ด้วยโครงสร้างทางสังคมไทยในยุคปัจจุบัน หลายคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่าประชากรผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนวัยทำงานกลับมีสัดส่วนลดลง ซึ่งโครงสร้างของประชากรไทยที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจแล้ว ยังทำให้มีปัญหาภาระที่ต้องดูแลผู้สูงอายุ อีกมากมาย โดยเฉพาะการสร้างหลักประกันทางรายได้เมื่อยามชรา ซึ่งผู้สูงอายุที่ไม่มีบุตรหลานเป็นที่พึ่ง อาจทำให้การใช้ชีวิตของพวกเขาเหล่าต้องลำบากขึ้น
ปัญหาดังกล่าว จึงก่อเกิดการรวมตัวของบรรดาผู้สูงอายุจากทั่วประเทศ และมีการมารวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นมุมมอง รวมถึงการหยิบผลสำเร็จที่ทำในชุมชนได้จริง มาพูดคุย เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ สู่การปฏิบัติเพื่อดูแลผู้สูงวัยในชุมชนอย่างเป็นสุข ซึ่งจัดโดย มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)บ้านโนนกุ่ม ต.โคกกระชาย จ.นครราชสีมา
วางแผนเพื่อการออมเงินของผู้สูงอายุโดยใช้บาตรพระ
การพูดคุยกันเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องเงินออมของผู้สูงอายุ ที่มีจุดเด่นที่การออมเงินโดยใช้บาตรพระ โดยมีการรวมกลุ่มกันอย่างเป็นเอกภาพ และดำเนินงานมากว่า 3 ปี โดยผ่านคนกลางคือ “พระ” ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมจิตใจหมู่บ้าน เพื่อดำเนินการออมเงินเก็บไว้ใช้ได้อย่างแยบยล แถมมีประสิทธิภาพ โดยใช้ “เงินออมก้นบาตร” เป็นตัวนำ ซึ่งวิธีการนี้ก็ช่วยให้ผู้สูงอายุออมเงินได้ไม่ยากเลย แถมยังทำให้เขารู้สึกสนุกกับการได้ออมเงินอีกด้วย
เจ้าอาวาสวัดโนนกุ่ม เจ้าของความคิด เงินออมก้นบาตร
เจ้าอาวาสวัดโนนกุ่ม พระอธิการยงยุทธ ฐิตสาโรเล่าว่า ก่อนการออมที่ว่านี้จะเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผลได้อย่างเช่นในปัจจุบัน ซึ่งแต่เดิมของผู้สูงอายุในชนบทแห่งนี้ มีแต่ความอ้างว้าง โดดเดี่ยว เพราะส่วนใหญ่ลูกหลานมักไปหางานทำในกรุงเทพฯ มีบางรายไม่ยอมกลับมาดูแลหรือส่งเงินให้ เมื่อจะไปหาหมอหรือเรื่องเงินที่จะต้องใช้จ่ายประจำวัน รวมถึงการหางบประมาณมาจัดกิจกรรมภายในหมู่บ้านนั้นมีความลำบากมาก เพราะต้องเข้าใจว่าสมัยก่อนยังไม่มีเบี้ยเลี้ยงคนชรา 600 บาทต่อเดือน การออมเงินก้นบาตรจึงเกิดขึ้นมาในสมัยนั้น เพื่อให้คนชราได้มีเงินออมและไม่ลำบากเกินไปนั่นเอง นับว่าความคิดนี้ก็เป็นความคิดที่โอเคและได้ผลมากทีเดียว แถมยังแก้ปัญหาคนชรายากจนในหมู่บ้านได้ดีอีกด้วย
แรงบันดาลใจในการทำโครงการ เงินออมก้นบาตร
