ปัจจุบัน การ ออมเงิน เป็นเรื่องที่ถูกลืมไปแล้วในสังคมไทย จากผลการสำรวจ หนุ่มสาววัยทำงานในระดับอายุ 23-35 ปี ปัจจุบันมีชีวิตที่ใช้เงินแบบเดือนชนเดือน และไม่เคยวางแผนอนาคตทางการเงิน บางท่าน นอกจากจะไม่พอใช้แล้ว ยังติดลบเป็นจำนวนเงินที่น่าตกใจอีกด้วย ซึ่งก็มักจะนำไปสู่ปัญหาหนี้สินที่สร้างความลำบากตามมาได้มากทีเดียว อีกทั้งยังอาจจะส่งผลไปถึงชีวิตหลังวัยเกษียณอีกด้วย
อัตราหนี้สินของแต่ละท่าน ส่งผลถึงทิศทางเศรษฐกิจของประเทศโดยทางตรง เพราะเมื่อประชาชนไม่มีเงินจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน เศรษฐกิจก็จะขาดความคล่องตัว ส่งผลให้กิจการต่างๆปิดตัวลงเพราะสู้วิกฤตไม่ไหว และเพิ่มอัตราคนว่างงานในสังคมให้มากยิ่งขึ้น ดังนั้น การออมเงินคือหนทางแก้ของทุกปัญหา ที่คุณสามารถทำตามได้โดยง่าย ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. วางแผนการเงินต่อเดือน
ด้วยการแยกค่าใช้จ่ายออกเป็นสามส่วนหลักๆ คือ
- ค่าใช้จ่ายที่ตายตัว เช่น ค่าเช่าบ้าน ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ
- ค่าใช้จ่ายผันแปร หรือ ค่าใช้จ่ายประจำที่มักมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง
- ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย คือส่วนที่คุณมักจะใช้อย่างเกินพอดี เช่น กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า โทรศัพท์มือถือที่ต้องเปลียนบ่อยๆ เป็นต้น
ทั้งนี้ก็เพื่อจัดสรรเงินออกเป็นสัดส่วนและเพื่อเป็นการบังคับตัวเองไม่ให้ใช้เงินเกินความจำเป็นและไม่นำเงินของอีกส่วนมาใช้กับอีกส่วนนั่นเอง
หลังจากนั้น ให้กันเงินส่วนหนึ่ง ชำระค่าใช้จ่ายที่ตายตัวก่อน หลังจากนั้นให้แบ่งเก็บ เป็นจำนวนเฉลี่ย 10% ของเงินเดือนทั้งหมด ที่เหลือ คือค่าใช้จ่ายส่วนตัวในแต่ละเดือน ที่คุณต้องนำมาหารจำนวนวันที่เหลือให้เพียงพอดี โดยจะต้องใช้เงินในวงจำกัดของแต่ละวันเท่านั้น หากวันไหนใช้เงินก็ให้ลดจำนวนเงินที่ใช้ได้ของวันถัดไปลง แค่นี้ก็จะมีเงินเหลือใช้จนถึงสิ้นเดือนแล้ว
2. ใช้เงินเพื่อการลงทุน
วิธีนี้จะช่วยให้คุณลดความฟุ้งเฟ้อ และนิสัยใช้เงินเกินตัวได้ เพราะคุณคิดในแง่ของการลงทุน ซึ่งความคิดในรูปแบบนี้ เป็นแนวคิดของคนญี่ปุ่น พวกเขาจะไม่ใช้เงินอย่างขาดสติ และมีฐานะเป็นปึกแผ่นในระยะเวลาอันรวดเร็ว เคล็ดลับของพวกเขามีอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลยค่ะ
อันดับแรก เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย พวกเขาจะเน้นที่คุณภาพของเนื้อผ้า การตัดเย็บที่ประณีต และช่วยเสริมสร้างบุคลิกให้โดดเด่น มากกว่าที่จะเน้นแบรนด์เนม หรือราคาเช่นคนไทยที่ตอนนี้กำลังมีค่านิยมที่ผิดๆ ซึ่งคนไทยนั้นมักจะเน้นของราคาแพงๆ ชอบอวด ชอบโชว์ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วแทบจะมีเงินไม่พอใช้ จึงเป็นสาเหตุให้คนไทยมักจะเงินขาดมืออยู่บ่อยๆ นั่นเอง
