ถ้าพูดถึงเรื่องความฝันคงไม่มีใครที่ฝันว่าอยากใช้ชีวิตแบบลำบาก อดมื้อกินมื้อ หรือมีคุณภาพชีวิตที่ตกต่ำใช่ไหมล่ะครับ ใครๆก็อยากมีบ้านหลังใหญ่ๆ มีรถหลายๆคัน มีครอบครัวที่อบอุ่น มีลูกที่น่ารัก มีเงินมากมายไว้ใช้จ่าย ใครๆก็ อยากรวย อยากมีอิสรภาพทางการเงิน แต่จะมีใครสักกี่คนล่ะครับที่ทำได้ มันเป็นเพราะอะไรกัน
ทั้งๆที่บางคนนั้นก็ขยันและตั้งใจทำงานหนักเอาเบาสู้ แต่ไม่รวยกับเขาสักที แต่กับบางคนที่ไม่ได้ทำอะไรมากมายแต่กลับมีกินมีใช้แบบราชา หรือนั่นจะเป็นโชคชะตาที่คนบนฟ้ากำหนดมาไว้แล้ว จะคิดแบบนั้นก็ได้นะครับ แต่ว่าผมก็อยากให้ใครที่อีกหลายคนได้เปิดมุมมองใหม่ๆบ้าง ว่าไม่ต้องเพิ่งโชคชะตากับแค่พฤติกรรมการกระทำบางอย่างนั้นก็สามารถบอกได้แล้วว่า อนาคตใครจะประสบความสำเร็จและใครที่จะเดินย่ำอยู่กับที่ไม่ไปไหน เรามาวิเคราะห์พร้อมๆกันเลยดีกว่าครับ
อันดับแรกเลย เวลาที่คุณจะใช้เงินจ่ายเพื่อซื้ออะไรสักอย่างนั้น คุณบอกได้ไหมว่า คุณมีเหตุผลอะไรที่ต้องซื้อมัน ระหว่างคุณต้องการ หรือมันจำเป็น ถ้าคุณยังไม่แน่ใจในคำตอบ ผมจะขยายความง่ายๆแล้วกันครับว่า ถ้าบังเอิญคุณเดินไปในห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าต่างๆแล้วเห็นป้ายโฆษณาบอกลดราคา 50 % 30 % จากราคาป้าย หรือ ซื้อ 1 แถม 1 ,ซื้อ 2 แถม 1,ซื้อวันนี้ชิ้นต่อไป 1 บาท ถ้าคุณเกิดความอยากได้เพราะเห็นว่ามันมีราคาที่ถูก แสดงว่า คุณแค่ต้องการมันเพียงชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้นแหละครับ จะแตกต่างกันมากระหว่างสิ่งที่จำเป็น เพราะถ้าเราจำเป็นต้องใช้อะไรแล้ว ถ้ามันขาดหายไปเราย่อมมีการคิดวางแผนมาก่อนล่วงหน้าไม่ว่าราคาจะถูกจะแพงก็แล้วแต่คุณก็ต้องซื้อมัน ด้วยเหตุนี้ถ้าคุณซื้ออะไรบางอย่างด้วยความต้องการและอยากได้นั่นก็ยิ่งจะทำให้คุณไม่วันพอและจะจนลงไปเรื่อยๆ
ผมเชื่อว่าทุกคนเกือบส่วนใหญ่ถูกสอนกันมาแบบนี้ ตั้งใจเรียนหนังสือให้เก่ง จบมาจะได้ทำงานมีเงินเดือนดีดี มีสวัสดิการดีดี ถ้า อยากรวย มีเงินเยอะๆก็ต้องขยันทำงานให้หนักขึ้น เพราะส่วนใหญ่มีความเชื่อกันแบบนี้ยังไงล่ะครับ เราถึงหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ ถ้า อยากรวย มีเงินก็ทำงาน ทำงานเพื่อให้ได้เงิน เหนื่อยก็ใช้เงินเพื่อความสุข เป็นแบบนี้หมุนวนกันเป็นวัฎจักรไม่มีที่สิ้นสุด รู้ตัวอีกทีสุดท้ายก็กลายเป็นทาสของเงินและกิเลสไปเสียแล้ว ชีวิตนี้เหมือนตักน้ำใส่ถังใบหนึ่งที่มีรูรั่ว
ฉะนั้นแล้วถ้า อยากรวย
อย่าตกเป็นทาสของเงินแต่จงให้เงินเป็นทาสของเราแทน
