เรามักจะมีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง หรือคลาดเคลื่อนไปจากสิ่งต่างๆรอบตัว อาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่มีความรู้ความเข้าใจที่แท้จริง หรือไม่มีประสบการณ์ตรงจากสิ่งเหล่านั้น การรับรู้เรื่องราวมาจากการบอกเล่าจากบุคคลอื่นอีกที ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ เจ้าของกิจการ หรือบุคคลต่างๆที่ประสบความสำเร็จ มาบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองให้แก่บุคคลอื่นได้ฟังในภายหลัง
ด้วยการที่สื่อต่างๆ เลือกที่จะทำข่าวของบุคคลที่ประสบความสำเร็จ น้อยสื่อนักที่จะทำข่าวบอกเล่าเรื่องราวของบุคคลที่ล้มเหลวให้เราได้รับรู้ การเสนอข่าวบุคคลที่ประสบความสำเร็จนั้นก็เพื่อที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้เราเอาเป็นแบบอย่าง โดยด้านที่สื่อนำเสนอนั้นมักเป็นด้านที่แสดงถึงความสำเร็จหรือความสุขทีไ่ด้รับหลังจากประสบความสำเร็จแล้ว
และที่สำคัญน้อย อย่างน้อยคนนักที่จะเล่าถึงสิ่งต่างๆที่เป็นเบื้องหลังความสำเร็จหรือเล่าสิ่งต่างๆที่ไม่อยากให้เราได้รับรู้ถึงความสำเร็จเหล่านั้น และที่สำคัญมีจำนวนไม่น้อยเลยแหละที่ไม่ได้บอก ทำให้เรามักเข้าใจว่า ความขยัน อดทน ซื้อสัตย์ในงานที่ทำ จะนำพาไปสู่ความสำเร็จ ความสำเร็จที่ว่านั้น อาจจะเป็นความสำเร็จในฐานะลูกจ้าง ไม่ใช่ในฐานะผู้บริหาร
ซึ่งการทำ ธุรกิจ หรือการทำกิจการอะไรสักอย่างนั้น ย่อมมีมุมที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ หรือแม้จะบอกกล่าวให้คนอื่นได้รับรู้ ก็อาจไม่มีใครเข้าใจทั้งหมด หนังสือต่างๆที่บอกเล่าเรื่องราวส่วนตัว และความเป็นมาของ ธุรกิจ อย่างเจาะลึก อาจทำให้เรามีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนไปจากสิ่งต่างๆ เหตุเพราะไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด การที่เรานำเอาความรู้ที่ได้รับมาไปสร้างธุรกิจ จึงทำให้เรามีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จน้อยลงตามไปด้วย
ประการแรก
เรามักเข้าใจผิดว่าการเป็นเจ้าของธุรกิจนั้นสบาย มีหน้าที่เพียงเซ็นชื่อบนเอกสารต่างๆ โดยที่ไม่ต้องอ่าน แล้วปล่อยให้ผู้บริหารจัดการแทน นี่เป็นสิ่งที่หลายคนอาจเข้าใจผิด เพราะทุกครั้งที่เราเซ็นชื่อนั้นคือการที่เราได้อนุมัติสิ่งต่างๆ การที่เราไม่อ่านก่อนเซ็นนั้น อาจทำให้เราพลาดใจความสำคัญในเอกสารนั้นๆได้
ประการที่สอง
เป็นนักธุรกิจหรือเป็นเจ้าของกิจการนั้นง่าย เพียงแค่อาศัยโชคช่วย หรือพยายามมองหาโอกาสรอบตัวก็สร้างธุรกิจได้ ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ถ้าทุกอย่างง่ายอย่างที่ว่า เราคงจะได้เห็นนักธุรกิจ หรือเจ้าของกิจการเกลื่อนเมือง แต่ในความเป็นจริงแล้วโอกาสนั้นหายาก และสื่อต่างๆมักไม่ค่อยนำเสนอในเรื่องของโอกาสเท่าใดนัก
ประการที่สาม
เส้นทางสู่ความสำเร็จนั้นไม่ได้สวยงามหรือราบรื่นตลอด บ่อยครั้งที่เราได้ยินเรื่องราวของความสำเร็จ ที่มักบอกเล่าถึงความทุกข์ หรืออุปสรรคที่แลดูน้อยนิด เพราะคนเราส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จนั้น มักให้น้ำหนักไปที่ความสำเร็จที่ตัวเองได้รับ จนเบียดบังด้านที่แสดงถึงความล้มเหลวไป ถึงแม้จะมีโอกาสหยิบยกเรื่องราวเหล่านั้นมาบอกเล่า ก็ไม่อยากเล่าให้ดูหนักหนาสาหัส แต่ทว่ากว่าจะไปถึงความสำเร็จนั้น ทุกอย่างไม่ได้ราบรื่นดังเรื่องราวที่บอกเล่าแน่นอน
ประการที่สี่
เรามักเข้าใจว่า วันใดที่ ธุรกิจ หรือกิจการที่เราเป็นเจ้าของอยู่นั้นประสบความสำเร็จ เราก็สามารถใช้เวลาท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจ และปล่อยให้งานดำเนินไปด้วยตัวมันเองได้ ความคิดนี้แม้จะถูกต้องแต่ก็ไม่ทั้งหมด น้อยครั้งที่ธุรกิจจะมั่นคงพอที่จะสามารถดำเนินไปได้ด้วยตัวของมันเอง แม้จะเป็นดังนั้น แต่ก็มีปัญหาและอุปสรรคให้ต้องแก้ไขอยู่เสมอ ฉะนั้นเจ้าของกิจการจึงไม่สามารถที่จะละทิ้งไปได้
ถ้าเราแอบได้ยินใครสักคนพูดว่า จะทำ ธุรกิจ เกี่ยวกับชานมไข่มุก เราอาจจะคิดถึงคำว่าไม่ประสบความสำเร็จ เพราะชานมไข่มุกในบ้านเรานั้น มีทุกๆสิบก้าวเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าเราได้ศึกษาเกี่ยวกับชานมไข่มุกอย่างลึกซึ้ง และมีความคิดต่อยอด ความสำเร็จที่ได้รับจากการเป็นเจ้าของกิจการชานมไข่มุกนั้นก็ถือว่าไม่ยากเช่นกัน สื่อสมัยนี้มักนำเสนอออกมาในรูปแบบที่สั้นกระชับ เราจึงได้รับรู้สิ่งต่างๆในแบบย่อๆ โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการนำเสนอ ผู้ที่สนใจจริงๆเท่านั้นจึงจะศึกษาหาข้อมูลให้ลึกลงไป
ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เราเข้าใจผิดหรือมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนไป เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของกิจการ หรือการทำธุรกิจต่างๆ และเรามักจะคิดและจินตนาการเองเสมอ อาจเป็นเพราะเราไม่มีความรู้เกี่ยวกับสิ่งนั้นอย่างลึกซึ้งมากพอ การที่เราค้นคว้า ศึกษาให้รู้อย่างถ่องแท้ และคิดต่อยอด จะนำมาซึ่งโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในแบบของเราเองอย่าแน่นอน