การที่คนเราจะเป็นเศรษฐี ได้นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเก่งกาจในการหาเงินเพียงอย่างเดียว แต่หมายรวมไปถึงอุปนิสัยต่างๆที่ควรมีติดตัวอีกด้วย เพราะถ้าหากเรารู้จักเพียงแค่วิธีการหาเงินและวิธีการใช้เงินอยู่เพียงสองอย่าง ชีวิตนี้ทั้งชีวิตก็จะไม่มีวัน เปลี่ยนตัวเองเป็นเศรษฐี ได้กับเขาอย่างแน่นอน
สรุปคือความร่ำรวยไม่ได้มาจากความฟลุคในการเสี่ยงโชค หรือการขยันหาเงินเพียงอย่างเดียว แต่มาจากอุปนิสัยต่างๆที่ต้องทำให้เป็นกิจวัตร เพื่อ เปลี่ยนตัวเองเป็นเศรษฐี ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
1.วางเป้าหมายให้ชัดเจน
ทุกครั้ง ไม่ว่าเรามีโครงการณ์ที่จะทำอะไรก็ตาม จะต้องมีการวางเป้าหมายให้ชัดเจนก่อนเสมอ เพราะถ้าหากไม่มีเป้าหมาย เราก็จะไม่มีวันเดินไปถึงจุดหมายอย่างแน่นอน เป้าหมายในการประสบความสำเร็จทางการเงินก็เช่นกัน เพราะอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า ความร่ำรวยไม่ได้มาจากเรื่องบังเอิญหรือโชคช่วย แต่เป็นเพราะพวกเขาเหล่านั้นมีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน และวางแผนการเดินทางเอาไว้เป็นอย่างดีนั่นเอง
อย่าลืมตอกย้ำตัวเองในทุกๆวัน เพื่อให้เกิดแรงกระตุ้น และไม่ลืมเจตนารมย์ในวันแรกที่เริ่มตั้งเป้าหมาย เพราะส่วนใหญ่แล้ว การตั้งเป้าหมายทิ้งไว้นานๆโดยไม่ติดตามผลนั้น จะยิ่งทำให้ไม่เกิดแรงกระตุ้นและนำพาเราไปสู่ความสำเร็จตามที่ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรกนั่นเอง
2.หมั่นติดตามผลและตอกย้ำเป้าหมายที่ตั้งไว้ในทุกๆวัน
เมื่อได้เป้าหมายที่ชัดเจนเรียบร้อยแล้ว สิ่งสำคัญที่ควรทำในขั้นตอนถัดมาก็คือ การตอกย้ำเป้าหมายที่กำหนดไว้ในทุกๆวัน เพื่อสร้างแรงกระตุ้นและแรงจูงใจในการดำเนินการเพื่อไปสู่จุดมุ่งหมายในอนาคต เพราะการวางแผนไว้นานๆโดยไม่ติดตามผลนั้น จะทำให้เกิดความท้อแท้ และละทิ้งเป้าหมายที่เคยตั้งใจอย่างแน่วแน่ไว้กลางคัน มีความเสี่ยงสูงต่ออนาคตทางการเงินที่ดีของตัวคุณเอง เพราะอย่าลืมว่าหากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นเมื่อไหร่ก็ตาม ชีวิตในวัยเกษียณของคุณก็จะพลอยย่ำแย่ไปด้วย ดังนั้น อย่าลืมสำรวจตัวเองในทุกๆวัน ว่าวันนี้คุณได้ทุ่มเททำตามเป้าหมายอย่างเต็มที่แล้วหรือยัง และเข้าใกล้จุดสำเร็จไปมากแค่ไหนแล้ว หากไม่ได้ผลก็ควรเปลี่ยนวิธีการ และหาทางทำให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายแได้เร็วขึ้นกว่าเดิม วิธีนี้จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ และเป็นเศรษฐีได้เร็วขึ้นยิ่งกว่า
3.ปรับลดรายจ่ายให้น้อยกว่ารายได้
อีกเรื่องหนึ่งที่ควรทำให้ติดเป็นนิสัยก็คือ การใช้จ่ายเงินให้น้อยกว่ารายได้ที่เข้ามา โดยใช้วิธีคิดแบบง่ายๆว่า จะใช้เงินอย่างไรก็ได้ ให้มีนอดคงเหลือสำหรับเก็บออมเป็นจำนวนเงินกี่เปอร์เซ็นต์ของรายได้ เป็นต้น เพื่อที่คุณจะได้ไม่เกิดคำถามอยู่ในใจตลอดเวลาว่า เงินที่ฉันหามาได้ หายไปไหนหมด
ดังนั้น คุณต้องปรับปรุงตัวเองเสียใหม่ โดยสร้างนิสัยการใช้เงินในรูปแบบใหม่ คิดให้นาน ก่อนที่จะซื้ออะไร หรือใช้จ่ายอะไร ลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยที่ไม่มีผลต่อการสร้างอนาคตและความเป็นอยู่ในชีวิต ออมเงินให้เป็นนิสัย และไม่ติดนิสัยรูดบัตรเครดิตโดยไม่ใคร่ครวญถึงความจำเป็นในการใช้จ่ายเหล่านั้น โดยคุณอาจจะทำบัญชีรายรับรายจ่ายขึ้นมาสักเล่ม เพื่อบันทึกค่าใช้จ่ายและรายได้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้คุณได้รู้ที่มาที่ไปของเงิน และควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างเป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น
