การสร้างหนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะการสร้างหนี้มีทั้งหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้ อย่างเช่นการสร้างหนี้เพื่อการลงทุนในธุรกิจ การสร้างหนี้เพื่อซื้อเครื่องมือประกอบอาชีพ และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อย่างเช่น หนี้ที่เกิดจากการผ่อนสินค้าซึ่งเป็นของใช้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เช่น เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน เครื่องประดับ หรือหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย
การสร้างหนี้ไม่ว่าจะเป็นหนี้สินประเภทใดก็สามารถสร้างความทุกข์หรือทำให้รู้สึกวิตกกังวลได้เช่นเดียวกัน 5 วิธีปลดหนี้ สู่อิสรภาพทางการเงิน คือข้อคิดดีๆที่เรานำมาฝากในวันนี้
1. หยุดสร้างหนี้
การปลดล็อคตัวเองจากภาระหนี้สิน สิ่งแรกต้องหยุดสร้างหนี้เสียก่อนหากยังมีหนี้สินค้างอยู่ ต้องผ่อนชำระจนหมดโดยไม่ขอกู้เพิ่ม คนส่วนใหญ่ที่มีหนี้สินต่อสถาบันการเงินต่างๆเมื่อผ่อนชำระไปได้สักครึ่งหรือผ่อนชำระจนใกล้จะหมดหนี้ก็มักจะขอทำสัญญาใหม่หรือขอกู้เพิ่ม แต่ทางที่ดีเพื่อไม่ให้เกิดหนี้สินขึ้นมาอีก หยุดกู้ไปเลยดีกว่าค่ะเพราะหากคุณกู้เงินอีกก็จะทำให้เกิดเป็นลูกโซ่วนเวียนอยู่แบบนั้นไม่จบสิ้นกันสักที ทีนี้คุณก็จะไม่สามารถหลุดออกมาจากวงเวียนแห่งหนี้สินได้ เพราะฉะนั้นอย่าสร้างหนี้สินขึ้นมาใหม่เลยจะดีกว่านะคะ
2. หาช่องทางสร้างรายได้เพิ่ม
การไม่มีหนี้ถือเป็นลาภอันประเสริฐ ดังนั้นเมื่อมีหนี้สินหรือเริ่มมีปัญหาในการผ่อนชำระก็ต้องพยายามหาแนวทางแก้ไข โดยหาช่องทางสร้างรายได้เพิ่ม เพราะเมื่อมีรายได้พิเศษเข้ามาก็จะช่วยให้มีเงินชำระหนี้ได้มากขึ้น และที่สำคัญช่องทางหารายได้เพิ่มควรหลีกเลี่ยงการลงทุนที่อาจสร้างภาระทำให้มีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น ควรใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่มาสร้างรายได้เสริม เช่น รับสอนพิเศษ ขายสินค้ามือสองซึ่งอาจเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า หรือรองเท้าของตนเองที่ไม่ได้ใส่หรือไม่ได้ใช้แล้ว ใครที่มีของไม่ใช้แล้วอย่ามัวเก็บไว้อยู่เลย เพราะมันคงไม่ได้ประโยชน์อะไร เอาออกมาขายเป็นสินค้ามือสองดีกว่า อย่างน้อยก็ยังได้เงินกลับคืนมาบ้างนะคะ แม้จะแค่น้อยนิดก็ตาม
3. แปลงหนี้ดอกเบี้ยสูงเป็นหนี้ที่ดอกเบี้ยต่ำ
