หุ้นหนอหุ้น! ใครนะบอกว่าเล่นแล้วจะรวย หลายคนที่ตัดสินใจลงทุนในหุ้นคงจะเคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อนแน่ ๆ ที่มีคนเคยบอกไว้เรื่องรวยเร็วก็ไม่ผิด แต่เหรียญอีกด้านของตลาดหุ้นก็คือการมีโอกาสขาดทุนเร็วได้เช่นเดียวกัน และนี่เองจึงเป็นที่มาของการที่เราต้องเรียนรู้และศึกษาเรื่องการลงทุนหุ้นให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน อย่าคิดเพียงว่าจะรวยเร็วโดยใช้เป็นทางลัดได้เท่านั้น การลงทุนหุ้นเพื่อให้ประสบความสำเร็จได้นั้นจำเป็นต้องอาศัยเทคนิคเข้าช่วยด้วย และอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การศึกษาจากประสบการณ์ของคนที่ทั้งกำไรและขาดทุนว่าพวกเขาเคยเจออะไรกันมา และในช่วงเวลานั้นเขาตัดสินใจเรื่องเงินลงทุนอย่างไร เพราะอะไรถึงกำไร และเพราะอะไรถึงขาดทุน
วันนี้เรามีกระทู้แชร์ประสบการณ์แต่เป็นประสบการณ์ขาดทุนในหุ้นมาฝากกัน ใครที่อยากอ่านแบบเต็ม ๆ ก็เข้าไปอ่านได้ที่นี่เลย https://pantip.com/topic/36367540 แต่ถ้าใครไม่มีเวลา ตามอ่านสรุปจากที่นี่ได้เหมือนกันค่ะ
เจ้าของกระทู้ใช้ชื่อว่า Revollio เกริ่นนำว่าตนเองเทรดหุ้นมาประมาณ 12-13 ปี ถือว่าไม่ได้มาก แต่ก็ไม่ได้น้อย 2 ปีหลังของการเทรดเป็นการเทรดเต็มเวลาเพราะลาออกจากงานประจำมาเทรดเต็มตัว โดยถ้านับประสบการณ์ก็ต้องบอกว่ามีทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่แย่ เรื่องที่น่าพอใจและเรื่องที่อยากกลับไปแก้ไข โดยเฉพาะหลังจากที่ลาออกมาเทรดหุ้นเต็มตัวนั้น ทำผลงานได้ไม่ดีเท่ากับที่คาดหวังไว้ เป็นเพราะความกดดันที่มีสูงขึ้น อยากได้ผลตอบแทนกลับมาเร็ว ๆ มีเงินลงทุนส่วนหนึ่งที่เป็นเงินกู้มาลงทุนต้องเสียดอกเบี้ย บวกกับเรื่องรายได้จากงานประจำที่ขาดหายไป จึงทำให้เทรดเร็ว เล่นสั้น ซื้อ ๆ ขาย ๆ โดนค่าคอมมิชชั่นไปบาน ประกอบกับตลาดหุ้นเป็นขาลง ช่วงนั้นตลาดหุ้นก็เป็นขาลงไม่เอื้อให้ทำกำไรได้ง่าย 6 เดือนเลยขาดทุนไป 10-15% เจ้าของกระทู้ลงทุนหลายพอร์ต มีพอร์ตหลักและพอร์ตรอง ใช้สัญญาณการซื้อขายแบบสั้น ๆ 5 นาทีบ้าง 60 นาทีบ้าง สิ่งที่ถือว่าน่าตกใจมากก็คือมูลค่าการเทรดของพอร์ตรองมากกว่ามูลค่าพอร์ตถึง 60 เท่า ส่วนค่าธรรมเนียมในการซื้อขายก็ปาเข้าไปกว่า 10% ของมูลค่าพอร์ต
จนสุดท้ายมาเจอกับหุ้นขาลง ที่ทำให้ต้องเจ็บหนักขาดทุนไปมากโข จนถึงกับต้องหยุดเทรดเพื่อทบทวนตัวเองสักพัก หลังจากนั้นก็กลับมาเทรดใหม่โดยพยายามใช้วินัยในการลงทุนมากขึ้น เปลี่ยนจากการเทรดหุ้นมาเป็นการลงทุน เน้นหุ้นรายตัว เทรดให้ยาวขึ้น เลือกใช้สัญญาณการซื้อขายหรือ Time Frame ที่ใหญ่ขึ้น เจ้าของกระทู้ยอมรับว่าที่ผ่านมา 8 ปีแม้ว่าจะได้ผลตอบแทนเป็นบวกติดต่อกัน แต่การเทรดหุ้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะระหว่างความสำเร็จและความล้มเหลวมีเพียงเส้นบาง ๆ กั้นอยู่เท่านั้น เราอาจเคยคิดว่าเราเก่งแล้ว ยอดเยี่ยมแล้ว แต่ที่จริงไม่ใช่เลย ยังมีอะไรอีกมากมายให้เราต้องเรียนรู้ต่อไป
