เงินทองเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน ถ้าคุณอยากใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างคุ้มค่า ไม่ให้เงินรั่วไหลไปตามความอยากภายในใจ ก็ควรบ่มเพาะ นิสัยความประหยัด ไว้ เพราะเมื่อเราทำอยู่เป็นประจำ ประโยชน์ที่ได้รับจากความประหยัดจึงมีมากมหาศาลโดยเฉพาะเรื่องการเงิน จะทำให้การเงินหมุนเวียนคล่อง ไม่ต้องกังวลใจ ส่วน นิสัยความประหยัด จะมีอะไรบ้างมาติดตามกันค่ะ
1. มองหาความประหยัด
การที่คุณจะมีนิสัยของการประหยัดได้นั้น จะต้องมองหาความประหยัดในทุกสรรพสิ่งที่เป็นเงินให้ได้ก่อน โดยเริ่มสำรวจสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ภายในบ้าน สิ่งที่ตัวเองต้องเกี่ยวข้องและมีเรื่องของการใช้เงินทุกรายการ เมื่อเรามองเห็นแล้วว่ามีสิ่งที่สามารถประหยัดลงได้อีกมาก เราก็จะต้องเริ่มทำการประหยัดในแต่ละรายการ
2. มองหาการลดรายจ่าย
รายจ่ายประจำวันมีด้วยกันหลายเรื่อง หากคุณมองหาการลดรายจ่ายก็จะเจอได้ไม่ยากและสามารถช่วยลดรายจ่ายได้จริงๆ แต่ถ้าหากคุณไม่ได้ให้ความสำคัญ รายจ่ายก็อาจจะขยายโดยไม่รู้ตัว เช่น รายจ่ายค่าน้ำค่าไฟ หากคุณมองว่ามันสามารถลดลงได้อีกและหาวิธีว่าจะทำอย่างไร ก็จะช่วยเซฟเรื่องค่าน้ำค่าไฟไปได้มาก ซึ่งรายจ่ายอื่นๆ ก็เช่นกัน
3. มองหาสิ่งที่ทดแทนกันได้ในราคาถูกกว่า
สิ่งของในท้องตลาดมักมีหลายราคา หลายขนาด ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของผู้ใช้งาน คุณควรฉลาดในการเลือกโดยคำนึงถึงความคุ้มค่า จำนวนครั้งของการใช้งาน จะทำให้ได้ของที่เหมาะสมในราคาที่ถูกกว่า และถ้าทำเช่นนี้กับทุกสิ่งของก็จะช่วยให้จำนวนเงินในกระเป๋ายังคงอยู่ไม่ต้องจ่ายแพงกว่า แต่ประโยชน์สามารถใช้แทนกันได้เหมือนกัน
4. ไม่ไปในสถานที่มีสิ่งที่ยั่วยวนอยากได้
บางสถานที่ได้มีการจัดแสดงสินค้าสวยงามเอาไว้เพื่อจูงใจให้นักช้อปได้ซื้ออย่างง่ายดาย เช่น ตามห้างสรรพสินค้า งานแสดงโชว์สินค้า เพราะบางครั้งคุณอาจจะไม่ได้ตั้งใจซื้อของ แต่เห็นของที่วางโชว์อยู่และมีการกระตุ้นการขาย จึงทำให้อยากได้และเผลอไปจับจ่ายข้าวของที่ไม่ได้ตั้งใจหรือไม่จำเป็นมา การที่นานๆจะไปห้างหรืองานแสดงสักครั้งจึงช่วยป้องกันการซื้อของส่วนเกินไปได้มากทีเดียว
5. ทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้อยู่เป็นประจำ
การทิ้งถ้วยชามไว้ไม่ล้างทันทีจะทำให้เกิดการจับตัวของเชื้อโรคพาลให้ทิ้งถ้วยชามนั้นไปเลย ซึ่งเป็นการไม่ประหยัดเพราะต้องซื้อของมาทดแทน การทำความสะอาดข้าวของเสมอ เป็นการช่วยอายุการใช้งานและยังหยิบจับได้ง่ายเวลาที่ต้องการใช้ บางครั้งหากคุณไม่ยอมทำความสะอาดเป็นประจำหมักหมมเอาไว้ ปล่อยให้ตู้เย็นสกปรก ข้าวของเครื่องใช้อาจจะขึ้นราและไม่สามารถใช้งานได้อีก ก็เหมือนโยนเงินทิ้งไป ดังนั้นจึงควรทำความสะอาดข้าวของทุกครั้งหลังใช้งานเสร็จแล้ว
