คุณได้เก็บเงินออมไว้บ้างรึยัง? เชื่อว่าคำถามนี้ คงไม่มีใครถามเป็นคำถามแรกเมื่อเจอหน้าคุณแน่ เพราะฉะนั้น วันนี้จึงลองถามคุณเป็นคนแรก เพื่อเปิดประเด็นก่อนเลยว่า คุณมีเงินออมเก็บไว้บ้างรึยัง ถ้าคำตอบกลับกลายเป็นว่ายัง! และไม่เคยเก็บสักบาท
เราขอแนะนำขั้นต้นกับคุณเลยว่า ให้เริ่มเก็บออมได้เลย อย่างน้อยๆเมื่อยามลำบาก หรือ มีเหตุการณ์ที่ต้องใช้เงินจริงๆแล้ว จะได้มีเงินก้อนนี้ ช่วยเหลือตนเองได้ยามลำบาก และไม่ต้องไปยืมใครให้ลำบากใจต่อกันอีก แต่ถ้าคุณตอบคำถามว่า มีเงินเก็บอยู่แล้ว เราขอแนะนำว่า น่าจะเอามาทำให้มันเพิ่มพูนเงินตรากันดีกว่า จะเพิ่มพูนด้วยวิธีใดนั้น เราขอแนะนำ การใช้เงินให้ทำงาน ว่าหมายถึงอะไร ในขั้นแรก
เงินทำงาน เงินเป็นทาสเรา มา เปลี่ยนตัวเอง กันเถอะ!
แน่นอนว่าทุกวันนี้ ที่คุณยอมทุ่มเทใจแทบขาดในสายงานของคูณนั้น เพื่อเหตุผลใหญ่ๆและเป็นประเด็นสำคัญของการทำงานก็คือ เงิน ผู้เป็นเจ้านายที่แท้จริงของเรา เพราะบางทีแม้เราจะมีอาการเบื่องานที่ทำแค่ไหน แต่ก็ยังท่องเอาไว้ว่าเพื่อเงิน
จากที่เรารู้ๆกันอยู่ว่า เงิน เป็นตัวชี้วัดถึงความสุขสบายในชีวิตของเรา แต่ ทำไมเราไม่คิดจะเป็นเจ้านายมัน แล้วใช้งานมันเหมือนที่มันทำละ! เพราะฉะนั้นเรามี วิธีใช้งานมัน(ได้เวลาเอาคืน)ให้มันทำงานแทนเราได้อย่างสาสมแล้วล่ะ
1. หัดคิดก่อนจ่าย!อย่างฟุ่มเฟือยเกินกำลังสิ!
อยากให้คุณนึกภาพถึงถังน้ำขนาดใหญ่ถังหนึ่ง แล้วจู่ๆถังปริแตกเป็นรอยรั่วออกมาในจุดเล็กๆ คุณอาจจะมองว่ามันไม่สำคัญที่จะปิด ก็เลยปล่อยมันเลยตามเลยไปซะ หลังจากนั้นเจ้ารูนั้น ก็ถูกแรงดันน้ำดันออกมา จนรูขยายใหญ่ไปเรื่อยๆโดยไม่หยุด หรือว่าถึงแม้คุณพยายามจะอุด แต่รูก็ใหญ่มากขึ้น กว่าคุณจะปิดได้ น้ำในถังแทบจะแห้ง ไปจนหมด ตอนนั้นละคุณถึงจะพยายามควบคุมดูแลเจ้าถังน้ำที่มีรูแตกร้าว และต้องทนกินน้ำทีละนิดที่เหลืออยู่ไปอย่างได้กินบ้าง ไม่ได้กินบ้าง
ถ้าคุณอ่านจนจบแล้วแล้ว ลองเปรียบน้ำคือเงินที่คุณมี รูรั่ว คือการใช้จ่ายเกินพอดีของคุณ และ สุดท้าย การที่ต้องทนกินน้ำน้อยๆนั้น ก็หมายถึงคุณต้องทนอยู่กับชีวิตที่ไม่มีเงินเหลือเลย หรือ เหลือน้อยมากๆ ไม่ว่ารอยรั่วนั้นจะเกิดจากการซื้อของอะไรก็ตาม ที่เกินตัวเอง เกินตนจนไม่เหลือเงินเก็บ
เพราะฉะนั้นอย่าลืมคิดก่อนจ่ายว่าตนควรจะทำอย่างไรต่อไป ควรจะอุดรอยรั่วหลังมันรั่วดี หรือควรจะป้องกันไม่ให้มันเกิดรอยรั่ว จนน้ำเหลือกินพอใช้ แถม เก็บไว้ได้กินอีกนาน
