หันหน้าไปทางไหนก็พบแต่บรรยากาศของการเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าตอนรับปีใหม่ หลายๆสถานที่ต่างประดับดาต้นคริสต์มาสและไฟที่ทอแสงสว่างสไวในยามคํ่าคืน ให้ผู้คนได้ออกมาถ่ายรูปร่วมกัน ในวันคริสต์มาสหลายคนมักจะเข้าใจผิดว่าเป็นวันปีใหม่ของชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวตะวันตก แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ วันคริสต์มาส คือ วันที่พระเยซูได้ประสูติบนโลกใบนี้ เพื่อรับโทษความผิดบาปของเรา ชาวตะวันตกและผู้ที่นับถือพระเยซูคริสต์ จะเฉลิมฉลองในเทศกาลนี้กันอย่างชื่นชมยินดี แต่ก็มีอีกหลายคนที่กำลังจมอยู่ความทุกข์
ความทุกข์นั้นก็คือ “หนี้บัตรเครดิต” เป็นปัญหาที่สร้างความทุกข์ให้กับผู้คนจำนวนมากในสังคมไทย ทั้งที่ผู้คนเหล่านี้ก็รู้กฎกติกาและมารยายในการใช้บัตรเครดิตเป็นอย่างไร แต่ก็เพลี่ยงพลํ้าให้กับบัตรเครดิตจนได้ เนื่องจากการขาดวินัย และใช้จ่ายเกินความสามารถของตนเองที่จะชำระค่าบัตรเครดิตในแต่ละเดือน จนนำไปสู่การเป็นหนี้บัตรเครดิตอย่างหลีกเลี่ยงได้แต่ไม่ทำ และท้ายที่สุดก็ไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้บัตรเครดิตได้ เพราะดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้นทุกวันๆ และเงินต้นก็สะสมเพิ่มขึ้น แค่เพียงเงินเดือนจะนมาปิดหนี้ก็ไม่เพียงพอ ก็ชำระขั้นตํ่าไปเรื่อยๆ ไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่หมด จึงตัดสินใจไม่ชำระ หรือ หยุดชำระหนี้บัตรเครดิต
หยุดชำระหนี้บัตรเครดิต มาถูกทางแล้วงั้นหรือ ?
การตัดสินใจหยุดชำระหนี้บัตรเครดิต สามารถทำได้ ผู้เขียนขอฝันธงว่าทำได้ ถ้าไม่สามารถหาเงินมาปิดหนี้ได้ แต่ๆๆๆอย่างพึ่งดีใจ สิ่งที่คุณจะต้องเจอ คือ ทางสถาบันการเงินจะเริ่มทำการส่งจดหมายแจ้งเตือนให้ลูกหนี้ทำการชำระหนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากลูกหนี้ยังนิ่งเฉย ไม่สะทกสะท้าน ทางสถาบันการเงินก็จะทำการจำหน่ายเรื่องออกไปที่สำนักงานกฎหมาย เพื่อดำเนินการทางกฎหมาย เมื่อเรื่องไปถึงฝ่ายกฎหมาย ตรงนี้เองที่คุณกำลังจะตกที่นั่งลำบาก เพราะฝ่ายกฎหมายจะไม่มีอะลุ่มอล่วยหรือพูดดีๆกับคุณ เพราะ หน้าที่ของฝ่ายกฎหมาย คือ ให้ลูกหนี้ชำระหนี้ให้เร็วที่สุด เมื่อเรื่องถึงศาล ศาลก็จะบังคับให้คุณชำระ โดยในจังหวะนี้คุณอาจจะของประนอมหนี้ โดยการชำระเป็นงวดๆ แต่ถ้าทำยังไงคุณก็ไม่สามารถนำเงินมาชำระได้ แม้จะได้รับการผ่อนปรน ทางสถาบันการเงินก็อาจจะทำการยึดทรัพย์ของคุณและนำไปขายทอดตลาด เพื่อนำเงินมาชำระหนี้
เห็นไหมครับ การที่คุณ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย จะพบกับอะไร หลายคนเข้าใจผิด ก็ไม่มี ไม่จ่าย จะทำอะไร ในหลักของความเป็นจิรงแล้วนั้น สถาบันการเงินได้ให้เงินคุณไปใช้ล่วงหน้า หน้าที่ของผู้ใช้บัตรเครดิต ก็ต้องชำระคืนตามระยะเวลาที่สถาบันการเงินได้กำหนด หากล่าช้ากว่ากำหนด สถาบันการเงินก็จะคิดอัตราดอกเบี้ยตามที่ได้แจ้งไว้ ดังนั้น ไม่ต้องมาโวยวายว่าสถาบันการเงินโหด คิดดอกเบี้ยไม่เป็นธรรม ก่อนที่คุณจะโวยวายควรกลับไปอ่านเงื่อนไขให้ชัดเจนก่อน
ท้ายที่สุด เป็นหนี้ก็ต้องจ่าย อย่าปล่อยให้บานปลายเกินแก้ไข และที่สำคัญผู้เขียนอยากจะบอกว่า การเป็นหนี้เป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก แต่เมื่อเป็นหนี้แล้ว ก็อย่าพึ่งท้อ เข้าไปเจรจากับทางสถาบันการเงิน เพื่อหาแนวทางแก้ไข ทางสถาบันการเงินยินดีที่จะช่วยเหลือคุณ ผู้เขียนช่วยคุณไม่ได้ กระทู้ต่างๆในเว็บบอร์ดก็ช่วยคุณไม่ได้ แต่สถาบันการเงิน เจ้าหนี้ของคุณช่วยคุณได้ และตัวคุณเองที่จะต้องก้าวไปให้ได้