เชื่อว่ามีหลายคนที่อยากพาตัวเองก้าวไปสู่ความมั่งคั่งและมั่นคงทางด้านการเงิน แต่ยังไม่ทราบแนวทางและวิธีการที่จะก้าวไปสู่จุดมุ่งหมายเหล่านั้น ซึ่งจริงๆแล้ว ล้วนแล้วแต่เป็นวิธีง่ายๆและใกล้ตัวที่คุณอาจคาดไม่ถึงมาก่อน ตามที่เราได้ยกมาแนะนำไว้ในหัวข้อเหล่านี้
1. ใช้บัตรเครดิตอย่างไรให้รวย
มีหลายวิธีที่จะควบคุมการใช้บัตรเครดิตให้รวย โดยการศึกษารายละเอียดของบัตรเครดิตแต่ละบริษัท ว่ามีอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขต่างๆอย่างไร
เคล็ดลับ ง่ายๆบางเรื่องที่พอจะแนะนำได้มีดังนี้
- การใช้บัตรเครดิตรูดซื้อสินค้า มักจะเสียค่าธรรมเนียมและอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าการกดเงินสดจากบัตรเครดิต ตามตู้เอทีเอ็มต่างๆ ที่เสียค่าธรรมเนียมหลายต่อ
- การชำระเงินขั้นตำ่รายเดือน มักจะเสียค่าใช้จ่ายต่างๆและดอกเบี้ยสูงถึง 20% ของอัตราปกติ เมื่อเทียบกับการชำระปิดเป็นยอดเดียวไปเลย
- ทุกครั้งที่รูดซื้อสินค้า ให้เก็บเงินสดไว้ตามจำนวนนั้นๆรวมดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม เพื่อที่คุณจะได้มีเงินชำระยอดหนี้ในปลายเดือนได้โดยไม่ขัดสน หรืออีกนัยหนึ่งคือ คุณจะได้ทราบว่าเดือนๆหนึ่งคุณต้องเสียเงินมากมายเท่าไหร่กับหนี้สินเหล่านั้น
อ่านเพิ่มเติม >> กฏ 6 ข้อ ถ้าอยาก ใช้บัตรเครดิต ให้เป็น ! <<
2. หาวิธีลงทุนโดยไม่ต้องใช้เงิน
มีหลากหลายวิธีที่คุณสามารถลงทุนได้โดยไม่ต้องใช้เงิน หรือใช้เงินให้น้อยที่สุด เช่น การรับเงินมัดจำล่วงหน้าจากลูกค้ามาลงทุนก่อน แล้วหากำไรจากเงินเหล่านั้นให้เพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เช่นขายหุ้นร่วมทุนกิจการกับผู้อื่นเพื่อที่คุณจะได้ลงทุนด้วยจำนวนเงินที่ไม่มากนัก
หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือ การลงทุนโดยไม่ต้องใช้เงินจำนวนมากในช่วงเริ่มแรก เช่น คุณต้องการเปิดกิจการรับปักหมวกด้วยจักรคอมพิวเตอร์ คุณก็เลือกที่จะเปิดร้านตามช่องทางโซเชียลต่างๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่าที่ แล้วหาแหล่งวัตถุดิบซึ่งเป็นหมวกเปล่าใบละไม่กี่บาท ออกแบบลายแล้วนำไปจ้างร้านที่รับปักทั่วไป แล้วนำมาเก็งกำไรเพิ่มอีกทีหนึ่ง เป็นต้น วิธีเหล่านี้จะทำได้เฉพาะสินค้าที่มีต้นทุนต่ำเท่านั้น เพราะคุณสามารถชาร์ตผลกำไรได้ในราคาที่สูงขึ้นจนน่าพอใจ
ส่วนการขายหุ้นร่วมทุน ก็คือการใช้เงินคนอื่นมาลงทุนนั่นเอง โดยที่อีกคนหนึ่งเป็นฝ่ายลงเงิน ส่วนคุณเป็นฝ่ายลงแรงและทุนสมอง เมื่อได้ผลกำไรมาก็ตกลงแบ่งกันอย่างยุติธรรม วิธีนี้ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณได้ผลกำไรมาโดยที่ไม่ต้องลงทุนด้วยเงินตัวเองให้เกิดความเสี่ยง
3. หักค่าใช้จ่ายให้ตัวเองก่อนเสมอ
โดยการคำนวณค่าใช้จ่ายของตัวคุณเอง ไม่ว่าจะเป็นภาระหนี้สินในแต่ละเดือน รายจ่ายต่างๆที่ต้องใช้ต่อเดือน รวมไปถึงเงินออมที่ต้องหักฝากไว้ในทุกๆเดือนอีกด้วย
