สัญญาณเตือนภัย 8 ข้อ ที่ไม่ควรละเลย
เพื่อความปลอดภัยในชีวิต รวมทั้งทรัพย์สินด้วยนั้น เราจึงคิดค้นวิธีการในการป้องกันตัวเอง และสังเกตสิ่งที่คืบคลานเข้ามา การสังเกตจะทำให้เราคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้
ปัจจัยทางการเงินก็เช่นเดียวกัน มักจะมีลางสังหรณ์หรือสัญญาณเตือนภัยเกิดขึ้นกับนักลงทุนก่อน ซึ่งจะเป็นตัวชี้นำว่า การเงิน จะมีทิศทางไปในลักษณะใด
เพราะฉะนั้น หากไม่อยากเผชิญกับปัญหาทางการเงิน ให้สังเกต สัญญาณเตือนภัยทางการเงิน ให้ดี วันนี้ เรามี 8 แนวทางสำคัญ ที่จะช่วยให้คุณก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง และลดความเสี่ยงในการบริหารเงินให้น้อยที่สุด ดังต่อไปนี้
1. สัญญาณเตือนภัยที่ 1 ไม่รู้ที่มาที่ไป อะไรเข้ามายังไง ออกไปยังไง ใช้จ่ายส่วนใดไปบ้าง
บัญชีรายรับ-รายจ่ายนั้น มีเพื่อ ช่วยจดจำและช่วยในการตัดสินใจหลายๆอย่าง หากไม่จดไว้ เพราะเห็นว่าไม่สำคัญ ในอนาคตคุณจะอุดรอยรั่วทางการเงินได้อย่างยากลำบาก เนื่องจากไม่ทราบเลยว่า ในแต่ละเดือนนั้นจ่ายอะไรไปบ้าง การทำบัญชีรายรับรายจ่ายนี้ จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คุณเห็นเม็ดเงินผ่านตัวอักษรที่คุณจดเอาไว้ และมันจะทำให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างถูกต้อง
2. เงินไม่พอจ่ายหนี้ จ่ายล่าช้า
หากคุณเคยมีความสามารถในการจ่ายหนี้มาก่อน แต่อยู่ๆก็เกิดวิกฤตทางการเงิน ทำให้จ่ายหนี้ล่าช้ากว่ากำหนดที่ควรจะเป็น หรือหยุดจ่ายไปเสียดื้อๆ นี่คือสัญญาณชี้ว่าการเงินมีปัญหาใหญ่ และอีกไม่นานคุณจะต้องเผชิญกับดอกเบี้ยและค่าปรับตามมา ดังนั้นหากคุณไม่อยากให้เกิดปัญหาเหล่านี้ ควรจัดการกับการเงินของตัวเองให้ดี จ่ายหนี้ให้ตรงเวลา และควรมีเงินสำรองฉุกเฉินไว้เพื่อเป็นหลักประกันในกรณีที่คุณประสบปัญหาทางการเงิน
3. ยอดหนี้พุงทะยานสูงทะลุเพดาน ในทุกๆครั้ง
สัญญาณเตือนตัวนี้บอกถึงอันตรายร้ายแรงถึงขีดสุดของการก่อหนี้ ปัญหาที่จะตามมาคือหนี้ที่มากมายจนเกินความสามารถในการจ่าย ทั้งนี้พยายามอย่าฟุ้งเฟ้อ หรือสร้างหนี้จนเกินตัว เพราะแน่นอนว่ามันจะส่งผลเสียต่อคุณในภายหลัง พิจารณาให้ดีก่อนใช้จ่าย ถ้าให้ดีอย่าสร้างหนี้ตั้งแต่ต้นเลยจะดีกว่า
4. หมุนเงินจากบัตรเครดิตเพื่อใช้หนี้
จบหนี้ของเดือนนี้เพื่อเป็นหนี้ใหม่ หรือสร้างหนี้ใหม่เพื่อชำระหนี้เก่า วนเวียนไปเรื่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่าคุณไม่มีวันที่จะหลุดพ้นไปจากวงจรอุบาทว์นี้ได้ ถ้าหากว่าคุณแก้ปัญหาไม่ถูกจุด เริ่มตั้งแต่ก่อนคิดที่จะใช้บัตรเครดิต ต้องสำรวจความพร้อมในการจ่ายเงินคืนก่อน เพราะการกดเงินจากบัตรกดเงินสดมาชำระหนี้บัตรเครดิต จะยิ่งทำให้ดอกเบี้ยเพิ่มพูนจนเกินความสามารถที่จะชำระไหว
5. ดึงเงินออมออกมาใช้จ่าย
ที่เคยวางแผนไว้อย่างสวยงาม ว่าจะออมเงินโดยไม่ถอนออกมาใช้เลย แต่ท้ายที่สุดก็มีเรื่องต้องใช้ เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มเอาเงินส่วนนี้ออกมาใช้จ่าย นั่นเป็นสัญญาณเตือนภัยทางการเงินข้อนึงแล้ว ต้องรีบบริหารเงินเสียใหม่ และเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าเงินออมไม่ควรนำออกมาใช้เป็นอันขาด
6. เริ่มหยิบยืมเงินคนอื่นมาใช้
หากคุณเริ่มมีอาการที่ว่าเจอหน้าใครก็ขอยืมเงิน ตระหนักไว้ได้เลยว่า สถานการณ์ด้านการเงินของคุณเริ่มย่ำแย่แล้ว
7. หงุดหงิด ฉุนเฉียว เมื่อมีคนพูดถึงเรื่องเงิน!
เวลามีใครถามเรื่องเงิน แล้วคุณเริ่มมีอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมาเหมือนถูกจี้จุด นั่นหมายความว่าปัญหาทางการเงินเริ่มเกิดขึ้นกับตัวคุณแล้ว จนทำให้คุณอารมณ์เสียเมื่อถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องเงินแบบนี้
8. อยู่แบบอดมื้อกินมื้อ กินอาหารแค่พอประทังชีวิตไปวันๆ
ถ้าแม้แต่ซื้อสิ่งจำเป็นในการยังชีพอย่างอาหารยังต้องคิดแล้วคิดอีก กลัวเงินไม่พอใช้ถึงสิ้นเดือน จำต้องอดอาหารบางมื้อ เช่น อดข้าวเย็น ข้อนี้เป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกว่าปัญหาของคุณเกิดขึ้นแล้ว และถ้าไม่รีบแก้อาจเข้าขั้นวิกฤตได้