การ ออมเงิน เป็นเรื่องที่ควรทำและควรเริ่มสอนกันตั้งแต่วัยเยาว์ แต่ด้วยสภาพครอบครัว สภาวะการใช้เงินของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนบางครอบครัวอยาก ออมเงิน แต่ทำไม่ได้เพราะมีภาระต่างๆมากมาย บางคนบางครอบครัวมีรายได้สูงก็สามารถจัดการ ออมเงิน ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อย่างในปัจจุบัน
การออมเงิน เป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญและเลือกวิธีการออมเงินให้เหมาะกับตัวเองและครอบครัวเพื่อที่จะได้ใช้เงินก้อนนี้ในยามที่จำเป็นและสามารถออมเงินไว้ใช้ยามชราได้
โดยการเลือก ออมเงิน ของแต่ละคนนั้นควรดูจาก รายได้ ภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ การซื้อกองทุน หรือ การฝากประจำ นั้นแน่นอนว่าจะให้ผลประโยชน์หรือดอกเบี้ยดีพอสมควร แต่ก็มีข้อเสียที่บางคนทำไม่ได้คือ ต้องใช้เงินจำนวนมากอย่างการซื้อกองทุนที่ต้องลงทุนขั้นต่ำหลักพันขึ้นไป ส่วนการฝากประจำก็เช่นเดียวกัน ปัจจุบันนี้ฝากหลักร้อยแทบไม่มีให้เห็นแล้ว ส่วนมากเริ่มต้นที่ 1000 บาท และต้องฝากเท่ากันทุกเดือนจนครบตามจำนวนที่เลือกไว้ ซึ่งบางคนเงิน 1000 จะเจียดไปฝากในแต่ละเดือนนั้นยากแสนเข็ญจริงๆ
อย่างที่กล่าวข้างต้นคือ ปัจจัยหลายๆอย่างที่จะเป็นตัวแปรที่ทำให้คุณต้องเลือกวิธีการออมเงินที่เหมาะสมและทำแล้วไม่เดือดร้อน รวมถึงไม่ใช่เป็นภาระด้วย
บางคนเลือกการออมเงินโดยการฝากธนาคารแต่เป็นการฝากออมทรัพย์ธรรมดาที่ไม่กำหนดขั้นต่ำของการฝาก และ สะดวกเพราะสามารถฝากได้ที่ตู้ฝากเงินที่ปัจจุบันมีบริการมากขึ้น สามารถฝากได้เรื่อยๆมีน้อยฝากน้อยมีมากฝากมาก และ การออกมเงินโดยการฝากออมทรัพย์นี้คนที่เลือกวิธีนี้จะไม่ทำบัตรเอทีเอ็ม เพื่อเป็นการหักห้ามใจไม่ให้กดเงินออกมาใช้ จะใช้เงินก็ต่อเมื่อจำเป็นและไปถอนที่ธนาคารเท่านั้น หรือ บางคนเลือกทำธนาคารออนไลน์ไว้ เพื่อที่ยามต้องการใช้เงินฉุกเฉินก็สามารถโอนจากบัญชีนี้มายังบัญชีที่มีเอทีเอ็มได้ แต่ ต้องย้ำกับตัวเองเสมอว่า จะใช้ยามจำเป็นเท่านั้นจริงๆ จะไม่ถอนมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
บางคนเลือกออมเงินโดยการทำประกันชีวิต เพราะ การทำประกันชีวิตถือเป็นการออมเงินอีกรูปแบบหนึ่ง แม้ว่าจะได้เงินต่อเมื่อเราเสียชีวิตแล้ว แต่ผลประโยชน์คือคนที่อยู่ข้างหลัง เช่น พ่อ แม่ ลูก สามี หรือ ภรรยา ซึ่งจะเป็นผู้รับผลประโยชน์ตาที่เราระบุไว้ ซึ่งปัจจุบันการทำประกันชีวิตก็ง่าย จ่ายแต่ละเดือนไม่แพงมาก ทำให้หลายๆคนเลือกใช้วิธีมากพอสมควร
นอกจากที่กล่าวมาบางคนก็เลือกวิธีง่ายๆเช่น หยอดกระปุก หรือ คนที่มีรายได้สูงๆ ก็หันไปซื้อกองทุนต่างๆเก็บไว้เก็งกำไร หรือ เก็บไว้รอดอกเบี้ย เหมือนเป็นการซื้อทิ้งไว้เฉยๆก็มี และ บางคนเลือกการซื้อทองเป็นการออมเงิน เพราะปัจจุบันมูลค่าทองสูงขึ้นจะลดลงก็ไม่มากและเปลี่ยนแปลงขึ้นๆลงๆ โดยบางคนซื้อทองน้ำหนักไม่มากเช่น หนึ่งสลึง เก็บไว้ทุกๆเดือน หรือ บางคนเลือกซื้อเป็นชิ้นเล็กๆ เช่น ตุ้มหูทองน้ำหนักเป็นเฟือง ซึ่งราคาไม่สูงมากและสะสมเก็บไว้เมื่อน้ำหนักครบ 1บาทก็นำไปเปลี่ยนเป็นสร้อยทอง แล้วกลับมาเริ่มต้นเก็บใหม่ไปเรื่อยๆ เมื่อวันหนึ่งต้องการใช้เงินก็สามารถนำไปจำนำ หรือ ขายเพื่อให้ได้เงินมา ซึ่งเป็นอีกวิธีที่หลายๆคนมองข้ามเพราะคิดว่าการเก็บทองต้องซื้อน้ำหนักเยอะๆเท่านั้น ทั้งๆที่ความจริงแล้วไม่จำเป็นเลย มีน้อยซื้อน้อยเก็บสะสมไปเรื่อยๆ ก็ได้มากขึ้นเองตามลำดับ
ไม่ว่าคุณจะเลือกการออมเงินแบบไหนก็ตาม ก็ให้เลือกตามความเหมาะสม ตามความสามารถของคุณที่ทำได้เพื่อที่จะไม่เดือดร้อนกับการใช้จ่ายในแต่ละวันและไม่กลายเป็นภาระจนทำให้รู้สึกว่ามันเหนื่อยเกินไปที่จะออมเงิน เริ่มเก็บออมตั้งแต่วันนี้เพื่ออนาคตที่ไม่ยากจนกันดีกว่า