ปัจจุบันการซื้อสินค้าสักชิ้น ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเล็กๆ หรือ สินค้าใหญ่ๆ การเปรียบเทียบราคา ปริมาณ คุณภาพ กลายเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่าย เพราะมีอินเตอร์เน็ต ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะเลือกสินค้าในชนิดเดียวแต่หลายยี่ห้อมาเปรียบเทียบกัน ก่อนตัดสินใจซื้อ หลายคนสงสัยว่าการทำแบบนี้ เลือกมาก เรื่องมากไปมั้ย ?เพราะบางครั้งไปสอบถามจากร้านค้าคนขายมักจะไม่ค่อยบริการ ไม่ค่อยตอบคำถาม ทำให้คิดว่าตัวเองดูเป็นคนเรื่องมาก
บทความเพิ่มเติม : 5 check list ก่อนควักเงินช้อป
ว่ากันตามความจริงแล้วการการเปรียบเทียบราคา ปริมาณ คุณภาพ และอื่นๆเป็นเรื่องที่ดีเพราะเราสามารถเลือกที่เราต้องการและเหมาะสม หรือ ดีกว่าที่เราเลือกด้วยการตรวจสอบเบื้องต้นจากการเปรียบเทียบจากหลายๆยี่ห้อ หรือ บางคนดูจากรีวิวแนะนำ เช็คถึงปัญหาการใช้งานทั้งๆที่ยังไม่ได้ซื้อเลยด้วยซ้ำ เพราะอย่างที่บอกเสมอว่าเดี๋ยวนี้อะไรๆก็แพง จะจ่ายเงินทั้งทีก็ต้องให้ได้ของดีและคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งไม่ใช่แค่สินค้าชิ้นใหญ่ๆ เท่านั้น แม้แต่เครื่องสำอางยังมีการการเปรียบเทียบราคา ปริมาณ คุณภาพ กันก่อนซื้อเลยด้วยซ้ำ หลายคนดูถึงขนาดว่าร้านไหนขายถูกที่สุด ทั้งร้านออนไลน์ และออฟไลน์
แต่เชื่อไหมว่าขนาดเช็คแล้วเช็คอีก ยังมีพลาดเพราะกลยุทธ์ทางการค้าของร้านค้า หรือ แบรนด์สินค้า
พลาดแบบไหน อย่างเช่น เราเช็คราคาจากในเวปไซค์ว่าตอนนี้สินค้าชิ้นนี้ราคานี้ หากซื้อช่วงนี้จะมีส่วนลดเท่านี้ ได้โปรโมชั่นอะไรต่างๆนาๆ ซื้อเงินสดลดเยอะ ซื้อเงินผ่อนมี 0% และสามารถซื้อได้ที่ไหนบ้าง แน่นอนว่าคนที่ต้องการซื้อสินค้าชิ้นนั้นเมื่อตรวจสอบจนถี่ถ้วนจนตัดสินใจซื้อแล้วก็ต้องไปซื้อจากร้านที่แนะนำ แต่พอไปถึงกลับกลายเป็นอีกราคาที่แพงกว่าที่แจ้งในหน้าเวปไซค์ โดยคำตอบที่ได้รับคือ ทางบริษัทหรือราคาหน้าเวปไซค์มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว ปัจจุบันเป็นราคานี้ โปรโมชั่นนี้แน่นอนว่าแพงกว่าที่เราตรวจสอบมา ซึ่งบางคนตั้งใจไปซื้อ ตั้งใจไปร้านนั้นๆ ตามที่เวปไซค์ระบุ
หลายคนเมื่ออยากได้ก็ต้องจ่ายเงินกันไป หลายๆคนไม่อยากเสียเวลาก็ยอมซื้อ แต่ก็มีบางส่วนที่ตัดใจไม่ซื้อไปเลยและเข็ดขยาดกับการตรวจสอบราคาทั้งๆที่คิดว่าดูดีแล้ว ตรวจสอบแล้ว ก็ยังโดนเอาเปรียบ ทำให้การเลือกซื้อสินค้าไปดูตามหน้าร้านเลยจะดีกว่า สอบถามกับพนักงานเลยดีกว่า แต่เมื่อถามมากๆ ก็อย่างที่กล่าวข้างต้นพนักงานไม่ค่อยบริการ และ มองเหมือนเราเรื่องมาก จู้จี้จุกจิกและไม่อยากตอบคำถามเพราะถามเยอะ และมักคิดว่าถามมากๆก็ไม่ซื้อ ทั้งๆที่มันเป็นหน้าที่ของพนักงานขายที่ต้องคอยบริการและตอบคำถามลูกค้า
เรื่องแบบนี้คงแก้ปัญหากันได้ยากทั้งในส่วนของการตรวจสอบราคา กลยุทธ์การขายต่างๆของร้านค้า และการบริการของพนักงานขาย ซึ่งปัจจุบันพนักงานขายบางร้าน ไม่ค่อยจะบริการลูกค้าเท่าไหร่นัก เพราะส่วนใหญ่จะเน้นจากการสังเกต หากลูกค้าคนไหนเดินเข้ามาถามหาสินค้า สอบถามราคา ไม่จู้จี้จุกจิก นั่นคือลูกค้าพร้อมจะจ่ายเงิน แต่หากถามหรือขอข้อมูลต่างๆ นั่นหมายความว่าลูกค้ายังลังเลที่จะเลือก ซึ่งพนักงานขายส่วนใหญ่ไม่ชอบเพราะบางแห่งไม่มีการเทรนด์การขาย พนักงานไม่รู้ข้อมูลตอบไม่ได้ ทำให้ไม่อยากเจรจากับลูกค้า ก็เหมือนเสียโอกาสในการขาย เพราะโดยนิสัยของทุกๆคนหากบริการดี ตอบคำถามได้ พูดจาไพเราะแพงเท่าไหร่หากจ่ายไหวทุกคนย่อมยอมจ่ายเงินซื้อของเพราะพนักงานขายบริการดี เอาใจใส่ ต่อให้แพงกว่าที่อื่นก็ยอมเพราะเชื่อในการบริการว่าจริงใจ พนักงานดูแลเทคแคร์แนะนำได้ดี นี่ก็เป็นอีกลยุทธ์ของการขาย
ไม่ว่าใครจะว่าเรา เลือกมาก เรื่องมาก ที่ เช็คราคาและเปรียบเทียบสินค้าก่อนซื้อ แต่มันก็เป็นเรื่องสมควรทำ หากไม่ได้เช็คจากออนไลน์ ไปสอบถามตามร้านค้าหากร้านไหนพนักงานบริการไม่ดีก็ไม่ต้องซื้อไปหาที่อื่นแทนเพราะหากบริการไม่ดี ตอบคำถามไม่ได้ก็ไม่ควรได้เงินจากเรา เพราะบริการพื้นฐานยังไม่ดีหลังการขายจะเป็นอย่างไร เรามีสิทธิเลือกก็ควรจะรักษาสิทธิของเราไว้