4.ใช้เงินเพื่อการลงทุน สร้างคุณค่าในตนเอง
คนที่จะเป็นเศรษฐีได้นั้น ต้องมีความตั้งใจมากกว่าคนปกติทั่วไปหลายเท่า พวกเขาจะไม่เสียเวลาไปกับเรื่องที่ไร้ประโยชน์และไม่ทำให้ร่ำรวยขึ้นได้ แต่พสกเขาจะหาวิธีทำงานแบบรวบรัด ประหยัดเวลาเพื่อที่จะได้มีเวลาไปเพิ่มมูลค่าให้ตนเองด้วยการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อหาความรู้เข้าสมอง
เศรษฐีส่วนใหญ่ใช้เงินเพื่อการลงทุน พัฒนาตนเองให้ดีขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นในทุกๆวัน เข่น ใช้เงินเพื่อจ่ายค่าคอร์สพิเศษเรียนภาษาเพิ่มเติม หรือเรียนหลักสูตรบริหารจัดการเพื่อนำมาปรับใช้ในธุรกิจและองค์กร เป็นต้น ตัวคุณเองก็เช่นกัน หากต้องการเป็นเศรษฐี ก็ต้องเพิ่มคุณค่าให้ตนเองด้วยการลงทุนในรูปแบบเหล่านี้ และบริหารจัดการเวลาในแต่ละวันให้ดำเนินไปเฉพาะกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ ไม่หมดเวลาในแต่ละวันไปกับเรื่องไร้สาระเช่นที่เคยทำ เพื่อให้คุณก้าวสู่เป้าหมายและประสบความสำเร็จได้เร็วยิ่งขึ้น
5. ต้องตื่นตัวตลอดเวลา และมีความอดทนสูง
ในระหว่างการเดินทาง ย่อมมีอุปสรรคขวากหนามเข้ามาให้ท้อแท้ใจอยู่เสมอ ดังนั้น คุณต้องมีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญต้องมีความอดทนสูงมากๆ เพื่อที่จะนำพาตัวเองไปสู่จุดมุ่งหมาย เพราะสุปสรรคนั้นมักจะมาในทุกๆช่วงเวลา และเข้ามาโดยที่เราไม่คาดคิด สิ่งสำคัญที่เราควรมีคือ ต้องเตรียมการรับมือให้พร้อมอยู่เสมอ และตั้งสติเผชิญหน้ากับทุกปัญหาที่เข้ามาอย่างเต็มภาคภูมิ
มีหลายท่านที่ไปไม่ถึงฝั่งฝันเพราะความท้อแท้ใจกับอุปสรรคต่างๆ ที่เข้ามาทดสอบ นานเข้าเป้าหมายต่างๆก็ค่อยๆลบเลือนหายไป จนในที่สุดคุณก็อาจลืมเป้าหมายนั้น และไม่มีวันประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก
ความผิดพลาดถือเป็นแรงผลักดันให้คุณไปสู่จุดมุ่งหมายได้เร็วยิ่งขึ้น ดังนั้น ในทุกๆการพุ่งชน คุณต้องมีความมั่นใจและพร้อมที่จะยอมรับผลที่ตามมาได้ในอนาคต ถือเป็นความผิดพลาดที่สง่างามและต่อยอดให้คุณตรงไปสู่จุดมุ่งหมายได้เร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย
6.กล้าที่จะเสี่ยง
อีกหนึ่งนิสัยที่เศรษฐีควรมีก็คือ ความกล้าที่จะเสี่ยงในทุกๆช่องโอกาส พวกเขาพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆและทดลองทำก่อนที่คนอื่นจะลงมือ เพื่อโอกาสในความก้าวหน้า และความสำเร็จที่จะตามมาในอนาคต
ในบางครั้งอุปนิสัยเหล่านี้ อาจทำให้คุณดูเหมือนคนกล้าและค่อนข้างบ้าบิ่น แต่ความสำเร็จที่ได้มาจากความบ้าเหล่านี้แหละ ที่จะทำให้คุณเกิดความเจ้าใจอย่างถ่องแท้ เข้าใจในความเสี่ยง และเห็นมุมมองต่างๆที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น อย่าลืมวัดคุณค่าของความเสี่ยงนั้นๆด้วย ว่าควรมีความเสี่ยงอยู่ในระดับที่พอจะรับได้หรือไม่
7.อย่าเห็นแก่ตัว
หลายคนเข้าใจผิดว่าพวกเศรษฐีมักจะมีจิตใจที่คับแคบ และเอาเปรียบคนทั่วไปในทุกๆเรื่อง เห็นแก่ตัวและทำทุกอย่างเพื่อผลักดันตัวเองให้ขึ้นมาถึงจุดสูงสุดของชีวิต โดยไม่คำนึงถึงหลักจริยธรรม
ซึ่งแม้จริงแล้ว พวกเขาต่างเป็นบุคคลที่อุทิศตนเพื่อสาธารณะประโยชน์ ใจกว้าง และพร้อมเปิดใจรับฟังปัญหาของผู้คนรอบข้างอยู่เสมอ เป็นที่ปรึกษาที่ดี และมีน้ำใจต่อสังคม ยกตัวอย่างเช่น วอเรนต์ บัฟเฟต ที่บริจาคเงินปีละหลายล้านบาทเข้าองค์กรการกุศลอย่างสม่ำเสมอในทุกๆปี
บางท่านคำนึงถึงแม้กระทั่งคุณภาพชีวิต ของคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณรอบๆสถานประกอบการ โดยบริจาคที่ดิน อาคาร เพื่อใช้เป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ก็มี