การออมถือเป็นหนึ่งในวินัยทางการเงินที่สำคัญซึ่งทุกคนควรจะมี โดยเราจะเห็นได้ตามบทเรียนทั่วไปในโรงเรียนว่าบางที่จะมีหลักสูตรหรือโครงการต่างๆที่ช่วยกระตุ้นให้เด็กมีนิสัยการอดออมเงินไว้มากมาย
เช่น โครงการธนาคารโรงเรียน ซึ่งจะเป็นธนาคารสำหรับนักเรียนให้นำเงินไปฝากกับผู้ดูแลในโครงการของโรงเรียน และผู้ดูแลจะเป็นผู้ที่นำไปฝากธนาคารเพื่อฝากให้ บางครั้งนั้น อาจจะมีการติดต่อกับทางธนาคารเพื่อขอดอกเบี้ยแบบพิเศษด้วย เป็นต้น
ซึ่งโครงการนี้ ถือเป็นโครงการแรกเริ่มที่ดูเป็นรูปธรรมมากที่สุดของโรงเรียน แต่เริ่มแรกแล้วสิ่งที่เด็กๆได้ทำครั้งแรก ก็คือ การบันทึกบัญชีรายรับรายจ่ายนั่นเอง คนไทยจึงเข้าใจว่าการออมนั้นจะหมายถึง การเอาเงินไปหยอดกระปุกออมสินหรือการฝากธนาคารเท่านั้น
แต่ในความเป็นจริงแล้วการออมสามารถทำได้หลากหลายวิธีนอกเหนือไปจากการหยอดกระปุกออมสินหรือการฝากธนาคาร เช่น การซื้อประกันภัยแบบได้เงินคืนเมื่อครบกำหนด หรือการซื้อกองทุนต่างๆ เช่น RMF หรือ LTF นั่นเอง
กองทุน RMF นั้นจะย่อมาจาก Retirement Mutual Fund เป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่งซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นทางเลือกในการออมเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณของคนทั่วไป กองทุนนี้จะได้รับการสนับสนุนจากทางการในเรื่องของสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้แก่ผู้ลงทุนเพื่อเป็นแรงจูงใจในการลงทุนกองทุนนี้นี่เอง
ส่วน LTF หรือ long-term equity fund คือ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว ซึ่งเป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่งที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการลงทุนในตลาดหุ้นเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน โดยผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด เช่น การเสียภาษีน้อยลง หรือการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาวนั่นเอง
แต่การออมเงินไปเรื่อยๆ อาจจะทำให้เราเกิดความเบื่อหน่าย และล้มเลิกการออมเงินไปกลางคันได้ ดังนั้น จึงมีคนพยายามหาวิธีการช่วยออมง่ายๆที่จะช่วยให้การออมเงินเป็นเรื่องสนุกและง่ายขึ้นหลากหลายวิธี เช่น
- การออมเงินรายวันเหมือนเดิม แต่เพิ่มเป้าหมายของการออมเงินเข้ามา เช่น การแบ่งเงินใช้เท่าๆกันทุกวัน แต่ตั้งเป้าไว้ว่าวันหนึ่งจะใช้เงินเท่าไหร่เป็นอย่างมาก และเงินเหลือเท่าไหร่ก็เอาลงกระปุกออมสินให้หมด วิธีแบบนี้เก็บแป๊ปๆก็ได้เงินเป็นจำนวนมากแล้ว นอกจากนี้การจะเพิ่มเป้าหมายใหญ่เข้ากับตัวเองสักหน่อย เช่นตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องเก็บเงินให้ได้เท่าไหร่เพื่อจะซื้อของที่อยากได้มานาน ทีนี้ก้จะมีกำลังใจในการเก็บออมเงินมากขึ้นแล้วล่ะ