6. เก็บบ้านให้เรียบร้อย
บ้านที่ไม่เป็นระเบียบจะทำให้หาของไม่เจอ เมื่อหาไม่เจอก็มักจะหาทางออกง่ายๆ คือ ซื้อใหม่ หากคุณจัดบ้านเป็นระเบียบเสมอและวางของเป็นที่เป็นทาง เมื่อจำเป็นต้องใช้สิ่งของก็จะหาง่ายนับว่าเป็นความประหยัดที่สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแต่ฝึกให้เป็นนิสัยบ้านก็จะเป็นระเบียบเสมอ
7. ทำอาหารกินเอง
ค่าอาหารเป็นอีกหนึ่งรายจ่ายที่ทุกคนต้องมี ต่างกันตรงที่ว่าใครจะสามารถประหยัดรายจ่ายส่วนนี้ได้มากกว่าการ หากเปรียบเทียบการทำอาหารกินเองกับการซื้ออาหารปรุงสำเร็จ แน่นอนว่าถ้าเรื่องความสะอาดต้องยกให้การทำอาหารกินเองมากกว่า อีกทั้งคุณค่าทางโภชนาการยังดีกว่าและสามารถเลือกวัตถุดิบ เช่น ผัก เนื้อหมู คุณภาพดีให้ตัวเอง เป็นการส่งเสริมสุขภาพไม่ให้เจ็บป่วย สำหรับงบประมาณในการทำอาหารกินเองทุกวันย่อมถูกกว่าซื้อเขากิน
8. กินอาหารที่มีประโยชน์
การกินอาหารที่มีประโยชน์ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ต้องเสียค่าเดินทาง ค่ายา ให้ทางโรงพยาบาล อีกหนึ่งความประหยัดคือการดูแลตนเองด้วยการกินอาหารดีๆ มีประโยชน์ มากคุณค่า มีสารอาหารครบถ้วน หากเราใส่ใจดูแลร่างกายเป็นประจำย่อมห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ ไม่ต้องเสียเงินค่ารักษาพยาบาล
9. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
รัฐบาลได้รณรงค์ให้ประชาชนรักการออกกำลังกาย เป็นที่ยอมรับว่าการออกกำลังกายเป็นประจำช่วยให้ร่างกายแข็งแรง คนที่ไม่ชอบออกกำลังกายมีโอกาสเจ็บไข้ได้ป่วยมากกว่า ซึ่งนำไปสู่การเสียเงินค่าหยูกยา ซึ่งรัฐต้องจ่ายเป็นเงินจำนวนมากสำหรับข้าราชการที่เบิกได้ ดังนั้นการออกกำลังกายสม่ำเสมอก็เป็นการช่วยตัวเองประหยัดและช่วยชาติประหยัดงบประมาณด้วย
10. พักผ่อนให้เพียงพอ
มีการแนะนำจากแพทย์ให้คนเรานอนพักผ่อนอย่างเพียงพอในแต่ละวัน เพราะเป็นการฟื้นฟูและซ่อมแซมสิ่งที่สึกหรอ คนที่นอนดึกหรือนอนน้อย อาการทางกายที่ปรากฏเห็นเด่นชัด นั่นก็คือ มีขอบตาคล้ำ หน้าตาไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส เพื่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีของคนในชาติ คุณต้องเริ่มจากตัวเองก่อนโดยการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อถึงเวลานอนควรปล่อยวางการงานและเรื่องสรรพสิ่งไว้ก่อน พอเช้าแล้วค่อยว่ากันใหม่
ในชีวิตของคนเราต้องเกี่ยวข้องกับความประหยัดหลายด้าน หากเรามีนโยบายประหยัดเช่นเดียวกับรัฐบาลที่รณรงค์ให้ทุกคนใช้สอยอย่างประหยัด เพื่อไม่ให้ประชาชนเป็นหนี้สินล้นตัว การประหยัดจึงควรเริ่มที่ตัวเองก่อนเป็นลำดับแรก