เรื่องเงินนับเป็นเรื่องใหญ่ที่ทำให้ใจเป็นทุกข์ สามีภรรยาทะเลาะกันส่วนใหญ่เพราะเรื่องเงิน แม่พ่อมีเงินไม่พอให้ลูกก็เป็นทุกข์ ลูกๆไม่ได้ของดังใจ ยังหาเงินเองไม่ได้ ก็เป็นทุกข์ พนักงานเงินเดือนน้อยไป ไม่พอใช้จ่ายก็เป็นทุกข์ แม่ค้าทั้งหลายขายของไม่ดี ไม่มีเงินลงทุนก็เป็นทุกข์ จะเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะยากดีมีจน ล้วนเป็นทุกข์เพราะเงินกันทั้งนั้น ทั้งๆที่คนที่มีเงินมากกว่า เงินเดือนสูงกว่า น่าจะไม่ทุกข์และอยู่อย่างสุขสบายใจ แต่ความจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น คนยิ่งมีเงินมากก็ยิ่งหาเรื่องจ่ายและใช้มาก เรียกว่าใช้เต็มวงเงินตลอดเวลา เพราะคำว่าไม่รู้จักพอนั่นเอง
ลองมาดูกันว่า พอบอกให้เก็บเงินออมเงินกันไว้บ้าง ผู้คนส่วนใหญ่จะอ้างเรื่องอะไร ถึงทำให้ไม่สามารถออมเงิน 7 ข้ออ้างยอดฮิตมีดังนี้
ข้อ 1 เพราะไม่มีเงิน
การอ้างแบบนี้ชี้ให้เห็นว่าคนพูดไม่มีความรับผิดชอบเอาเสียเลย เพราะการออมเงินไม่ได้หมายถึงว่าจะต้องออมครั้งมากๆ การออมทุกวันวันละ 10 บาท ก็ถือเป็นการออมเงินได้เช่นกัน ทางที่ดี อย่าอ้างแบบนี้อีกเลย และหันมาตระหนักถึงความสำคัญของการออมเงินให้มากๆ สร้างแรงจูงใจ คิดถึงคนที่เรารักและต้องรับผิดชอบให้มากๆ เติมความเสียสละลงไปในใจให้มากอีกสักนิด ความคิดที่จะออมเงินจะก่อสร้างตัวและเป็นจริงขึ้นมาได้ในที่สุด
ข้อ 2 เพราะมีภาระและค่าใช้จ่ายประจำเดือนสูงมาก
การอ้างแบบนี้เป็นเพราะไม่มีแรงจูงใจและขาดวินัยทางการเงิน เพราะค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนนั้นเกิดขึ้นกับคนแทบจะทุกคนอยู่แล้ว แต่ทำไมบางคนเขาถึงออมเงินได้ล่ะ วิธีแก้คือต้องสร้างแรงจูงใจและสร้างวินัยการออมเงินที่เข้มแข็ง
อ่านเพิ่มเติม > อยากเก็บเงินแต่ค่าใช้จ่ายเยอะ ต้องทำอย่างไรดี ?
