ถ้าปีที่ผ่านมานี้อะไร ๆ ก็ยังไม่ได้ดั่งที่หวังไว้ แสดงว่าวิธีคิดที่ผ่านมายังอาจจะมีอะไรที่ต้องปรับปรุง รู้หรือไม่ว่าการประสบความสำเร็จนั้น เริ่มต้นจากพื้นฐานในการดำรงชีวิตก่อนเสมอ ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้ามและไม่สนใจ เพราะคิดว่าไม่สำคัญ แต่การสร้างบ้านให้สำเร็จได้ ก็ต้องใช้หิน ปูน ทราย ในการก่อตัวให้เป็นบ้านที่สวยงามมิใช่หรือ?! ฉะนั้นจงอย่ามองข้ามเรื่องพื้น ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะมันคือรากฐานสำคัญทำให้ชีวิตของคุณ ประสบความสำเร็จ หรือไม่ก็ได้ … พื้นฐานชีวิตที่เราควรพิจารณาใหม่และปรับเปลี่ยนให้ดีกว่าเดิมเพื่อให้ ประสบความสำเร็จ ในสิ่งที่คาดหวัง มีดังต่อไปนี้
บุคลิกภาพ
พื้นฐานของการ ประสบความสำเร็จ นั้น คือ บุคลิกภาพ ที่หลายคนอาจมองข้ามไป ซึ่งการจะประสบความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม จำเป็นอย่างยิ่งต้องมีบุคลิกภาพที่ดีมาก่อนเสมอ ๆ ซึ่งจะทำเกิดความมีเสน่ห์แก่ตัวเราเอง เช่น การแต่งตัวดูเข้ากับบุคลิกภาพของตนเองแต่งตัวสะอาดสะอ้าน ไม่มีกลิ่นตัว ผมเผ้าไม่รุงรัง ต้องเป็นคนที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ร่าเริง พูดจาไพเราะน่าฟัง รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น สิ่งเหล่านี้จะเป็นด่านแรกทำให้คุณผ่านไปสู่ด่านต่อไปได้ เพราะไม่ว่าคุณจะประกอบอาชีพการงานใดก็ตาม หากมีบุคลิกที่ดี ย่อมนำพาความสำเร็จมาให้ เช่น หากคุณเป็นพ่อค้าแม่ค้า แล้วพูดจาไม่น่าฟัง ไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส ต่อให้ของที่ขายดีเท่าไหร่ รสชาติถูกปากอย่างไร ก็ไม่มีคนซื้อ แล้วจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร เพราะบุคลิกภาพที่ดีจะทำให้เกิดความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ง่ายอีกด้วย ทำให้เป็นที่ดึงดูดแก่คนทั่วไป มีแต่คนอยากเข้าใกล้ อยากรู้จัก ซึ่งจะเป็นผลดีในการติดต่อสื่อสาร โดยเฉพาะในเรื่องของการงาน การทำธุรกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก หรือขนาดใหญ่ก็ตาม
ยอมรับความจริง พลิกด้านดี ๆ สู่การพัฒนาตนเอง
การยอมรับความจริงจะทำให้เราเกิดแนวคิดแก้ไขหรือพัฒนาในสิ่งที่เป็นจุดด้อยของตนเอง เช่น หากทำร้านกาแฟขาย เมื่อมีลูกค้ามาบอกว่าไม่อร่อย ก็อย่าเพิ่งโกรธ ให้ยอมรับในคำวิจารณ์ของลูกค้า แล้วนำมาปรับปรุงแก้ไข เพราะการตำหนิของลูกค้า คือ การสร้างโอกาสให้เกิดการพัฒนาตนเอง หรือแม้ว่าจะมีคำชมก็ตาม หากคำชมนั้นทำให้เราละเลยในการพัฒนาฝีมือก็ไม่ดีนัก ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตาม หากได้รับคำชมก็ยิ่งต้องทำให้ดีขึ้นไปอีก ฉะนั้นการยอมรับความจริงโดยส่วนมากคือการมองเห็นจุดด้อยของตนเอง ไม่ว่าตนจะมองเห็นด้วยตนเองหรือเกิดจากผู้อื่นที่มาท้วงติงก็ตาม ให้พิจารณาว่าสิ่ง ๆ นั้นเป็นจริงหรือไม่ หากมันเป็นความจริง ก็ควรต้องหาทางปรับปรุง เปลี่ยนแปลงเพื่อให้ดีขึ้น โดยการลดอคติ ลดทิฐิลง ทำตัวเองให้เล็กลง แล้วเราจะโตขึ้น
บริหารเวลาให้เป็น
ถ้าต้องการประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง การบริหารเวลาเป็นสิ่งสำคัญมาก เริ่มจากพื้นฐานในชีวิตประจำวันของเรา เช่น นับตั้งแต่ตื่นนอน การกินอาหาร การขับถ่าย การทำงาน การออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อน ทุกอย่างทำให้เป็นเวลาแล้วจะไม่เสียทั้งสุขภาพและไม่เสียทั้งการงาน เรื่องพื้นฐานเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่า เราเป็นคนบริหารเวลาเป็นหรือไม่อย่างเช่น บางคนที่นอนดึก แล้วตื่นสาย แต่ต้องไปทำงานแต่เช้า ต้องเสียเวลานั่งรถไปทำงาน อาหารเช้าก็ไม่ได้รับประทาน