ในกรณีที่มีหนี้นอกระบบซึ่งอาจเสียดอกเบี้ยในอัตราสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากสามารถ กู้ยืมได้ง่ายสะดวกรวดเร็วมากกว่าการกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ การแปลงหนี้ที่ต้องเสียดอกเบี้ยสูงๆให้กลายเป็นหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า เป็นวิธีที่มีข้อจำกัดหรือสามารถใช้ได้ดีกับผู้ที่มีสินทรัพย์เป็นของตนเอง เช่น มีบ้าน ที่ดิน รถยนต์ ที่หมดภาระแล้วสามารถนำมาเป็นหลักประกันเพื่อขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ซึ่งนอกจากเสียดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำกว่าแล้วยังสามารถผ่อนชำระในระยะยาวได้อีกด้วย คงไม่มีใครที่อยากจะเสียดอกเบี้ยราคาแพงไปนานๆ หรอกจริงไหมคะ เพราะฉะนั้นหากสามารถแปลงดอกเบี้ยให้เป็นดอกเบี้ยขั้นต่ำได้ก็ทำเถอะค่ะ จะได้ลดหนี้สินลงบ้างนั่นเอง
4. การประนอมหนี้
หากพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหารายได้มาผ่อนชำระหนี้แล้ว ยังผ่อนหนี้ที่มีอยู่ไม่ไหวควรใช้วิธีประนอมหนี้ โดยการเจรจาขอปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ตามที่เราสามารถผ่อนชำระได้ ซึ่งวิธีนี้อาจทำให้เสียดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้น เพราะการผ่อนชำระหนี้ในจำนวนที่น้อยลงทำให้ต้องผ่อนชำระในระยะยาว แต่ผลการพิจารณาขึ้นอยู่กับเจ้าหนี้และประเภทของหนี้ที่มีอยู่ด้วย ยังไงก็ลองคุยกับเจ้าหนี้ดูนะคะ ว่าเขาจะยอมประนอมหนี้กับคุณหรือเปล่า ดีกว่าไม่คุยอะไรเลย และต้องมานั่งเครียดกับการหาเงินผ่อนชำระหนี้ไม่ทันต่อไป
5. ควบคุมรายรับรายจ่าย
การปลดล็อคจากภาระหนี้สิน นอกจากสิ่งที่กล่าวมาแล้วการควบคุมรายรับรายจ่าย และการใช้จ่ายเงินอย่างเป็นระบบก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถทำให้ทุกคนปลดหนี้ให้กับตัวเองได้เร็วยิ่งขึ้น และยังทำให้ไม่กลับมาเป็นหนี้เพิ่มอีกด้วย เพราะฉะนั้นหากรายจ่ายในแต่ละเดือนของคุณมักจะไม่เพียงพอทำให้ไม่มีเงินปลดหนี้ ลองทบทวนดูค่ะว่าอะไรที่คุณซื้อโดยไม่จำเป้นบ้าง และพยายามหลีกเลี่ยงการช้อปสิ่งของที่ไม่จำเป็นซะก็จะช่วยให้คุณมีเงินเหลือพอที่จะปลดหนี้ได้บ้างแล้วล่ะ
วิธีปลดหนี้ สู่อิสรภาพทางการเงิน ทั้ง 5 ข้อเป็นแนวทางและทางเลือกให้กับคนที่กำลังประสบกับปัญหาและบางกรณีอาจต้องใช้เวลาในการปลดล็อคหนี้ให้กับตัวเอง ก็ถือว่าเป็นทางออกที่ดีซึ่งนอกจากปลดหนี้ได้แล้วยังอาจทำให้มีเงินเก็บออมหรือมีอาชีพใหม่ๆที่สามารถสร้างความมั่นคงทางการเงินให้อีกด้วย ใครที่มีหนี้สินอยู่มากมายจนไม่รู้จะปลดอย่างไรให้หมดดี ลองนำวิธีเหล่านี้ไปช่วยในการปลดหนี้ของคุณดูนะคะ
หรืออาจจะพยายามหารายได้เพิ่มจากเวลาว่างของคุณเอง ซึ่งอาจจะทำงานอดิเรกหรืองานอะไรก็ได้ ที่ได้เงินโดยไม่ต้องลงทุนมาก แค่นี้คุณก็จะมีเงินที่จะใช้ในการปลดหนี้เพิ่มมากขึ้นแล้วล่ะ แถมยังอาจจะมีเงินเหลือให้พอใช้ในแต่ละเดือนอีกด้วย อยากหมดหนี้เร็วๆ ไม่ยากแต่ก็อย่าสร้างหนี้ขึ้นมาใหม่ด้วยล่ะ