- ออมแบบมีทริค เช่น การตั้งเป้าไว้ว่าจะเก็บแต่ธนบัตรราคา 50 บาท ดังนั้นเวลาที่ได้ธนบัตรราคา 50 บาทมาก็จะไม่ใช้และเก็บไว้ทั้งหมด วิธีการนี้อาจจะเก็บเงินได้ช้าวกว่าแบบแรกอยู่บ้าง เนื่องจากเราก็ไม่ได้ใช้ธนบัตรราคา 50 บาทบ่อยนัก แต่ถ้าอยากเก็บเร็วๆก็อาจจะเลือกใช้การเก็บเหรียญทั้งหมดก็ได้ คือมีเหรียญอะไรก็ใส่กระปุกให้หมดไม่ใช้เลย อาจจะดูว่าเก็บได้ทีละไม่มาก แต่เราสามารถเก็บได้ทุกวันและยังทำให้มีเงินเก็บเหลือเฟือด้วยนะ
- ออมแบบมีเป้าหมาย และเป้าหมายนั้นต้องดึงดูดใจพอ เช่น การตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะนำเงินเก็บนั้นไปซื้อของสักชิ้น เช่น บัตรคอนเสิร์ต หรือรถยนต์ เป็นต้น ซึ่งการมีเป้าหมายแบบนี้จะช่วยให้เรามีความตั้งใจในการเก็บเงินมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เราไปถึงเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและยังทำให้เราสามารถซื้อของที่ต้องการได้โดยไม่ต้องขอเงินจากพ่อแม่หรือไปกู้ยืมจากไหนมาอีกด้วยนะ แต่บางทีเมื่อเราเก็บเงินไปถึงเป้าแล้ว เราก็อาจจะนึกเสียดายจนไม่อยากใช้เงินขึ้นมา ทีนี้เงินที่สะสมไว้ก็จะกลายเป็นเงินเก็บไปเลย แถมยังเยอะอีกด้วยนะ
- ออมแบบรายเดือน วิธีนี้จะนำเงินที่ได้ในทุกเดือนนั้นแบ่งออกมาออม เช่น การแบ่งเงินเดือนจำนวน 10% ในทุกๆเดือนเข้าบัญชีธนาคารเพื่อทำการการออม ซึ่งเป็นเงินที่แยกออกจากเงินที่ใช้ในชีวิตประจำวันต่างหากนั่นเอง เช่นหากคุณมีเงินเดือน 10,000 บาท ออม 10% ก็คือ 1000 บาท เมื่ออมเดือนละ 1000 บาททุกเดือนเป็นเวลา 1 ปี เราก็จะมีเงินออม 12,000 บาทเลยนะ ซึ่งก็นับว่าเป็นเงินที่ไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับคนที่มีเงินเดือนไม่มาก
- การออมระยะยาว ซึ่งในที่นี้อาจจะเป็นการออมโดยการนำไปลงทุนในกองทุนต่างๆ เช่น RMF หรือ LTF ก็ได้ เป็นต้น ซึ่งการออมแบบนี้จะทำให้เรามีเงินสำรองไว้ใช้มากพอในวัยเกษียณอีกด้วยนะ คงไม่มีใครอยากให้วัยเกษียณเป็นวัยที่แย่สุดๆ หรอก เพราะฉะนั้นการเก็บออมเงินเพื่ออนาคตวัยเกษียณจึงมีความสำคัญมากทีเดียว
การนำเงินที่เรามีอยู่ไปออมในลักษณะเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องทำเพียงวิธีใดวิธีหนึ่งถ้าหากเรามีความตั้งใจมากพอ เราก็อาจจะใช้หลายๆ วิธีรวมกันก็ได้เพื่อทำให้การออมเงินนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นและทำได้รวดเร็วขึ้นนั่นเอง
อยากมีเงินเก็บและรวยเร็วๆ ก็ต้องมุ่งมั่นในการออมหน่อยนะคะ พยายามลดค่าใช้จ่ายให้น้อยลงและเก็บออมให้มากที่สุด เราก็จะมีเงินออมเป็นกอบเป็นกำและก้าวไปสู่ความรวยได้ไม่ยากเลยล่ะ นี่แหละ วิธี ออมให้รวย !