อ่านจากที่เจ้าของกระทู้ คุณ Revollio มาแชร์ประสบการณ์ก็สามารถสรุปได้ว่า คนที่เคยเทรดหุ้น ซึ่งก็หมายถึงการซื้อขายหุ้นโดยอาศัยการเก็งกำไรระยะสั้นโดยใช้เทคนิคกราฟ หรือการจับสัญญาณการซื้อหรือขายหุ้นนั้น ถึงขนาดเรียกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญก็ว่าได้ เพราะเทรดหุ้นอยู่นาน 12-13 ปี และถึงกับลาออกมาเทรดหุ้นและกู้เงินมาเล่นด้วยก็แสดงว่ามีความมั่นใจในฝีไม้ลายมือของตัวเองมากพอสมควร ก็สุดท้ายก็ต้องออกมายอมรับว่าสิ่งที่ตนเองทำมาตลอดระยะเวลาหลายปีนั้นไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของการลงทุนในหุ้น ถึงกับต้องมีการหยุดเทรด และคิดปรับเปลี่ยนวางแผนการลงทุนหุ้นของตัวเองใหม่ทั้งหมด
สำหรับหุ้นตัวที่ทำให้คุณ Revollio ถึงกับแทบจะต้องถอดใจกับการเทรดหุ้นไปเลย ก็มีดังนี้ค่ะ
- SAPPE เป็นหุ้นที่ถือเป็นขาลงมานานระยะหนึ่ง มีการวิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นเวลาที่หุ้นรีบาวด์ขึ้นได้แล้ว คุณ Revollio จึงได้ตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นตัวนี้ด้วยจำนวนเงินที่เยอะพอสมควร แต่ก็ไม่เป็นไปตามคาด หลังจากที่ราคาร่วงมากว่า 30% เมื่อเข้าซื้อก็ยังร่วงต่ออีก 30% จึงจำใจต้องคัทลอสไปแบบเจ็บตัวหนักมาก ประสบการณ์ในอดีตของหุ้นบางตัวที่มีการรีบาวด์หลังจากราคาลงไปมากแล้วก็นำมาใช้ไม่ได้กับกรณีนี้
- K หุ้น IPO เจ็บหนักตั้งแต่วันแรกที่เข้าเทรด อันนี้เป็นธรรมดาของความหวือหวาของหุ้น IPO ที่เพิ่งเข้าเทรดในตลาดเป็นวันแรกอยู่แล้ว คาดหวังและกะเกณฑ์อะไรยากมาก เพราะมีทั้งตัวที่ขึ้นต่อ และตัวที่ร่วงตั้งแต่วันแรกก็มีเช่นกัน กรณีนี้เจ้าของกระทู้ใช้สัญญาณ 5 นาทีในการเทรด แต่โดนสัญญาณระยะสั้นหลอก ขาดทุนไปวันเดียว 10% ของพอร์ตรอง ถึงกับจิตตก
- TASCO/SIM เป็นหุ้นอีก 2 ตัวที่เมื่อถึงต้นปี 2559 เป็นการจบขาขึ้นแบบน่าจะถาวร ลงร่วงแบบเต็มตัว จนถึงกับต้องสงสารและเห็นใจใครที่ถือหุ้นตัวนี้ในมือ ทำเอาเจ้าของกระทู้ถึงกับใช้คำว่าเป็นช่วงที่กระทบกระเทือนใจมากที่สุดช่วงหนึ่งเลยทีเดียวและต้องตัดสินใจหยุดเทรดเพื่อทบทวนตัวเองครั้งใหญ่
แต่อย่างไรสุดท้ายเจ้าของกระทู้คุณ Revollio ก็ไม่ได้ถึงกับถอดใจจนออกจากตลาดหุ้นมาเลย แต่ได้คิดทบทวนและปรับเปลี่ยนแผนการซื้อขายหุ้น จากเดิมที่เล่นระยะสั้น บางตัวใช้สัญญาณ 5 นาทีในการซื้อขาย ซึ่งถือว่าเสี่ยงมาก มาเป็นการใช้ Time Frame ที่ใหญ่ขึ้น มีการเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัว เลือกจากปัจจัยพื้นฐาน ใจเย็นขึ้น ปรับมุมมองการเล่นหุ้นให้เป็นการลงทุนมากขึ้น ไม่ได้มองแค่เป็นการเทรดซื้อ ๆ ขาย ๆ ระยะสั้นเท่านั้น จึงทำให้สามารถประคองพอร์ตการลงทุนให้อยู่ต่อมาได้ และได้นำประสบการณ์ที่ถือว่ามีค่าของตัวเองมาแชร์ในพันทิปให้ได้อ่านกัน รวมทั้งนำ E-book เกี่ยวกับเทคนิคการเทรดหุ้นมาแจกให้อ่านกันแบบฟรี ๆ ตามลิงก์นี้ด้วย http://upload.i4th.in.th/th/download.php?id=58FACDAB1 ใครสนใจลองเข้าไปดาวน์โหลดมาอ่านกันได้ค่ะ และอย่าลืมนำประสบการณ์ที่เจ้าของกระทู้มาแชร์ไว้นี้เป็นเครื่องเตือนใจเวลาที่เราเทรดหุ้นกันด้วยค่ะ