ต่อมา เรื่องอาหาร พวกเขาเน้นอาหารที่ทำเองและมีคุณค่าทางโภชนาการเป็นหลัก ซึ่งตอนเช้าคนในบ้านจะทานข้าวร่วมกัน กลางวันก็หิ้วเบนโตะ หรือปิ่นโตไปรับประทานที่ทำงาน หรือที่โรงเรียน วันฉลองเงินเดือนออก พวกเขาจะนั่งล้อมวงทานหม้อไฟ หรืออาหารพิเศษอื่นๆตามใจสมาชิกในครอบครัว ไม่จำเป็นที่จะต้องไปฉลองตามสถานบันเทิง หรือร้านอาหารต่างๆให้สิ้นเปลือง แถมยังเป็นการสร้างความผูกพันธ์และมีความสุขมากกว่าการทานข้าวตามร้านอาหารอีกด้วย หากคุณอยากจะเป็นเศรษฐีล่ะก็ ต้องเอาอย่างชาวญี่ปุ่นกันบ้างแล้วล่ะ
นอกจากนี้ คุณยังใช้เงินลงทุนกับตัวเองในรูปแบบอื่นๆ ที่เหมาะกับสังคมไทยได้ เช่น ลงทุนจ่ายค่าเรียนพิเศษเพื่อความรู้เฉพาะด้าน เพื่อใช้พัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตตัวเองให้ก้าวหน้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการลงทุนอีกมากมายที่จะทำให้เงินงอกเงยขึ้นมาจากเดิมได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องระวังความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นด้วยล่ะ
3. หารูปแบบการออมที่ได้ประโยชน์สูงสุด
ก่อนอื่น ถ้าคุณยังมีชีวิตที่เต็มไปด้วยหนี้สิน แนะนำให้เริ่มต้นด้วยการหยอดเศษสตางค์ที่เหลือจากการทำงานลงในกระปุก แล้วสิ้นเดือนค่อยนำไปฝากเข้าธนาคาร วิธีนี้อาจจะเริ่มต้นด้วยจำนวนเงินที่ค่อนข้างน้อย แต่ก็ดีกว่าที่คุณจะไม่เริ่มต้นเลย เพราะอย่างน้อยก็ทำให้คุณมีเงินเก็บบ้างจริงไหม
หรือถ้าคุณสะดวกที่จะฝากเงินกับธนาคาร แนะนำให้เลือกฝากเป็นบัญชีเงินฝากประจำ เพราะมีอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง และบังคับให้คุณเก็บเข้าบัญชีทุกเดือนในจำนวนที่เท่ากัน บัญชีรูปแบบนี้คุณจะถอนออกมาก่อนกำหนดเวลาไม่ได้ เพราะคุณจะไม่ได้รับดอกเบี้ยในอัตรานั้นๆ ได้คืนเฉพาะยอดเงินต้น ควรฝากไว้ให้ครบตามกำหนดเวลา เพื่อประโยชน์สูงสุดของตัวคุณเอง
อีกรูปแบบหนึ่ง คือ การออมกับบริษัทที่คุณสังกัดอยู่ในตอนนี้ แทบทุกบริษัท จะมีการหักเงินฝากในรูปแบบกองทุน ซึ่งทางบริษัทจะร่วมมือกับสถาบันการเงิน โดยจ่ายเงินสมทบให้ในอัตราที่ค่อนข้างสูงเมื่อคุณลาออกอย่างถูกต้องตามกำหนดเวลาที่ระบุไว้ โดยอัตราค่าตอบแทนเริ่มต้นที่ 20-40%ไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะคะ
การออม คือ การปูรากฐานของชีวิตให้มั่นคง เพื่อชีวิตในวัยเกษียณ ที่คุณจะสามารถท่องเที่ยวไปได้ทั่วโลก และมีเงินใช้จ่ายอย่างไม่ขัดสน โดยที่คุณไม่ต้องหวังพึ่งลูกหลานอีกต่อไป แถมยังสร้างอนาคตที่ดี และสินทรัพย์ต่างๆไว้เป็นมรดกตกทอดให้แก่พวกเขาได้อีกด้วย ถือเป็นอิสระทางการเงิน ที่ใครๆต่างก็ปรารถนา ดังนั้นอย่าละเลยที่จะออมเงินตั้งแต่วันนี้ เพราะยิ่ง ออมเงิน เร็วเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งมีเงินเก็บมากเท่านั้น มาเริ่มออมเงินเพื่ออนาคตกันเลยดีกว่าค่ะ