
