มีบริษัทต่างๆหรือมีองค์กรต่างๆจำนวนไม่น้อย ที่พนักงานของตัวเองนั้นไม่มีความสุขกับการทำงาน มีพนักงานที่ทำงานเพื่อเพราะต้องการเงินเดือนในแต่ละเดือน เพื่อที่จะพยายามมีชีวิตอยู่อย่างไร้จุดหมาย หรืออาจะมีเหล่าพนักงานจำนวนไม่น้อยที่พร้อมที่จะหางานใหม่ที่ดีกว่าที่กำลังทำอยู่ด้วยเหตุผลส่วนตัวหลายๆอย่าง ซึ่งอย่างไรก็ตามเมื่อเกิดความรู้สึกต่างๆเหล่านี้กับพนักงานของเราแล้วนั้น เราจึงควรที่จะรีบแก้ไขให้เร็วที่สุดเพื่อความสุขของพนักงาน
ทุกคนต่างก็รู้ว่างานที่มาจากความสุขนั้น มักเป็นงานที่ควรค่าแก่การใช้งาน เป็นงานที่ควรค่าแก่การเก็บสะสม จะเป็นงานที่มาจากความละเอียดอ่อนของผู้ทำ และงานที่มาจากความสุขนั้นมักทำให้ผู้ใช้บริการมีความสุขด้วย เราสามารถสังเกตได้จากพนักงานจากร้านกาแฟสตาร์บัค น้อยสาขานักที่พนักงานเหล่านั้นจะทำหน้าบูดใส่เรา ซึ่งนโยบายหลักของสตาร์บัคนั้นก็คือให้พนักงานของตัวเองนั้นทำงานอย่างมีความสุขก่อน เมื่อใดที่ตัวเขาเองนั้นมีความสุข เขาก็พร้อมที่จะทำให้คนอื่นมีความสุขเช่นกัน ดังนั้นเราจึงควรที่จะ ดูแลพนักงาน ของเราให้พนักงานของเรานั้นทำงานอย่างมีความสุขอยู่เสมอนั้นคือ
-
ไม่ประเมินความสามารถของพนักงานสูงเกินไป
ในหลายๆครั้งที่หัวหน้าของเราหรือหัวหน้าของใครหลายๆคนก็มักอยากได้งานต่างที่ออกมาจากพนักงาน โดยที่งานเหล่านั้นอาจจะต้องเป็นงานที่ลูกน้องทำสุดฝีมือและให้ความละเอียดอ่อนในการทำงานมากถึงมากที่สุด ทำให้เรานั้นรู้สึกเหนื่อยล้าต่างๆ ซึ่งงานที่ต้องใช้ความละเอียดและใช้ความสามารถของเรานั้น มีคนจำนวนไม่น้อยที่ทำสิ่งต่างๆแบบนั้นได้ไม่บ่อยหรืออาจจะต้องมีเว้นช่วงเวลา แต่เหมือนหัวหน้าของใครหลายๆคนจะไม่เข้าใจและต้องการงานที่ต้องใช้ความละเอียดและฝีมือที่สูงอยู่บ่อยครั้ง และที่สำคัญในหลายๆครั้งที่หัวหน้านั้นมักมอบงานที่เกินฝีมือของพนักงานของตัวเอง โดยที่หวังว่าพนักงานเหล่านั้นจะพยายามหาวิธีต่างๆเพื่อทำงานนั้นให้สำเร็จ แต่ถึงอย่างไรก็ตามพนักงานเหล่านั้นจะไม่รู้สึกมีความสุขอย่างมาก ทางที่ดีควรมอบงานที่เขาถนัดให้เขาทำเสียดีกว่ารับรองว่างานนั้นจะออกมาได้ดีมากเลยทีเดียว
-
พนักงานหลายคนต้องดูแลแตกต่างกันไป
ในหลายๆบริษัทหรือในหลายๆองค์กรนั้นมักมีการ ดูแลพนักงาน ของตัวเองที่เหมือนๆกันในแต่ละองค์กรหรือในแต่ละบริษัท ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่ยากและท้าทายในการดูแลทีละคน เลยตัดปัญหาเหล่านั้นโดยการดูแลให้เหมือนกันให้หมดตั้งแต่แรก มีสิ่งหนึ่งที่เรารู้ดีนั่นก็คือ คนทุกคนที่ทำงานอยู่ที่เดียวกัน ทำงานอยู่บริษัทเดียวกันหรือทำงานอยู่ที่องค์กรเดียวกันนั้น ล้วนมาจากครอบครัวต่างๆที่แตกต่างกันไป และครอบครัวที่แตกต่างกันเหล่านั้นก็มักมีการสอนและเลี้ยงดูที่แตกต่างกันไปเช่นกัน ดังนั้นเราจึงไม่สามารถที่ใช้การดูแลแบบเดียวกันนั้นมา ดูแลพนักงาน ในบริษัทของเราหรือมาดูแลพนักงานในองค์กรของเราได้ทั้งหมด ทางที่ดีนั้นเราควรที่จะดูแลด้วยวิธีที่แตกต่างกันไป ไม่ให้ซ้ำกันโดยการจัดหมวดหมู่ให้ง่ายต่อการดูแล
