การได้เรียนรู้กับหลักดำเนินชีวิตที่ในปัจจุบัน ซึ่งกำลังนิยมมากคือการใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง ในข้อนี้สำคัญมากเพราะเป็นสิ่งที่ในหลวงของเราทรงย้ำเตือนคนไทยมากว่าหลายปี เป็นสิ่งที่ทุกคนควรอย่างยิ่งที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
โดยเฉพาะการปลูกฝังให้กับเด็กๆ ที่อยู่ในช่วงวัยเจริญเติบโต มีเด็กบางคนใช้เงินเกินตัวมากกว่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ท่านๆ ซะอีก ดังนั้นการฝึกให้เด็กรู้จักออมเงินตั้งแต่วัยเรียนจึงเป็นเรื่องที่ถูกที่ควรมากที่สุด ซึ่งทั้งนี้การจะสอนเขาได้นั้นก็ต้องเริ่มมาจากพ่อแม่เองด้วย
การ ออมเงินในวัยเรียน
หากพูดถึงนักเรียน นักศึกษา กับการเก็บเงิน ออมเงิน หรือบริหารจัดการเงินนั้นหลายคนคงคิดว่าเป็นเรื่องยาก เพราะบางทีช่วงวัยเรียน แน่นอนว่าต้องมีเพื่อนฝูงมากมายที่คอยชวนไปเที่ยวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจทำให้หลายคนคิดว่า เด็กๆ คงไม่ต้องบริหารในเรื่องของการเงินให้เหลือใช้เหลือเก็บสักเท่าไหร่ เพราะเงินหมดก็ขอพ่อแม่ เต็มที่ก็อาจจะหยอดกระปุกซึ่งกว่าจะเต็ม บอกได้เลยว่าหากทำเช่นนั้นจริงๆ เป็นเรื่องที่น่าเศร้า และหากคุณเป็นพ่อแม่เมื่อเห็นแววว่าลูกจะไม่มีพฤติกรรมการออมด้วยแล้ว ให้รีบปลูกฝังตั้งแต่เนิ่นๆ จะทำให้ลูกของคุณได้รู้จักคุณค่าของเงิน รู้จักใช้เงินอย่างอดออมต่อไป ซึ่งการสอนนั้นก็ควรสอนให้เหมาะกับวัยของเขาด้วย เช่นหากลูกอยู่ในวัยประถม ก็อาจจะให้เขาหัดออมเงินวันละ 5-10 บาทเป็นประจำทุกวัน หรือหากลูกอยู่ในวัยมัธยม พ่อแม่หลายคนคงจะให้เงินลูกเป็นรายอาทิตย์มากกว่า ดังนั้นลองสอนให้เขาแบ่งเงินค่าใช้จ่ายอกเป็นส่วนๆ ต่ออาทิตย์ดู แล้วให้แยกส่วนหนึ่งไว้เป็นเงินออม วิธีจะคล้ายกับการออมเงินจากเงินเดือนของมนุษย์เงินเดือน ซึ่งจะทำให้ลูกได้เรียนรู้การออมเงินไปด้วย
ควบคุมความอยากได้อยากมีเพื่อการออมเงิน
เชื่อว่าอาจจะมีหลายอย่างที่เด็กๆนักเรียนอยากได้ ไม่ว่าจะเป็นของตามกระแสอินเทรนด์ ที่มีแบบจำเป็นและไม่จำเป็นหรือมีหลายอย่างที่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อ เพราะฉะนั้นหากมีการวางแผน และรู้จักเรียงลำดับความสำคัญ และเลือกในสิ่งที่คิดว่ามีความจำเป็นมากที่สุดและเลือกของที่อยากได้ตามมาทีหลัง ซึ่งหากคุณยังเป็นนักเรียนอยู่ การซื้อเสื้อผ้าสวยๆ และราคาแพงๆ อาจจะยังไม่จำเป็นมาก เท่ากับของกิน หรือตำราหนังสือ หรือการกินอาหารแพงๆ ซึ่งความจริงแล้วอาหารตามร้านธรรมดา ก็มีสะอาด อร่อย และไม่แพง ก็สามารถทำให้คุณอิ่มได้เหมือนกัน ซึ่งจะทำให้ช่วยในเรื่องเป็นการประหยัดมากขึ้น ดังนั้นจึงควรหัดให้ลูกควบคุมความอยากมีอยากได้เหมือนเพื่อนให้ได้ โดยพ่อแม่เองก็ต้องทำเป็นตัวอย่างเช่นกัน เมื่อพ่อแม่เป็นตัวอย่างที่ดีได้ ลูกก็จะซึมซับสิ่งดีๆ เหล่านั้นไปด้วย
