การใช้บัตรเครดิตเกินความสามารถที่ตนเองจะแบกภาระค่าใช้จ่ายได้ เป็นสิ่งที่อันตรายอย่างมาก และนำมาซึ่งหนี้สินที่เพิ่มขึ้น เพราะเมื่อเริ่มเป็นหนี้บัตรเครดิต ก็พยายามไปกดเงินสดจากบัตรนู้นมาปิดบัตรนี้และต่อไปเรื่อยๆจนเป็นหนี้ก้อนโต แต่เมื่อถึงช่วงหนึ่งที่สถาบันการเงินทวงถามเพื่อให้ชำระหนี้สินทั้งหมด ก็ไม่สามารถที่จะเคลียร์หนี้ทั้งหมดได้ จึงทำให้สถาบันการเงินต้องนำเรื่องส่งฟ้องศาล เพื่อให้ดำเนินการกับลูกหนี้ และผู้ที่เป็นหนี้บัตรเครดิตจะต้องพบก็คือ หมายศาล หรือที่เรียกกันในวงการหนี้บัตรเครดิตว่า หมายศาลคดีแดง
หมายศาลคดีแดง หมายถึงทางเจ้าหนี้ได้มีการดำเนินการฟ้องศาล หลังจากนั้นศาลจะส่งจดหมายไปเรียกตัวตามที่อยู่ในทะเบียน เมื่อลูกหนี้ได้รับหมายและทำการเซ็นต์รับหมายแล้ว จะมีระยะเวลา 15 วัน สำหรับการเขียนคำให้การ ในขั้นตอนนี้ลูกหนี้ควรทำการปรึกษากับทนายความ เนื่องจากหมายนี้แสดงว่าเรื่องได้ไปสู่ขั้นตอนของศาลแล้ว และไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป ต้องมีหน้าที่ให้การยื่นต่อศาลภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหมายหรือถือว่าได้รับหมาย หมายความว่าการที่จะถือว่าลูกหนี้ได้รับหมายศาลแล้วนั้น เช่นการปิดหมายที่บ้านพักหรือสำนักงาน ซึ่งหมายถึงการที่ผู้ถูกฟ้องไม่ยอมรับหมายเรียก เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องทำการปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้ แต่สำหรับขั้นตอนการปิดหมายจะมีผลใช้ได้ต่อเมื่อกำหนดเวลา 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้ทำการปิดหมายได้ผ่านไปแล้ว ดังนั้น ผู้ที่ถูกฟ้องหรือลูกหนี้ยังมีระยะเวลาที่จะยื่นคำให้การเพื่อแก้ต่างได้รวมแล้ว 30 วัน นับจากวันปิดหมาย ทั้งนี้เพื่อให้การต่อสู้คดี แต่หากเลยระยะเวลาที่กำหนด ก็จะเข้าสู่กระบวนการตัดสินและจะต้องรับผิดชอบต่อคำตัดสินทันที
ดังนั้น เมื่อได้รับหมายศาลแล้ว ลูกหนี้ไม่ควรหลีกหนี แต่ควรดำเนินการตามที่หมายศาลกำหนด และเข้าสู่กระบวนการ เพราะท้ายที่สุดแล้วศาลจะมีหน้าที่ทำการไกล่เกลี่ยระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ โดยให้ความเป้นธรรมกับลูกหนี้ที่จะสามารถทยอยนำเงินมาชำระ หรืออาจจะลดหนี้ให้ ก็ขึ้นอยู่กับดุจพินิจของศาล