-
ให้อำนาจกับพนักงานในการคิด ตัดสินใจ และออกความคิดเห็นต่างๆ
ในหลายต่อหลายครั้งที่พนักงานของบริษัทต่างๆหรือพนักงานขององค์กรที่ตัวเองทำงานอยู่ มักมีความคิดและไอเดียที่ล้ำลึกและเป็นความคิดที่เฉียบแหลมกว่าหัวหน้าของตัวเอง แต่ความคิดเหล่านั้นไม่ได้ถูกนำมาต่อยอดหรือได้รับการสนับสนุน ทำให้ความคิดและไอเดียที่เฉียบแหลมเหล่านั้นก็ถูกปล่อยทิ้งไป โดยเหลือเพียงความคิดจากหัวหน้าที่ตัวเองทำงานให้อยู่และทำงานที่หัวหน้าของตัวเองสั่ง มีบริษัทต่างๆจำนวนไม่น้อยที่ให้อำนาจกับพนักงานของตัวเองในการแสดงความคิดเห็นต่างๆและนำความคิดเห็นเหล่านั้นมาพิจารณาเพื่อปรับปรุงบริษัทของตัวเองได้ เพราะความคิดต่างๆของพนักงานนั้นล้วนมาจากสิ่งที่ตัวเองทำอยู่และเกิดความคิดจากสิ่งที่ทำอยู่ อาจเป็นความคิดที่สร้างความสะดวกสบายในการทำงานแต่ยังได้ปริมาณงานเท่าเดิม หรืออาจเป็นความคิดที่ตัวเองรู้สึกเครียดอยากทำงานอย่างมีความสุข เมื่อใดก็ตามที่ได้บอกให้หัวหน้าของตัวเองรับรู้ถึงความคิดเห็นต่างๆของเราแล้วนั้น หัวหน้าอาจจะนำความคิดเห็นเหล่านั้นไปปรับใช้ให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุขยิ่งขึ้นไปอีกได้
-
สร้างแรงจูงใจเป็นสิ่งผลักดัน
วิธีสร้างแรงจูงใจ เป็นวิธีที่ใช้ได้กับทุกสิ่งทุกอย่างเลยก็ว่าได้ สร้างแรกจูงใจเป็นของเล่นชิ้นโตเพื่อให้ลูกๆหลานๆพยายามเก็บเงินหรือทำความดีต่างๆเพื่อของเล่นชิ้นนั้น เหล่าธนาคารต่างๆได้กำหนดดอกเบี้ยที่สูงเพื่อเป็นแรงจูงใจในหารฝากเงินแต่สำหรับบริษัทหรือองค์กรต่างๆนั้น อาจจะสร้างแรกจูงใจโดยการเพิ่มเงินเดือนหรือสร้างความก้าวหน้าในชีวิตที่มากขึ้น วิธีการสร้างแรงจูงใจนั้น ทำให้ใครหลายต่อหลายคนรู้สึกอยากทำเพื่อให้ได้ตามสิ่งที่ตัวเองนั้นต้องการ และที่สำคัญนั้นถ้าบริษัทนั้นหรือองค์กรนั้นสร้างแรงจูงใจเป็นสิ่งที่ทำให้พนักงานของตัวเองนั้นมีความต้องการมากพอ เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของบริษัทนั้นอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตามนั้นแรงจูงใจต่างๆที่สร้างขึ้นนั้น ต้องทำให้เหล่าพนักงานรู้สึกถึงความเสมอภาคและต้องมีแรงจูงใจต่างๆที่มากพอสำหรับพนักงานของตัวเองเพื่อให้พนักงานทุกคนนั้นคิดว่าตัวเองนั้นก็มีโอกาสทำได้ ถ้าบริษัทของเรานั้นมีพนักงานอยู่ทั้งหมดหนึ่งพันคน แต่เราสร้างแรงจูงใจสำหรับพนักงานดีเด่นเพียงคนเดียวแล้วนั้น พนักงานหนึ่งพันคนของเราอาจจะรู้สึกท้อแท้และไม่อยากทำตัวเองเป็นพนักงานดีเด่นอย่างแน่นอน