เริ่มจดบันทึกเพื่อการออมเงิน
การจดบันทึก ก็คือการทำบัญชีรายรับรายจ่าย นักเรียนอาจจะเคยได้เรียนกันมาบ้าง แต่อาจจะยังไม่เคยทำจริงจัง ซึ่งจริงๆ แล้วมันเป็นการเตือนว่า ห้ามใช้จ่ายเกินงบที่มี หรือตั้งงบรายจ่ายไว้ ซึ่งวิธีง่ายๆ คือ การไล่เรียงรายรับต่อเดือน หรือต่อสัปดาห์ หรือได้เงินจากใครได้จากแหล่งไหน หรือได้เป็นเงินทุนการศึกษา และจดว่ามีค่าใช้จ่ายแต่ละวันแต่ละเดือนมีอะไรบ้าง หากฝึกตั้งแต่เด็กรับรองว่าในอนาคตจะเป็นคนที่มีวินัย และจำทำให้เห็นถึงรายจ่ายที่ไม่จำเป็น แม้จะทำบัญชีรายรับรายจ่ายแล้ว แต่บางที ก็ลืมไปบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งนอกจากการจดบัญชีแล้ว การควบคุมรายจ่ายเพื่อติดตามการใช้จ่ายเป็นรายวัน ถือเป็นเรื่องที่ดี ว่าเราใช้จ่ายไปเท่าไหร่ และหากสุดสัปดาห์อยากไปทานข้าวกับเพื่อน ก็ต้องดูว่าในสัปดาห์นี้คุณใช้เงินไปมากแค่ไหนและ ควรเก็บเงินเพื่อไปใช้วันสุดสัปดาห์หรือไม่ เป็นต้น ซึ่งการจดบันทึกนับว่าเหมาะกับเด็กวัยเรียนมากทีเดียว พ่อแม่ลองให้เขาทำบัญชีรายรับรายจ่ายดูนะ แล้วเขาจะเข้าใจการออมเงินและรู้คุณค่าของเงินมากขึ้น
เริ่มออมเงินง่ายๆ กับบัญชีออมทรัพย์
แม้คุณจะเป็นนักเรียน หากแต่มีการออมเงินก่อน ก็จะทำให้รวยก่อนได้ ซึ่งหากมีเงินมากก็สามารถทำให้ฝากเงินมาก มีเงินน้อยก็ฝากเงินได้น้อย สิ่งนี้จะทำให้คุณมีนิสัยรักการออมตั้งแต่เด็ก เมื่อทำจนติดเป็นนิสัยแล้ว ในอนาคตพอมีเงินเดือน ก็จะสามารถแบ่งส่วนที่เหลือใช้มาออก ซึ่งบัญชีออมทรัพย์แม้จะให้ดอกเบี้ยน้อย แต่ก็เป็นการสร้างกรอบความคิดให้เด็กนักเรียนขึ้นมาว่า เงินสามารถเก็บได้จากเงินก้อนเล็กๆ ให้กลายเป็นเงินก้อนโตได้ การเริ่มออมเงินตั้งแต่วันนี้จะทำให้คุณมีเงินเก็บในวันข้างหน้ามากมาย และทำให้มีนิสัยเป็นคนอดออมและรู้จักใช้เงินให้ถูกวิธีอีกด้วย
เดี๋ยวนี้การเก็บออมเงินไม่ต้องรอให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีงานทำ มีรายได้เป็นของตัวเอง เด็กในวัยเรียนที่ยังขอเงินพ่อแม่อยู่ ก็สามารถเริ่มต้นการ ออมเงินในวัยเรียน ได้เช่นกัน ซึ่งจะช่วยชี้นำแนวทางการดำเนินชีวิตในวัยผู้ใหญ่ที่ดีให้กับเขาได้มากทีเดียว