ปัจจุบันนี้สังเกตได้เลยว่าบัตรเครดิตได้เข้ามามีบทบาทมากที่สุดเลยในการดำรงชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการจับจ่ายซื้อของ การใช้บริการต่างๆ เป็นต้น โดยเฉพาะวัยทำงานอย่างเราๆ แต่จะมีสักกี่คนที่ได้เข้าใจ หรือมีความรู้เรื่องการ ใช้บัตรเครดิต ได้อย่างถูกต้องและแท้จริง เพราะจากที่เห็นและจัดได้เลยว่าเป็นกันแทบทุกคนนั้นคือการรูดบัตรอย่างสนุกสนาน และรูดแบบขาดความยั้งคิด หรือจะเรียกเป็นภาษาชาวบ้านได้เลยว่ารูดกันสนุกมือเลยนั่นเอง จนกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่โตตามมา จนหลายๆคนเบื่อที่ตะต้องผ่อนชำระ ดังนั้นมุมมองบัตรเครดิตจึงไม่น่ามองเอาเสียเลย ทั้งนี้ไม่ใช่เป็นเพราะตัวบัตร หรือเป็นเพราะธนาคารหรอกนะคะ แต่มันอยู่ที่ตัวคุณเอง
แล้ววันนี้คุณทราบหรือไม่คะว่าการใช้บัตรเครดิตนั้น มีผลไม่น้อยเลยสำหรับผู้ทีกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่กำลังชักหน้าไม่ถึงหลัง หรือกำลังที่หมุนเงินไม่ทัน เงินขาดมือ แต่มีความจำเป็นทีจะต้องใช้จ่ายเงิน ซึ่งมีหลายคนไม่น้อยเลยที่ได้มีบัตรเครดิตเพื่อการรองรับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝันเหล่านั้น
แต่ก็มีจำนวนคนไม่น้อยเช่นกันที่เลือกที่จ่ายบัตรเครดิตเพื่อตอบสนองความต้องการ ความอยากมี อยากได้ที่ไม่รู้จักพอ และเป็นที่แน่นอนเลยทีเดียวที่จะมีปัญหาตามมาในภายหลัง ทั้งนี้จะโทษใครได้ล่ะคะ ก็คุณเล่นเอาใช้จ่ายอย่างไม่ลืมหู้ลืมตากันเลยทีเดียว จะมานั่งเศร้าตอนที่เห็นบิลในการชำระไม่ได้เลยนะคะ แต่สำหรับผู้ที่ใช้บัตรเครดิตอย่างเข้า และใช้ในทางที่ถูก มีการวางแผนในการอดกลั้นก็จัดได้เลยว่าเป็นสิ่งที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะตัวบัตรเองก็มีข้อดีไม่น้อยเช่นกัน ดังนั้นวันนี้เรามาทำความรู้จักเจ้าตัวเก่งตัวนี้ให้ดี และเรียนรู้การใช้บัตรอย่างถูกวิธีกันดีกว่านะคะ เชื่อได้เลยว่าหากคุณได้ทำตามการใช้บัตรอย่างที่เราบอกไปนั้น รับรองได้เลยว่าปัญหาจะไม่เกิดกับตัวคุณอย่างแน่นอนเลยทีเดียว เรายืนยันได้ค่ะ
อย่างที่ทราบดีอยู่แล้ว และเราได้กล่าวไปแล้วในข้างต้นที่ว่า ปัญหาทางการเงินยอดนิยมของมนุษย์เงินเดือนที่ได้เห็นกันอย่างแพร่หลายในทุกวันนี้ คือการเป็นหนี้เป็นสิอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งบัตรเครดิตที่เผลอแป๊บเดียวก็งอกเงยโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่แก้ไขยากเสียด้วยเพราะชีวิตของชนชั้นกลางก็ต้องดำเนินต่อไปท่ามกลางรายจ่ายต่าง ๆ ที่ถ้าคุมไม่ได้ก็มักเกินรายได้และหนี้ก็สะสมพอกพูนยากที่จะทำให้หมดสิ้นไป
