นิยามของคำว่าบ้าน คือ ที่พักอาศัย ที่พักในยามเหนื่อยและครอบครัว แต่ไม่ว่าใครจะนิยามอย่างไร บ้านคือปัจจัยหนึ่งที่ทุกคนฝันอยากจะมีบ้านสักหลัง แต่ด้วยราคาบ้านในปัจจุบัน แม้จะเริ่มต้นที่ 1 ล้านกว่าบาท บ้านก็ยังคงเป็นอุปสรรคสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่อยากจะมีบ้าน มนุษย์เงินเดือนจึงหันไปซื้อคอนโดหรือเช่าอพาร์ทเมนต์ราคาถูก แม้จะเป็นที่พักเหมือนกัน แต่เมื่อเริ่มมีครอบครัวและมีลูกก็ต้องขยับขยายพื้น ที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมจึงเป็นบ้าน
เมื่อได้ข้อสรุปที่จะซื้อบ้าน แต่ทำอย่างไรในเมื่อไม่มีเงินก้อนเป็นล้านๆ ผู้ที่กำลังมองหาบ้านสักหลังควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและไม่ควรด่วนตัดสินใจซื้อ เนื่องจากบ้านจะเป็นที่ที่เราอาศัยอยู่เกือบตลอดชีวิต จึงควรเริ่มจาก ทราบราคาบ้านที่ต้องการซื้อ จากนั้นทำการคำนวณภาระหนี้สินอื่นๆที่กำลังทำการผ่อนอยู่ เช่น รถยนต์ เครื่องไฟฟ้า หรืออื่นๆ ซึ่งจะต้องไม่ควรเกิน 1 ใน 3 ของเงินเดือน
แล้วถ้า อยากมีบ้าน จะต้อง ทำอย่างไรกันหล่ะ ?
หลังจากประเมินว่าตัวเองสามารถแบกรับภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นได้แน่นอนแล้ว ขั้นต่อไป ต้องทำการตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยของทุกสถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อเพื่อกู้ยืมซื้อบ้าน ซึ่งแต่ละสถาบันการเงินจะมีราคาดอกเบี้ยและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน รวมถึงระยะเวลาที่ให้ผ่อนชำระได้
ในด้านของดอกเบี้ย : สถาบันการเงินแต่ละแห่งจะกำหนดคุณสมบัติของผู้ขอกู้สินเชื่อบ้านและอัตราดอกเบี้ยแตกต่างกันไปตามความเสี่ยงของผู้ขอกู้แต่ละกลุ่ม ทิศทางของธุระกิจ และต้นทุนทางการเงินของสถาบันการเงิน โดยส่วนใหญ่แล้วอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านมักเป็นอัตราคงที่ในช่วงแรก และเปลี่ยนเป็นอัตราลอยตัวในช่วงหลัง โดยใช้อัตราอ้างอิงต่าง ๆ เช่น MLR, MRR ซึ่งอาจมีการลดหรือเพิ่มด้วย เช่น MLR-2% อยู่บนพื้นฐานความเสี่ยงของผู้กู้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ผู้ขอกู้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าสำรวจและประเมินมูลค่าหลักประกัน ค่าจดจำนองหลักประกันค่าธรรมเนียมการโอน
ดังนั้น หากอยากมีบ้าน ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าพร้อมแล้วหรือยังกับการเป็นหนี้ก้อนโตในระยะยาว ถ้าพร้อมก็ควรเริ่มจากการศึกษาหาข้อมูลให้ละเอียดมากที่สุด เพื่อไม่เป็นภาระให้กับคนในครอบครัวอนาคตของคุณ