เมื่อใกล้ถึงสิ้นเดือนภาระก็จ่อคิวรอเป็นหางว่าว เงินเดือนก็ช่างน้อยนิด มีหลายอย่างเหลือเกินที่โปรแกรมไว้ตั้งแต่กลางเดือนแต่ เงินเดือนไม่พอใช้ ไม่พอจับจ่าย ดังนั้น ปัญหาที่ตามมาคือหนี้สิน การใช้เงินเกินตัวเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คุณมีภาระเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว และคงไม่สามารถโทษใครได้ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงินเดือนที่คุณบ่นว่าน้อยนิด หรืออะไรก็ตาม เพราะภาระที่รอคุณอยู่ตอนปลายเดือน ก็คือภาระที่คุณสร้างเอาเองแทบทั้งสิ้น
และเมื่อชำระค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยจนหมดสิ้นแล้ว จำนวนเงินคงเหลืออาจส่งผลให้คุณช็อคยิ่งกว่า เนื่องจากเมื่อคำนวณยอดเงินแล้ว คุณน่าจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกไม่กี่วัน แล้วหลังจากนั้น คุณจะทำอย่างไรล่ะ กว่าเงินเดือนจะออกก็คงอดตายกันพอดีจริงไหม
บทความนี้จะช่วยแนะแนวทางการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าให้แก่คุณ รวมทั้งวิธีการบริหารเงินที่ถูกต้องตามแบบแผน เพื่อช่วยเพิ่มความสมดุลในการใช้ชีวิตให้คุ้มค่า และส่งผลให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นนั่นเอง ใครอยากให้ชีวิตการเงินดีขึ้น ไปดูกันเลย
1. แบ่งรายจ่ายออกเป็นส่วนๆ
ทันทีที่ได้รับเงินเดือน ควรใช้สติให้มากๆ งดช็อปปิ้ง งดจ่ายหนี้สินใดๆทุกกรณี หลังจากนั้นให้แบ่งเงินออกเป็นส่วนๆ เพื่อความสะดวกในการควบคุมค่าใช้จ่ายตลอดเดือนนั้นๆ ตัวอย่างเช่น ค่าเช่าบ้าน,ค่าน้ำ-ค่าไฟ,ค่าอินเตอร์เนต,ค่าใช้จ่ายปลีกย่อยอื่นๆ,เงินเก็บสำหรับฝากธนาคาร ให้หักออกไว้ตามจำนวนที่ต้องชำระจริงทั้งหมด แล้วส่วนที่เหลือคือค่าใช้จ่ายปลีกย่อยทั้งเดือนที่คุณสามารถใช้ได้ อย่าลืมแบ่งตามจำนวนวันให้พอใช้ก่อน แล้วค่อยใช้ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยอื่นๆ เพราะหากคุณซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยไปแล้ว เมื่อถึงคราวจำเป็นจริงๆ ก้จะทำให้เกิดความเดือดร้อนได้นั่นเอง
2. แบ่งเงินตามจำนวนวัน
สำคัญมากๆ เพราะถือเป็นการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างดีเยี่ยม เป็นวิธีที่สามารถใช้ได้ผลมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย คุณคงจำได้ว่าตอนเด็กๆ พ่อแม่หรือผู้ปกครอง ใช้วิธีจ่ายเงินรายวันให้คุณใช้ไปโรงเรียน และคุณก็สามารถควบคุมมันได้โดยไม่รู้สึกเดือดร้อน วิธีนี้แหละจะช่วยให้คุณเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีเงินเหลือเก็บต่อไปจากนี้ คุณเคยคำนวณไหม ว่าในวันๆหนึ่ง คุณใช้จ่ายเงินไปเท่าไหร่ ถ้าไม่ คุณควรเริ่มตั้งแต่วันนี้