ทั้งนี้ก็เพื่อตัดเรื่องภาระค่าใช้จ่ายออกไป และนำเงินที่เหลือมาเพิ่มมูลค่าเพื่อการลงทุนในอนาคต เช่นนำไปซื้อพันธบัตร หรือสลากออมสิน เพื่อเพิ่มมูลค่าและดอกผลของเงินให้งอกเงยมากกว่าดอกเบี้ยตามธนาคารทั่วไป เป็นต้น
ค่าใช้จ่ายส่วนตัว มักหมายรวมไปถึงเสื้อผ้า ,อาหาร,ค่าเดินทาง,ค่ากิจกรรม,ค่าผ่อนบ้าน,ผ่อนรถ,ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เป็นต้น
4. ไม่สร้างหนี้สินจนเกินตัว
หนี้สิน ไม่ได้ทำให้ใครรวยขึ้นมาได้ ตรงกันข้ามกลับทำให้ชีวิตของคุณตกต่ำลง หากจะมีก็ควรควบคุมให้อยู่ในเปอร์เซ็นต์ที่พอรับได้ โดยไม่ควรให้เกิน 30%ของรายได้ทั้งหมด เพราะหนี้สินเหล่านั้นจะดึงคุณให้ตกลงไปสู่สภาวะล้มเหลวทางการเงิน โดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร
ก่อนอื่นคุณต้องปรับลดพฤติกรรมการใช้เงินของตัวคุณเองก่อน โดยลดสิ่งที่เรียกว่าค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยต่างๆลงไป อาจจะใช้วิธีการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายเข้าช่วยด้วยก็ได้ เพื่อความแม่นยำและช่วยให้คุณรู้ที่มาที่ไปของเงินเหล่านั้นได้ง่ายยิ่งขึ้น
5. หาทางเพิ่มกำไร
ถ้าอยากรวย อย่าปล่อยเงินเก็บให้นอนนิ่งไว้ในธนาคารเพื่อกินดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว ต้องหาช่องทางเพิ่มกำไรให้กับเงินทุนเหล่านั้น เช่น คุณอาจนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ต่างๆเช่น หุ้น,กองทุน และซื้อสินทรัพย์เพื่อเก็งกำไร เป็นต้น
มีหลายท่านที่ใช้วิธีซื้อสินทรัพย์ประเภทบ้าน ที่ดิน คอนโดมิเนียม หรืออาคารชุด เพื่อไว้เก็บค่าเช่ารายเดือน ถือเป็นสินทรัพย์ที่เก็บดอกผลกินได้จนชั่วลูกชั่วหลาน ไม่มีวันหมด หรือบางท่านอาจใช้วิธีลงทุนทำกิจการต่างๆที่ได้ผลกำไรตามความถนัด เพื่อส่งต่อเป็นมรดกสู่รุ่นลูกหลานต่อไปก็ยังมี
สำหรับคนที่มีทุนน้อย แนะนำให้ใช้เงินเพื่อต่อยอดความรู้ความสามารถของตนเอง เช่นจ่ายค่าคอร์สเรียนพิเศษในด้านวิชาชีพ ภาษา และหลักสูตรต่างๆที่มีผลต่อรายได้ในอนาคต แล้วหันมาเปิดเว็ปไซต์ตามพื้นที่ฟรีบนโลกออนไลน์ สร้างเว็ปเพจให้ดูน่าสนใจ และน่าติดตาม เพื่อพัฒนากลุ่มลูกค้าให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
ทั้งหมดนี้ถือเป็น วิธีวางแผนการเงิน ให้รวยเร็ว และมีความเสี่ยงน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถือเป็นวิธีใกล้ตัวที่คุณนำมาปรับใช้ได้โดยไม่ต้องคิดหาวิธีวางแผนในรูปแบบอื่นๆให้วุ่นวายอีกต่อไป ที่เหลือก็คือความอดทน และความมุ่งมั่นที่คุณพยายามจะก้าวไปสู่จุดมุ่งหมายเพื่อความสำเร็จ เพราะระหว่างทาง อาจมีบททดสอบอีกมากที่คุณยังมองไม่เห็น อย่ากลัวว่าปัญหาเหล่านั้นจะทำลายความฝันของคุณ ตรงกันข้าม จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในตัวคุณให้มากขึ้นจนไม่กลัวปัญหาอื่นๆอีกเลยในอนาคต