สำหรับใครที่อยู่ในวัยเกษียณหรือใกล้ที่จะเกษียณแล้วสิ่งที่ต้องกังวลต่อไปนั่นก็คือ รายได้หลังเกษียณนั่นเอง ผู้ที่รับราชการจะได้บำนาญซึ่งก็พอเลี้ยงปากท้องในยามแก่เฒ่าได้อย่างไม่ยากเย็น แต่คนที่ได้รับเงินบำเหน็จหรือเงินก้อนล่ะ ถือว่าเป็นปัญหามาก เพราะถ้าหากเงินหมดลง ด้วยวัยขนาดนี้ การจะไปหาทำงานทำแบบคนหนุ่มสาว ดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ยากเย็น และการใช้ชีวิตแต่ละวันนั้นต้องมีรายจ่าย เงินที่ได้รับหลังเกษียณนั้น อาจจะดูเหมือนมาก แต่แท้ที่จริงแล้วไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างสบายๆได้เลยแม้แต่น้อย
การ ลงทุนหลังเกษียณ จึงเป็นทางออกที่จะช่วยให้คุณมีรายได้เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพนั่นเอง แต่การลงทุนแบบไหนล่ะที่จะให้ผลตอบแทนพอที่จะเลี้ยงชีพได้ และมีความเสียงต่ำ เอาเป็นว่าสำหรับใครที่กำลังจะเข้าสู่วัยเกษียณก็ลองพิจารณาดู
การฝากเงินกับธนาคาร
ถือว่าเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและคนหลังเกษียณส่วนมาก เลือกที่จะลงทุนด้วยวิธีนี้ เพราะการฝากเงินกับธนาคาร จะทำให้เราได้รับดอกเบี้ยรายปีซึ่งจะอยู่ที่ 0.5 – 3% ต่อปี แน่นอนว่าวิธีนี้แทบไม่มีความเสียงในการลงทุนเลย เพราะเงินต้นที่เราลงทุนไว้ยังอยู่ครบถ้วน และแต่ละปีก็ยังได้ดอกเบี้ยเป็นการตอบแทนอีกด้วย แต่วิธีนี้ต้องบอกว่าการฝากเงินให้ผลตอบแทนน้อย และเหมาะกับผู้ที่มีเงินก้อนใหญ่ หรือคนที่ได้เงินบำเหน็จเป็นจำนวนสูง การจะทำแบบนี้ได้คุณต้องคิดและคำนวณค่าใช้จ่ายในแต่ละวันก่อน จากนั้นค่อยคำนวณดอกเบี้ยที่จะได้รับจากเงินฝากว่าพอใช้จ่ายหรือไม่
ตัวอย่างเช่น
ถ้ามีรายจ่ายต่อเดือนอยู่ที่ 5,000 บาทนั่นหมายความว่า 1 ปีคุณจะต้องใช้เงิน 60,000 บาท สำหรับบัญชีฝากประจำที่ให้ดอกเบี้ย 3% ต่อปี เท่ากับว่าคุณต้องมีเงินฝากสูงถึง 2,000,000 บาทเป็นอย่างน้อย
การที่ต้องบอกว่ามีเงินฝาก 2,000,000 บาทเป็นอย่างน้อยนั่นก็เพราะว่าไม่มีทางที่คุณจะได้รับดอกเบี้ยเต็ม 3% อย่างแน่นอน เพราะดอกเบี้ยที่ได้รับจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% นั่นหมายความว่าจากเงินที่จะได้รับ 60,000 ก็จะโดนหักไปอีก 15% เหลือเพียง 51,000 บาทเท่านั้น
สรุปว่าการลงทุนโดยการฝากเงินเพื่อกินดอกเบี้ยนั้น ถ้าค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนของคุณอยู่ที่ประมาณ 5,000 คุณต้องมีเงินฝากมากกว่า 2 ล้านบาทเลยทีเดียว ถือว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสียงน้อยหรือแทบไม่มี แต่ผลตอบแทนที่ได้รับก็จะน้อยตามไปด้วย และต้องใช้เงินลงทุนสูง
การซื้อกองทุนรวม
กองทุนรวมถือเป็นการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่งที่เหมาะกับคนวัยเกษียณ ความเสียงถือว่ามีน้อย และให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ปัจจุบันกองทุนรวมส่วนมากจะให้ผลตอบแทนอยู่ราว 2.5 – 4% ต่อปี อาจจะดูไม่แตกต่างจากดอกเบี้ยเงินฝาก แต่ความต่างเพียงแค่ 1% นั้น ถ้าเงินลงทุนก้อนใหญ่ก็ถือว่าให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากอยู่พอสมควรเลยทีเดียว
การลงทุนในหุ้น
ตลาดหุ้นถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คนหลังวัยเกษียณอายุสามารถลงทุนได้ แต่การลงทุนชนิดนี้มีความเสียงค่อนข้างสูง และมีหลักทรัพย์ให้เลือกหลากหลาย สามารถลงทุนได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งความแตกต่างจะมีดังนี้
ระยะสั้น
ให้ผลตอบแทนสูง มีความผันผวนในตลาดค่อนข้างเยอะ และสามารถทำกำไรได้สูงถึง 200% แต่ในทางกลับกัน คุณอาจจะขาดทุนแบบหมดตัวไปเลยก็ได้ ซึ่งความเสี่ยงแบบนี้ถือว่าสูงมากกับวัยเกษียณที่ไม่ได้อยู่ในวัยสร้างรายได้แล้ว
ระยะยาว
จะเน้นการลงทุนแบบซื้อขายระยะยาวมองหาบริษัทที่มีฐานและความมั่นคงในธุรกิจสูง แน่นอนว่าบางครั้งตลาดอาจจะผันผวนทำให้ราคาหุ้นเหล่านี้ตกลงไปบ้าง แต่การเติบโตของธุรกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะทำให้ราคากลับมายืน ณ จุดเดิมได้ ซึ่งการลงทุนแบบนี้จะต้องใช้เวลานานและเน้นการได้รับเงินปันผลมากกว่าการซื้อขายหุ้น
อย่างไรก็ดีการลงทุนในหุ้นหลังเกษียณอายุ สามารถทำได้ทั้ง 2 แบบพร้อมกัน อาจจะแบ่งเงินเป็น 2 ส่วน แล้วเลือกลงทุนทั้งสองแบบ แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่มีผลต่อการลงทุนในหุ้นก็คือ ข้อมูลและการวิเคราะห์ตลาด ซึ่งหลังเกษียณอายุ เชื่อว่าหลายคนมีเวลามากพอที่จะศึกษาข้อมูลและสามารถทำกำไรจากการเล่นหุ้นได้ทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว แต่ก็ต้องเตือนกันไว้ก่อนว่าการลงทุนในหุ้นนั้นมีความเสี่ยง ผลตอบแทนมากย่อมมาพร้อมความเสี่ยงสูงเสมอ
ทั้งหมดนั้นเป็นรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับวัยเกษียณ เนื่องจากเรี่ยวแรงถดถอย จะเริ่มลงทุนทำธุรกิจหรืองานที่ต้องใช้แรงงานคงไม่เหมาะ เหลือก็แต่การใช้สมองและความคิดเท่านั้นที่ยังดีอยู่ ซึ่งวิธีเหล่านี้ก็ถือว่าเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งส่วนจะเลือกวิธีไหนก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและเงินทุนที่มีอยู่นั่นเอง