2. หัดเรียนรู้การจัดสรรเงิน แม้จะเป็นเงินก้อนเล็กๆก็ตามที
แนวคิดนี้เอาไปสอนเด็กน้อยๆได้เลยนะคะ อย่างเช่น การสอนให้เขาออมเงินที่เขาได้ไป โรงเรียน ตัวอย่าง ลูกได้เงินไปในจำนวน 20 บาท ข้าวกลางวันฟรี ค่ารถมีรถรับส่ง ให้กินขนมสัก 15 บาท และเหลือเงิน อีก 5 บาทมาหยอดกระปุกทุกวัน เป็นต้น และให้เขาได้รู้จัก บริหารจัดการเงินด้วยตนเอง ซึ่งการฝึกตั้งแต่เยาว์วัยนั้น จะก่อเกิดผลที่เติบโตออกมารู้จักการบริหารเงินและ วางแผนการเงินได้อย่างเป็นนิสัย ตัวเราเองก็เช่นกัน
หากเรามีรายได้น้อย ก็เก็บออมน้อยไปตามวิถีกำลังเงินที่เราเก็บได้ อย่าใช้คำว่า เงินเดือนน้อยอยู่ถ้าเก็บก็คงเก็บเงินได้น้อย ให้ได้เงินเยอะก่อน แล้วค่อยเก็บเงิน ซึ่ง เป็นการคิดที่ไม่ควรอย่างมาก
นอกจากนี้การสร้างนิสัยการเก็บออมเงินตั้งแต่วันนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้มของความร่ำรวยในวันหน้าได้อีกด้วยนะ ดังนั้น อย่าละเลยการเก็บออมเงินและบริหารเงินให้ดีด้วยล่ะ
3. ยิ่งเรารู้วิธีการลงทุนอย่างถูกวิธี เงินก็ยิ่งงอกเงยงดงามเชียวละ!
เชื่อว่าคุณต้องมีความรู้สึกที่ว่า อยากเปิดบัญชีมา แล้วเจอเงินงอกงามแบบเป็นจำนวนมากๆ แน่นอน เราจึงขอแนะนำวิธีการแบ่งเงินบางส่วน หลังจากหักค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึง เงินที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน
ขอแนะนำว่าถ้าอยากสบายๆ อย่าพยายามไปกู้เงินมาเพื่อลงทุนเด็ดขาด เพราะอนาคตนั้น เราอาจจะลำบากย่ำแย่ได้ ถ้าลงทุนด้วยเงินที่แบ่งออกมานั้น จะเป็นการลงทุนด้วยเม็ดเงินของตัวเอง ที่หามาได้หายไม่ว่าจะเกิดปัญหา ทำให้เงินลงทุนฝืดเคือง คุณแค่เสียใจ เวลาเสีย
แต่ ถ้าหากคุณไปกู้เงินเพื่อลงทุนขึ้นมา แล้ว สิ่งที่ลงทุนกลับแสดงผลออกมาในทางเลวร้าย นอกจากเงินทุนจะต้องเสียไปแล้ว จะต้องมาเครียด เรื่องหนี้สินตามมาอีกด้วยนะ!
อย่าปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นทาสของเงินเสมอไป เราควรที่จะเปลี่ยนให้เงินกลายเป็นทาสเราให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการใช้จ่ายเงินที่ต้องพยายามควบคุมตัวเองให้ใช้จ่ายอย่างประหยัดและรู้จักเก็บออม รวมถึงการรู้จักนำเงินมาลงทุนเพื่อให้รายได้พอกพูนขึ้นมา
แค่นี้ก็จะทำให้เงินกลายเป็นทาสของเราได้ไม่ยากแล้วล่ะ แถมยังทำให้เรามีเงินเก็บออมมากขึ้นจนอาจจะร่ำรวยในวันข้างหน้าได้อีกด้วยนะ