สภาพชีวิตที่วนเวียนอยู่เช่นนี้ย่อมทำให้เสียทั้งสุขภาพ และเสียการงานไปด้วย เพราะการที่ร่างกายไม่สดชื่น ก็จะไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โอกาสก้าวหน้าของการได้เลื่อนตำแหน่งก็ลดลงไปเพราะผลงานไม่ดี หรือคนที่ทำงานอิสระก็ตาม การบริหารเวลาจำเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ หรือทำเวลาไหนก็ได้ เพราะหากเป็นเช่นนั้นสุขภาพจะย่ำแย่ การงานก็จะแย่ไปด้วย เมื่อเจ็บป่วย ทุกอย่างต้องหยุดชะงัก ฉะนั้นการบริหารเวลา ไม่ใช่แต่เพียงว่าหาเวลาแค่ทำงานให้ได้ตามเป้าหมายเพียงอย่างเดียว แต่มันหมายถึงเรื่องการดำรงชีวิตประจำทั่ว ๆ ไปที่คนส่วนมากละเลย แล้วส่งผลต่อการไม่ประสบความสำเร็จ
ระเบียบวินัย
จากเรื่องของเวลา มาต่อด้วยเรื่องของระเบียบวินัย ซึ่งเป็นเรื่องที่เชื่อมโยงกัน เพราะทุกวันนี้ที่คนจำนวนไม่น้อยไม่ประสบความสำเร็จ ก็เพราะขาดระเบียบวินัย ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น การจะทำงาน ๆ หนึ่งให้สำเร็จภายใน 1 วัน จะต้องมีวินัยในการทำงาน ไม่เล่นอินเทอร์เน็ตระหว่างทำงาน ไม่แชทเฟส ไม่แชทไลน์ ดังนั้นระเบียบวินัยจึงเป็นตัวบ่งบอกถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจได้ในระดับหนึ่ง เพราะหากตั้งใจมุ่งมั่นอย่างดีแล้ว ย่อมมีวินัยในตนเองไปโดยอัตโนมัติ ควบคู่มากับการเกิดความกระตือรือร้นในสิ่งที่อยากทำ ฉะนั้นต้องสร้างเป้าหมายให้กับตนเองไว้ก่อน หากมีเป้าหมาย ระเบียบวินัย ความตั้งใจ จะตามมาเอง และจะทำให้เกิดความกระตือรือร้นด้วย
อุปสรรคเป็นเรื่องท้าทาย
ปัญหามีอยู่ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตามแต่บางคนเมื่อจออุปสรรคนิดหน่อยก็ถอยแล้ว ทำให้ความฝันที่อยากทำบางอย่างต้องดับวูบไป เพราะกำลังใจขาดหาย ตามมาติด ๆ ด้วยความขี้เกียจ ไม่ขยันทำงาน เพราะคิดว่าทำไปก็เท่านั้น จนเลิกล้มความตั้งใจเอาได้ง่ายๆ ฉะนั้นควรปรับเปลี่ยนมุมมองให้กับตนเองให้เกิดความท้าทายในอุปสรรค ในปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นตัววัดสติปัญญาของเราได้เป็นอย่างดี ถ้าหากเราแก้ไขอุปสรรคนี้ได้ ย่อมจะทำให้แข็งแกร่งขึ้น ความสำเร็จที่อยู่เบื้องหน้าไม่ว่าจะมีอุปสรรคมากเท่าไหร่ ก็จะผ่านพ้นมันไปได้ เรียกได้ว่า ให้สนุกกับการแก้ปัญหา ให้มองมันเป็นเรื่องท้าทาย แล้วจะไม่ท้อถอย แต่อย่างไรก็ดี การมีจุดมุ่งหมาย การดำเนินการตามการวางแผนต่างๆ ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องไม่ลืมหาทางแก้ไขปัญหาไว้ล่วงหน้า ว่าถ้าเจออุปสรรคนี้แล้วจะหาทางออกอย่างไร เพราะหลายคนชอบวางแผน แต่ลืมเผื่อวิธีการแก้ไขปัญหาไว้ ทำให้เวลาเจอปัญหาก็เกิดความท้อถอย ขาดความกระฉับกระเฉง จึงเป็นเหตุให้ความสำเร็จเกิดขึ้นได้ยาก
กำลังใจ
สิ่งใด ๆ ล้วน ประสบความสำเร็จ ได้หากมีพลังใจหรือกำลังใจที่เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว มีความมุ่งมั่น การจะสร้างกำลังใจให้กับตัวเองนั้น ทำได้ไม่ง่ายและไม่ยาก เช่น บางคนโดดเดี่ยวเพราะอยู่เพียงลำพัง อาจจะขาดกำลังใจได้ง่าย แต่บางคนอยู่คนเดียวกลับสร้างกำลังใจได้ง่าย เพราะความคิดที่ไม่เหมือนกัน มุมมองที่ต่างกันเช่น คนที่โดดเดี่ยวแต่เข้มแข็งมักจะมองเสมอว่า ตนต้องเป็นที่พึ่งของตนให้ได้ เพราะไม่มีใครจะช่วยเราได้นอกจากตัวเราเอง ฉะนั้นจะอ่อนแอไม่ได้ ส่วนคนที่อยู่คนเดียวแล้วขาดกำลังใจมักจะคิดไปในแง่ลบว่า ตนไม่มีใครอยู่เคียงข้าง ไม่มีใครคอยช่วยเหลือ ฉะนั้นแต่ละคนแม้จะอยู่ในสถานะเดียวกัน แต่กำลังใจต่างกัน จึงควรสร้างกำลังใจโดยพลิกมุมมองให้เกิดประโยชน์กับตนเองให้มากที่สุด แล้วไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามย่อมเกิดความสำเร็จได้