ข้อ 3 เพราะอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ตอนนี้มีเงินก็ใช้ก่อนดีกว่า
การคิดแบบนี้ถือเป็นความประมาท เพราะการใช้จ่ายโดยไม่คิดถึงวันข้างหน้า หากเดือดร้อนขึ้นมา คนที่จะต้องลำบากที่สุดก็คือตัวเอง รวมไปถึงครอบครัวด้วย การออมเงินเป็นเรื่องที่ดี แม้ไม่มีโอกาสได้ใช้ในอนาคต ก็ส่งสามารถส่งต่อไปถึงพ่อแม่ลูกหลานได้อยู่ดี ดีกว่าหมดไปกับการเที่ยวเตร่และซื้อหาข้าวของที่นับวันมีแต่จะด้อยค่าลงเรื่อยๆ
ข้อ 4 เพราะถ้ามีเงินเยอะก็ต้องเสียภาษีเยอะ
ก็จริงอยู่ที่มีเงินออมฝากไว้ในธนาคารก็จะถูกหักภาษีไปเยอะ แต่ลองมองอีกมุมสิ ถ้าเรานำเงินที่มีเยอะนั้นไปลงทุนต่อ มันก็จะสามารถงอกเงยขึ้นมาได้มากกว่าที่เสียภาษีไปหลายเท่านัก ดังนั้นอย่าได้อ้างเรื่องภาษีอีกเลย มีเงินหนึ่งล้าน แล้วเสียภาษี หนึ่งแสน กับมีเงินสิบล้านแล้วเสียภาษีหนึ่งล้าน ใครๆก็คงเลือกมีแบบหลังอย่างแน่นอน
ข้อ 5 เพราะยังมีเวลาอีกเยอะจะรีบออมไปทำไม
ใครที่คิดแบบนี้คงยังไม่รู้กฎของการทบเท่าทวีคูณของดอกเบี้ยเป็นแน่ เพราะยิ่งมีเวลาในการออมเงินมากเท่าไหร่ ผลประโยชน์จากดอกเบี้ยทบต้นทบดอกก็จะมีประสิทธิภาพมากเท่านั้น บางทีกว่าจะคิดออมเงิน ก็เหลือเวลาเพียง 5 ปี 10 ปี ก็จะเกษียณแล้ว ระยะเวลาน้อยเกินไป จะเก็บเกี่ยวประโยชน์จากเงินออมและดอกเบี้ยได้ไม่มากเท่าที่ควร
ข้อ 6 เพิ่งเรียนจบ ขอเที่ยวหาประสบการณ์ก่อน
เพราะอยู่ในกฎระเบียบของบ้านและสถานศึกษามาเป็นเวลานาน พอทำงานหาเงินเองได้เลยอยากใช้จ่ายอย่างอิสระ ถ้าสักปีสองปี ยังพออนุโลม บางคนอยากเที่ยวอยากอิสระเป็นสิบยี่สิบปีนี่ก็ไม่ไหว
ข้อ 7 ทำงานมาเหนื่อยยาก อยากได้บ้าน ได้รถยนต์เป็นของตนเอง
บ้านและรถเป็นความฝันอันดับต้นๆของทุกคน ส่วนใหญ่พอหาเงินได้ก็เอาไปซื้อความสุข ความสบาย สนองตอบสิ่งที่ตนอยากได้มาช้านานก่อน แม้จะเป็นหนี้ก็ยอม ไว้ได้ทุกอย่างจะมาออมตอนหลัง คนที่อ้างแบบนี้ไม่มีวันพอหรอก พอผ่อนบ้านหมดก็อยากได้บ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม พอผ่อนรถหมดก็อยากได้รถใหม่ที่คันใหญ่กว่าเดิม สุดท้ายไม่ได้ออมเลยสักบาท
จะเห็นว่าคนที่ไม่คิดจะออมเงินมักจะมีข้ออ้างต่างๆนานๆ ไม่ว่าตัวเองจะหาเงินได้มากน้อยแค่ไหน ก็จะหาเรื่องจำเป็นต้องใช้เงินไปจนหมด ขณะที่คนบางคนมีความต้องการและอยากได้เหมือนกัน แต่เขาสามารถยับยั้งชั่งใจได้ เอาชนะความอยากของตัวเองได้ และใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท เก็บกันออมเงินอย่างสม่ำเสมอ คนแบบนี้แม้ไม่ได้มีความสุขจากบ้านหลังใหญ่ หรือรถคันใหม่ แต่เขาจะมีความสุขใจอย่างยั่งยืน คนที่ยังไม่มีเงินออม ต้องยอมใจแข็ง เลิกอ้างนั่นนี่ เริ่มออมเงินตั้งแต่วันนี้ คราวละพัน ครั้งละร้อยก็ยังดี