ส่วนแรงบันดาลใจเจ้าอาวาสวัดโนนกุ่มเล่าว่า มาจากไปดูงานที่บ้านขาม จ.ชัยภูมิ โดยที่นั่นมีวิธีออมเงินจากผู้สูงอายุวันละบาท เมื่อเขาทำกันได้จากนั้นท่านก็มาคิดว่า ที่หมู่บ้านน่าจะทำบ้าง แต่จะทำอย่างไรให้มีความน่าเชื่อถือและต้องทำกันอย่างจริงจังเป็นกิจวัตร จึงใช้ศาสนา โดยการผ่านพระเป็นตัวนำ เพราะพื้นฐานผู้สูงอายุมักเข้าวัดทำบุญ ตรงนี้จึงเป็นที่มาของแนวคิดเงินออมก้นบาต เมื่อมีแนวคิด ก็ต้องคิดต่อไปว่า อะไรคือแรงผลักให้คนหันมาออมเงินกัน ท่านจึงคิดได้ว่า คนแก่นิยมใส่บาตรพระ จึงใช้บาตรพระในการเป็นตัวหนุนนำ โดยนำบาตรพระที่ไม่ใช้แล้ว มาขัดแล้วทาสีเสียใหม่ จากนั้นจึงนำไปแจกจ่ายตามบ้านเรือน แต่มีข้อแม้ว่า ทุกบาตรที่แจกไปต้องล็อกกุญแจ พร้อมให้สัญญาว่า จะใส่เงินออมทุกวัน อย่างน้อยที่สุดก็ออมวันละบาท เมื่อครบกำหนด 6 เดือน เจ้าอาวาสวัดโนนกุ่ม จะนำกุญแจไปไขให้ในแต่ละบ้าน และให้คณะกรรมการหมู่บ้านนำเงินไปฝากธนาคารอีกที ตรงนี้คนชราก็จะมีเงินหมุนใช้ แม้จะเป็นจำนวนเงินที่ไม่มาก แต่รับรองว่าไม่ลำบาก เป็นกำลังใจให้กันและกัน อีกทั้งยังเป็นเงินที่ช่วยปะทังชีวิตของคนชชราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นับว่าต้องขอบคุณเจ้าของความคิด เงินออมก้นบาตร เพื่อคนชราจริงๆ ที่ทำให้คนชราไม่ต้องลำบากอีกต่อไปและมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
เมื่อคนชราเริ่มมีเงินรอยยิ้มท่านก็พลอยดีใจไปด้วย เพราะหลังจากที่วัยชราเหล่านั้นอยู่กับความเหงามานาน เงินจำนวนนี้แม้ไม่มาก แต่เมื่อรวมกันแล้ว เฉลี่ย 6 เดือน ต่อ 1 คน จะอยู่ที่ 200-500 เมื่อรวมกันหลายคนเข้าก็จะได้หลักพัน หลักหมื่นสามารถนำเงินนี้มาสร้างสันทนาการ หรือ คลายเครียดให้กับผู้ชรา โดยทำกิจกรรมร่วมกัน เมื่อคนชรามีรอยยิ้มอารมณ์แจ่มใส ความเครียด เมื่อยามห่างไกลลูกหลานอาจจะมีน้อยลง และอาจทำให้ สุขภาพกาย ใจ แข็งแรง ไม่มีโรครุมเร้าตามมา ซึ่งก็นับว่าเป้นอะไรที่ดีมากทีเดียว ไม่จำเป้นต้องส่งคนชราเข้าไปอยู่ยังบ้านพักคนชรา แค่มีเงินออมก้นบาตรก็ช่วยให้พวกเขามีความสุขและดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างสุขสบายมากขึ้นแล้ว
โครงการนี้นับว่าเป็นโครงการที่ก้าวหน้าและสร้างสรรค์มากทีเดียว มีคนชราจำนวนไม่น้อยเลยที่ต้องอยู่อย่างเดียวดายท่ามกลางความลำบาก เนื่องจากลูกเต้าต่างก็แยกย้ายไปมีครอบครัวและทิ้งหายไป ดังนั้นนี่จึงเป็นเพียงน้ำใจจากชาวบ้านเพียงหนึ่งเดียวที่จะช่วยปะทังชีวิตของคนชราได้ แถมยังมากพอที่จะนำมาจัดกิจกรรมนันทนาการเพื่อให้คนชราได้มาร่วมทำกิจกรรมร่วมกัน อย่างมีความสุขและสนุกสนานอีกด้วย เห็นไหมว่ากระปุกออมสินของคนชรา มีประโยชน์ต่อคนชราไม่น้อยเลย แล้วคุณล่ะมาร่วมสร้างความสุขนี้ให้กับผู้สูงอายุกันเถอะ