ในโลกนี้ คงจะไม่มีใครที่ไม่ใช้เงิน
เป็น ครูอาจารย์ ก็ต้องใช้เงิน เป็นพ่อค้าแม่ค้า ก็ต้องใช้เงิน เป็นพระสงฆ์ ก็ต้องใช้เงินเช่นกัน หรือแม้กระทั่ง เป็นขอทาน ก็ต้องใช้เงิน ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ใครที่มีรายได้สูงคงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่หากว่าเรายังเป็นคนธรรมดา มนุษย์เงินเดือน หรือหาเช้ากินค่ำ การใช้เงินเป็นเรื่องแรกๆที่เราต้องให้ความสนใจเลยทีเดียว คำกล่าวที่ว่า ตายไปก็เอาเงินไปไม่ได้ คงใช้ไม่ได้ในปัจจุบัน เนื่องจากเรายังมีชีวิตอยู่ จึงต้องหาเงิน ถ้าหาได้อย่างจำกัด ก็ต้องมีการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดี ซึ่งหลักการ เหมาโหลถูกกว่า ก็ยังถือว่าเป็นหลักการใช้เงินที่คุ้มค่า และเราสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ในหลายเรื่อง ยกตัวอย่างเช่น
การซื้อของในห้างสรรพสินค้า
จากหลักการที่ว่า การซื้อของทีละมากๆ ย่อมมีราคาถูกกว่า ซื้อทีละชิ้น เราสามารถนำหลักการนี้มาใช้ในการจับจ่ายซื้อของใช้ในบ้านได้ โดยเราจะสังเกตได้ว่า สินค้าไหนที่มีการขายยกโหล ราคาจะถูกกว่า ซื้อเดี่ยวๆ หรือ สินค้าที่ขายในปริมาณมากกว่า อาจจะขวดใหญ่กว่า ซองใหญ่กว่า เมื่อเทียบราคาต่อปริมาณแล้ว จะคุ้มค่ากว่าซื้อสินค้าในปริมาณน้อยกว่า ดังนั้นเมื่อเราจำเป็นต้องซื้อของในชีวิตประจำวัน ให้เลือกซื้ออย่างคุ้มค่าที่สุด นั่นคือ การเลือกซื้อในปริมาณมาก แทนที่จะวางแผนซื้อของใช้ในช่วง 1 เดือน ก็ให้วางแผนซื้อของใช้ในช่วง 2 เดือนแทน นอกจากนี้ในห้างค้าปลีก หากเราซื้อของในปริมาณมาก มักจะได้ลดราคาพิเศษเพิ่มอีกด้วย
การเดินทางท่องเที่ยว
ชีวิตของคนเราแม้จะประหยัดเงินแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่เราควรจะมีก็คือ การหาเวลาว่างไปพักผ่อนกับครอบครัวบ้าง นอกจากจะเป็นการเติมพลังสมองแล้ว ยังถือได้ว่าเป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับสมาชิกในครอบครัวอีกด้วย โดยเราสามารถเลือกท่องเที่ยวได้อย่างคุ้มค่าและมีคุณภาพได้ ด้วยหลักการเดียวกันก็คือ เหมาโหลถูกกว่า นั่นเอง เช่น การจองโรงแรม ในปัจจุบันมีโปรโมชั่นออกมามากมาย โดยเฉพาะการได้รับส่วนลดเมื่อเข้าพักหลายคืน การซื้อทัวร์ต่างๆ เรามักจะได้รับส่วนลด เมื่อซื้อหลายหัว เพราะฉะนั้นแล้ว การเดินทางท่องเที่ยว เราควรที่จะต้องวางแผนการเดินทาง วางแผนที่พักให้ดี เพื่อใช้เงินอย่างคุ้มค่าที่สุด
การเดินทางประจำวัน
สำหรับใครที่ต้องเดินทางในชีวิตประจำวัน เช่น ออกไปทำงาน ไปเรียนหนังสือ หรือเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ หากว่า เราต้องเดินทางเป็นประจำ แล้ว เราสามารถนำหลักการ เหมาโหลถูกกว่า มาใช้ได้เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า แทนที่ เราจะเติมเงินเป็นรายเที่ยว เราสามารถเลือก ซื้อแบบเหมาเที่ยว กี่เที่ยวต่อเดือนก็ว่ากันไป หากว่าเราเดินทางเป็นประจำ จำนวนเที่ยวเยอะ จะทำให้ราคาเฉลี่ยต่อเที่ยวลดลง หรือถ้าหากว่าเราต้องนั่งรถเมล์บ่อยๆ การซื้อตั๋วรายเดือน ก็เป็นอีกเหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน แม้แต่การเดินทางกับสายการบิน หากว่าเราจองล่วงหน้าเป็นระยะเวลานาน ราคาย่อมถูกกว่า ซื้อในช่วงใกลๆเมื่อรู้ว่าจะเดินทาง หรือซื้อในวันเดินทางอยู่แล้ว
การจับจ่ายใช้สอยเพื่อกิจกรรมนันทนาการ
ปกติแล้ว เมื่อเราทำงานหรือเรียนมาเครียดๆ การหาเวลาว่างทำกิจกรรมเพื่อพักผ่อนสมอง เช่น ดูหนัง ร้องคาราโอเกะ โยนโบว์ลิ่ง หรือกิจกรรมอื่นๆ ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เราสามารถนำหลักการ เหมาโหลถูกกว่า นี้มาใช้ได้ ยกตัวอย่างเช่น ตั๋วหนัง หากว่าเราไม่ได้คิดอะไรมาก เราไปดูหนังครั้งหนึ่ง ก็ซื้อตั๋วครั้งหนึ่ง ก็ได้ราคาตามปกติ แต่หากว่า เราเป็นคนชอบดูหนัง และคิดแล้วว่า ต้องดูหนังบ่อยๆแน่นอน การซื้อ บัตรส่วนลด ซึ่งปกติแล้ว ตามโรงหนังจะขายยกชุด 10 ใบ จะได้ราคาเฉลี่ยถูกกว่า การซื้อครั้งละใบมากทีเดียว
การใช้งานอินเตอร์เน็ตและค่าโทรศัพท์มือถือ
เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากๆ กับเรื่องของการใช้งานโทรศัพท์มือถือ โดย หลักการเหมาโหลถูกกว่า ถือว่าเป็นหลักการที่เหมาะกับการใช้งานโทรศัพท์มือถือมาก ทั้งนี้เพราะหากว่า เราไม่ตรวจสอบ ใช้โทรศัพท์มือถือ หรือใช้อินเตอร์เน็ตแล้วเสียค่ารายเดือนตามปกติ หรือเลือกแพ็กเกจรายเดือนที่มีราคาต่ำ ค่ารายเดือนถูก แต่เมื่อเฉลี่ยแล้ว จะพบว่า ราคาค่าโทรต่อนาที หรือค่าอินเตอร์เน็ตต่อหนึ่งเมกะไบต์จะมีราคาสูง เพราะฉะนั้นแล้ว หากเราใช้งานเยอะ ควรเลือกแพ็กเกจให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อที่จะได้ราคาที่เหมาะสม ไม่แพงจนเกินไป
ดังนั้นแล้ว จะเห็นได้ว่า
หลักการเหมาโหลถูกกว่า ถือว่าเป็นหลักการที่ใช้ได้ในทุกยุคทุกสมัยและใช้ได้กับชีวิตประจำวันของเรา ซึ่งในหลักการนี้ยังสามารถปรับไปใช้กับเรื่องอื่นๆได้อีกด้วย