วิธีง่ายๆ เพียงเอาจำนวนเงินที่เหลือ มาหารกับจำนวนวัน แล้วใช้ให้ได้ตามนั้น จะแบ่งเป็นราย 7วัน 10วันอะไรก็ว่ากันไป ใส่กล่องแยกเอาไว้ ถ้ายังไม่ครบกำหนดห้ามแอบหยิบไปเพิ่ม ควบคุมตัวเองให้ได้ ดีไม่ดีเมื่อครบกำหนด คุณอาจมีเงินเหลือติดกระเป๋าเสียด้วยซ้ำไป แถมวิธีนี้ยังช่วยให้คุณลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกได้ด้วยนะ ก็เพราะว่ามีเงินในจำนวนจำกัด จึงทำให้คุณต้องคิดทุกครั้งก่อนจะซื้ออะไรนั่นเอง
3. ทำบัญชีควบคุมค่าใช้จ่าย
สำคัญมากๆ เพื่อที่คุณจะได้รู้ที่มาที่ไป ว่าเงินของคุณหายไปไหน ทุกวันนี้ที่คุณมีหนี้สินรุงรัง ก็สืบเนื่องมาจากการที่คุณไม่สนใจทำบัญชีรายรับรายจ่ายนี่แหละค่ะ แล้วพอถึงเวลาก็มายืนสงสัยตัวเอง ว่าเอ๊ะ เพิ่งย่อยแบ๊งค์พันมาเมื่อกี้ แล้วเงินฉันหายไปไหน ทำไมเหลือแค่นี้ เป็นต้น
อย่างน้อยๆในการทำบัญชี ควรมีสี่ช่องหลักๆ เช่น ช่องวันเดือนปี =บันทึกลงไปทุกครั้ง ว่าปัจจุบันคือวันไหน, ช่องรายรับ=เงินเดือน+รายได้อื่นๆ,ช่องรายจ่าย=รายจ่ายทั้งหมดที่ใช้จ่ายออกไป ,ช่องหมายเหตุ=รายละเอียดในการใช้จ่ายทุกครั้ง เน้นว่าต้องลงทุกบาททุกสตางค์ ห้ามขี้โกงโดยเด็ดขาด ทางที่ดีดหลดแอพรายรับรายจ่ายไว้ในโทรศัพท์เลย จะได้บันทึกได้ตลอดเวลาและยังป้องกันลืมได้อีกด้วย
4. หาทางปิดยอดบัญชีหนี้สิน
ไม่ต้องรอโบนัสปลายปี ทันทีที่เงินเดือนเยอะเกินคาด ถึงจะแค่ร้อยเดียวก็ตาม คุณก็ต้องชำระหนี้เพิ่มตามยอดนั้นๆ เพื่อที่จะได้หมดหนี้สินโดยเร็วและเป็นไทแก่ตัวสักที คงไม่มีใครที่อยากเก็บหนี้ไว้นานๆ เพราะมีแต่เสียกับเสีย ยิ่งดองนาน ดอกเบี้ยยิ่งเพิมขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งยอดเงินต้นที่คุณเอามาอาจจะแค่ไม่กี่บาท ทบดอกทบค่าธรรมเนียมเข้าไป ก็กลายเป็นว่า คุณต้องจ่ายเงินคืนเกินยอดหนี้ขึ้นมาอีกหลายเท่าตัว ลองคำนวณดูเล่นๆสิคะ ว่าจริงหรือไม่ เพราะฉะนั้นรีบปิดหนี้มันซะเลยดีกว่า อย่างไรก็ทำให้เงินต้นลดน้อยลงและไม่ทำให้ดอกเบี้ยเพิ่มพูนขึ้นมากกว่าเดิมอีกด้วย นอกจากนี้คุณอาจจะหารายได้เสริมเพื่อนำเงินมาใช้หนี้โดยเฉพาะก็ได้นะ
จะสังเกตได้ว่า ทุกเรื่องที่เป็นปัญหาทางการเงิน ล้วนเกิดจากการใช้ชีวิตโดยประมาทล้วนๆ เพราะทันทีที่คุณมีเงินสักก้อนหนึ่ง ไม่ว่าจะมาจากการกู้ยืมหรืออะไรก็ตาม คุณจะไม่นำมันไปใช้จ่ายในทางที่จำเป็นเลย อย่าลืมว่ามันเป็นเงินล่วงหน้าในชีวิตที่คุณได้หยิบยืมมาก่อนพร้อมดอกเบี้ย ถ้าใช้อย่างไม่มีสติ จุดจบก็คงไม่ต่างกัน
ดังนั้นการจะใช้จ่ายเงินทุกครั้งอย่าลืมว่าต้องมีสติยั้งคิดอยู่เสมอ อะไรที่ไม่จำเป็นก็ตัดออกไปซะก่อน ส่วนคนที่มีหนี้สินจมบานอยู่ล่ะก็ ควรรีบหาทางปิดหนี้สินให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นนั่นเอง ทีนี้คุณก็จะมีเงินเดือนเหลือพอใช้แล้วล่ะแถมยิ่งปลดหนี้ได้เร็วขึ้นเท่าไหร่ การเงินของคุณก็จะยิ่งดีขึ้นอีกด้วย