ดังนั้นในการทีจะทำการใช้บัตรเครดิตแต่ละครั้ง จำเป็นอย่างมากเลยทีเดียวที่ผู้ที่ใช้บัตรเครดิตควรศึกษาการคิดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารในการใช้บัตรเครดิตให้เข้าใจเพื่อจะได้วางแผนการใช้เงินได้อย่างถูกต้อง และหากท่านใช้เต็มวงภายในเดือนแรกแล้วหยุดใช้บัตร และผ่อนจ่ายขั้นต่ำ 10% ท่านทราบหรือไม่ว่าต้องใช้เวลาถึง 43 เดือน ในการชำระหนี้จนหมด ในกรณีเดียวกัน แต่หากท่านชำระ 50% ของยอดใช้บัตรท่านจะใช้เวลา 10 เดือน ในการชำระหนี้จนหมด อีกทั้งเวลาที่คุณได้ทำการใช้จ่ายนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องถือเงินสดจำนวนมาก หรือให้ท่านถอนเงินสดมาใช้ยามจำเป็น
แต่มีคนจำนวนมากขาดวินัยและผิดวัตถุประสงค์บัตรเครดิตมีประโยชน์เนื่องจากใช้แทนเงินสดโดยที่ผู้บริโภคจะมีเวลาปลอดดอกเบี้ยประมาณ 45-50 วันแล้วแต่ธนาคารหรือบัตรเครดิตจะกำหนด นอกจากนั้นยังสามารถเก็บสะสมแต้ม ซึ่งสามารถนำไปแลกสิทธิประโยชน์หรือส่วนลดตามร้านค้าต่าง ๆ แต่ก็มีโทษหากผู้ใช้ไม่ระวังในการใช้จ่ายโดยผู้ใช้บัตรเครดิตจะต้องใช้บัตรเครดิตให้เป็น นั่นคือจ่ายให้ครบจำนวนที่ใช้ไปและตรงเวลา หากทำเช่นนี้ได้ท่านจะไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย ในทางตรงกันข้ามหากท่านให้ธนาคารออกเงินให้ก่อน 45-50 วันในการซื้อสินค้าและบริการ แน่นอนว่าท่านต้องจ่ายดอกเบี้ยนับตั้งแต่วันแรกที่ท่านใช้จ่าย เพราะเท่ากับว่าท่านกู้เงินจากธนาคาร ซึ่งธนาคารมีต้นทุนนับตั้งแต่วันแรกที่ออกเงินให้ท่าน
เรามีความเชื่อเป็นอย่างมาก เมื่อคุณได้อ่านบทความที่เราได้แนะนำไปนั้นจะเกิดความคิด หรือการฉุกคิดสักนิดในการทีจะทำการใช้บัตรอย่างที่บอกได้เลยว่า คุ้มค่าแก่ตัวคุณที่สุดเลยนั่นเอง แต่ทั้งนี้ต้องขอแนะนำผู้บริโภคว่าอย่าใช้จ่ายบัตรเครดิตที่ฟุ่มเฟือยและไม่จำเป็นหากท่านทราบว่าไม่สามารถจ่ายได้เต็มจำนวน เพราะจะทำให้หนี้สินพอกพูน อีกทางเลือกหนึ่งของบัตรพลาสติกคือการใช้บัตรเดบิต ซึ่งกรณีนี้ลูกค้าจะไม่ได้รับประโยชน์จากเวลาปลอดดอกเบี้ย เพราะตัดบัญชีเงินสดของผู้ใช้บัตรทันทีที่มีการใช้จ่าย
หากมองย้อนกลับไปที่ตัวคุณ วันนี้คุณได้ทำการ ใช้บัตรเครดิต ได้ดี หรือใช้อย่างถูกวิธีมากน้อยเพียงไหน และเมื่อทราบเช่นนี้แล้ว อีกนานเพียงไหนที่คุณจะปรับการใช้บัตรเครดิตให้เป็นไปในทางที่ถูกต้องกันเสียที วันนี้อย่ารีรอ หรือทำการละเฉยในการรับรู้การใช้บัตรกันอีกต่อไป เมื่อรู้เช่นนี้แล้วทำการปรับเปลี่ยน และแก้ไขแนวทางในการใช้บัตรเครดิตอย่างเร่งด่วนเลยนะคะ