บางคนก็แย้งว่า คุณก็พูดง่ายสิครับ พอทำจริงๆมันยากมากๆ ใช่แล้วล่ะครับ ก็เพราะว่ามันยากมากถึงไม่ค่อยมีใครทำได้ ยังไงล่ะ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีใครสักคนที่เป็นคนจน วิธีการง่ายๆมันอยู่ที่ความคิดครับ ใบ้ให้ก็ได้ครับว่า ถ้าคุณยังทำตัวเหมือนเดิม กินเที่ยวใช้เงินเพลิดแบบตามใจไม่ต้องคิด อย่าหวังว่าจะรวยเลยครับ เพราะคนที่จะรวยได้ ต้องมีวินัยทางการเงินสูงรู้จักจัดการกับเงิน วางแผนใช้จ่ายเสมอ ถ้าคุณอยากได้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม คุณแค่ทำสิ่งที่ตรงกันข้ามครับ ลองดู
การชำระหนี้หรือการชำระค่าบริการไม่ตรงเวลา อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยนะครับ แต่สิ่งเหล่านี้ก็ทำให้คุณสูญเสียเงินส่วนหนึ่งไปฟรีๆเลยล่ะ เพราะโดนหักค่าธรรมเนียมบ้าง ดอกเบี้ยบ้าง ยิ่งถ้าเป็นดอกเบี้ยบัตรเครดิตนั้นยิ่งจะทบไปเรื่อยๆเมื่อเราจ่ายช้า ซึ่งเมื่อลองนับไปบวกกันแล้วจะพบว่าเสียเงินเยอะไปพอสมควร ถ้าวันนี้ผลัดได้ ครั้งต่อๆไป เราก็จะเริ่มติดเป็นนิสัย นั่นก็เลยเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเราถึงไม่ค่อยมีเงินเก็บเอาเสียเลย
ข้อสุดท้ายที่สำคัญที่สุดของวันนี้คือ การไม่รู้จักวางแผนอนาคตในระยะยาวครับ เพราะชีวิตเราถ้าไม่เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันหรืออุบัติเหตุ ก็จะอยู่ได้ประมาณ 80-90 ปี เคยคิดไหมครับว่า เราอยากให้อนาคตต่อไปเราดำเนินไปทิศทางใด หรือคิดว่าแล้วแต่โชคชะตาจะดลบันดาล ถ้าดีก็ดีไปถ้าโชคร้ายก็ถือว่าเป็นเวรกรรมอย่างนั้นน่ะหรอ ผมคิดว่ามันดูเป็นการยอมแพ้เกินไปครับ และก็พบว่าหลายคนก็ยังเป็นแบบนี้อยู่ ผมก็เชื่อเรื่องของเวรกรรมเหมือนกันครับแต่ผมเพียงแค่ไม่สนใจว่าอดีตที่ผ่านมาเป็นอย่างไร แค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ
ถ้าไม่เริ่มวางแผนชีวิตแล้วจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร ก็เหมือนเดินทางแบบไม่มีแผนที่นั่นล่ะครับ ล้มลุกคลุกคลานบางทีก็หลงทางเสียเวลาไปตั้งหลายปีกว่าจะเจอทางออก ถ้ามีจุดมุ่งหมายในชีวิตก็เหมือนมีแผนที่ชีวิตอยู่ในมือ เราย่อมสามารถเลือกทางที่ดีที่สุดและใช้เวลาน้อยที่สุด เพื่อไม่ให้เหนื่อยมากเกินไป จะได้มีเวลาพักยาวๆ
การเงินก็เหมือนกันครับ คุณควรที่จะเริ่มตั้งเป้าเสียตั้งแต่วันนี้ เก็บออมเงินเพื่ออนาคต ลดละเลิกการใช้จ่ายที่เกินตัว ฟุ่มเฟือยไร้ประโยชน์ มีสติในการดำรงชีวิต เพราะเรายังต้องเดินต่อไปอีกหลายก้าว ถ้าไม่มีเสบียงที่เพียงพอ ก็อาจจะทำให้เราสะดุดล้ม หมดแรงและล้มเหลวไปในที่สุด.