เชื่อว่ามีอีกหลายคนที่เป็น หนี้ท่วมหัว และมีความกลัดกลุ้ม ที่จะหาวิธีต่างๆ เพื่อที่จะหาเงินมาใช้หนี้สิน ที่ตัวเองอาจจะก่อหรือไม่ได้ก่อ แต่วิธีแก้ไขปัญหาหนี้สินที่จะต้องคิดกันหัวแทบแตกนอกเหนือจากการประนอมหนี้แล้ว ก็ต้องหาทางหารายได้เพิ่ม หรือการทำให้ตัวเองไม่เป็นหนี้สินเพิ่มมากขึ้นนั้นเอง
หลักการเบื้องต้นก็คือ จะต้องหยุดหมุนเงิน และหยุดหาหนี้ใหม่ๆ เพื่อมาทำการจ่ายหนี้เก่าโดยเด็ดขาด และจะต้องอยู่ให้ได้ในแต่ละวันด้วยเงินเดือนของตัวเองโดยไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน ซึ่งหากทำได้ถือว่าเป็นการไม่สร้างหนี้สินให้ตัวเอง และจะทำให้อยู่ได้อย่างสบายใจไม่เดือดร้อนชีวิตมีความสุข ซึ่งไม่ว่าคุณจะมีเงินเดือนเท่าไหร่ ก็ต้องรู้จักใช้จ่ายให้พอตลอดทั้งเดือน แต่หากมีรายได้พิเศษก็ให้เก็บเป็นเงินสำรอง หรือเงินออมในอนาคตและอย่าเอามารวมกับเงินเดือน ให้ทำการแยกส่วนออก จะได้ไม่ปนกัน เพราะมันถือว่าเป็นรายได้ที่ไม่แน่ไม่นอน ถ้าเงินพิเศษ หรือโอที หายไป อาจจะอยู่ไม่ได้ หรือต้องอยู่แบบประหยัด เพราะไม่มีเงินออมให้เก็บอีก
วิธีแก้ไขปัญหา หนี้ท่วมหัว ด้วยตารางรายรับรายจ่าย
ณ ปัจจุบัน ปัญหาการเงินที่เกิดขึ้นซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากรายได้ที่มีการลดลง แต่รายจ่ายยังมีเท่าเดิม หรือรายจ่ายมากขึ้น แต่รายรับเท่าเดิม ทำให้หลายคนต้องพยายามหมุนเงิน และหาทำการกู้เงินจากที่อื่น เพื่อให้พอกับรายจ่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน
ซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะมันยิ่งกลายเป็นว่า ทำให้ระบบการเงินของคุณมีความแย่ลงมาก และจะกลายเป็นคนที่มีหนี้สินมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้ตัวเองได้ปลอดหนี้ก็คือ มีการจัดสรรรายได้จากการทำตารางรายรับรายจ่ายที่เป็นของตนเองตลอดเดือน ดูว่าเงินเดือนแต่ละเดือนพอใช้หรือไม่ และตลอดเดือนจะต้องใช้จ่ายอะไรบ้าง อย่างค่าใช้จ่ายในครอบครัว ค่าอาหาร ค่าเดินทาง หรือ ค่าผ่อนชำระหนี้สินต่างๆ และเมื่อทำเสร็จแล้วก็ให้กลับมาดูว่าทั้งเดือน ตลอดเดือนคุณใช้ไปเท่าไหร่ และสามารถเหลือเก็บออมหรือไม่ และ ติดลบหรือไม่ ซึ่งหากไม่ทำตารางรายรับรายจ่ายก่อน คุณจะไม่มีโอกาสรู้เลยว่าการเงินของคุณเป็นอย่างไร และควรจะเลือกวิธีใดวิธีหนึ่งในการแก้ปัญหาหนี้สิน
การสำรวจดูภาระหนี้สินของตนเอง
ลองสำรวจดูภาระหนี้สินของตนเอง ว่ามีอะไรบ้าง และทำตารางแบ่งแยกประเภทหนี้ และจำนวนเงินหรือจำนวนหนี้สินโดยการแยกประเภทหนี้เป็นกลุ่มธนาคาร แบบนอกแบงก์หรือหนี้นอกระบบและทำการจดรายละเอียดเกี่ยวกับหนี้สินทุกอย่างให้ครบ โดยทำการเรียงลำดับหนี้จากน้อยไปหามากเพื่อเอาไว้ดูเวลาจะชำระหนี้สินในแต่ละเดือน จะได้ไม่ทำให้พลาด โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิต หากต้องเกินเวลา อาจจะทำให้เสียดอกเบี้ยมากมาย ทำการศึกษาวิธีแก้ไขปัญหาหนี้ให้เข้าใจ แล้วจึงเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมกับตนเอง ซึ่งวิธีแก้ไขปัญหาหนี้สินมี 3 วิธีคือ การจ่ายหนี้แบบขั้นต่ำเพื่อรักษาบัญชีและรักษาเครดิต หรือการหยุดจ่ายทุกบัญชี และเก็บเงินรอแฮร์คัต โดยการเจรจาการชำระหนี้ครั้งเดียวเพื่อทำการปิดบัญชีหนี้ และวิธีการรวมหนี้หลายที่ไว้ที่เดียวกัน แล้วทำการชำระในที่เดียว แต่วิธีนี้หากไม่จำเป็นและไม่มีเงินก้อนมากพอ ก็พยามอย่าไปใช้ เพราะมันเป็นวิธีที่ทำให้ กลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่ ซึ่งจะต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันและยังจะต้องใช้เวลาในการชำระหนี้นานขึ้น
เทคนิคการเลือกแก้ปัญหาหนี้สิน
การเลือกแก้ไขปัญหาหนี้สิน อาจใช้การจ่ายขั้นต่ำ หรืออาจจะจ่ายมากกว่าขั้นต่ำ ซึ่งหากตามปกติคุณมีหนี้ หลายบัญชี หรือหนี้ไม่เยอะ ก็อาจจะใช้วิธีจ่ายขั้นต่ำ โดยจ่ายตามใบเรียกเก็บเงิน หรือจ่ายให้มากกว่าขั้นต่ำสักเล็กน้อย แล้วอย่าพยายามใช้บัตรนั้นไปรูดซื้อสินค้า หรือทำการกดเงินสดออกมาใช้อีก และควรตัดปัญหาด้วยการเอาบัตรออกจากกระเป๋าไปเลย และไม่ต้องใช้มันอีก วิธีนี้ก็ทำให้หนี้หมดเช่นกันและสามารถ รักษาเครดิตได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลานานหน่อย แต่แนะนำเลยว่าเมื่อจ่ายแล้วห้ามกดออกมาใช้อีกเป็นเด็ดขาด เพราะถ้าทำแบบนั้น ด้วยการอาบัตรมากดเงินอีก ก็จะทำให้กายเป็นหนี้ทบไปทบมา ต้องจ่ายดอกไปเรื่อยๆ เพิ่มดอก เพิ่มหนี้ไม่หมดแน่นอน แถมมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น และหากใครทำบัญชีรายรับรายจ่ายแล้วไม่ติดลบก็สามารถใช้วิธีนี้ได้ ซึ่งการไปกู้เงินที่ใหม่หากได้เงินมาและไม่พอจ่ายหนี้เก่าให้หมดภายในครั้งเดียว ก็ไม่ควรทำ เพราจะทำให้กลายเป็นว่ายังใช้หนี้เก่าไม่หมด แล้วยังมีหนี้ใหม่เพิ่มมาอีก ซึ่งการไปกู้เงินเป็นกลุ่ม แล้วมีการค้ำประกันให้กันก็ไม่ควรทำเพราะเท่ากับว่า ตัวคุณเองอาจจะต้องรับผิดชอบทั้งหนี้ในส่วนของคุณเองและหนี้ของคนอื่นด้วย ว่าไปเหมือนเอาเชือกมาผูกคอตัวเองไว้ ซึ่งจะถูกรัดคอแล้วตายวันไหนก็ไม่รู้
สิ่งไม่ควรทำเกี่ยวกับการจ่ายเงินล้างหนี้
สิ่งที่ไม่ควรทำมากที่สุดคือ การได้เงินก้อนมาแล้วเอาไปจ่ายขั้นต่ำ ในบัญชีหนี้เดิมสำหรับทุกบัญชีเพื่อรักษาเครดิต ซึ่งการทำแบบนี้จะหมุนเงินได้ไม่นานนัก แล้วก็จะทำให้กลายเป็นว่าหนี้เก่าไม่หมดแล้วยังมีหนี้ใหม่เพิ่มมาอีก และยังทำให้กลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่ด้วย ส่วนการทำแฮร์คัทสามารถทำได้ตลอดเวลาเมื่อลูกหนี้พร้อม และทำเมื่อมีเงินมากพอจะจ่ายหนี้ ซึ่งสามารถโทรไปเจรจาขอจ่ายหนี้แบบก้อนเดียว เพื่อทำการปิดบัญชีได้ โดยคุณไม่จำเป็นต้องบอกว่ามีเงินอยู่เท่าไหร่ แต่ควรถามได้ว่าถ้าจะทำการจ่ายหนี้ทีเดียวเพื่อปิดบัญชีหนี้ จะต้องให้จ่ายเท่าไหร่ และจะลดให้เท่าไหร่ ซึ่งควรทำการพยายามต่อรองให้มีการลดหนี้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากไม่ยอมลด ก็ปล่อยแล้วไปจ่ายรายที่ลดให้สูงสุดก่อน