คนเรานั้นมักมีปัจจัยหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบให้ชีวิตของเรานั้นพลิกผันได้เสมอ ทั้งนี้อาจจะรวมถึงเรื่อง การเงิน ของเราด้วย คนบางคนนั้นแต่แรกเริ่มเดิมที่เป็นคนมีเงินอยู่มากมาย แต่ต่อมามีปัจจัยบางอย่างที่ส่งผลให้เขาต้องเผชิญกับจุดเปลี่ยนทั้งทางดีและร้าย
ทั้งนี้หากเราเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงที่อาจจะพลิกฐานะ การเงิน ของเราให้ตกต่ำลงได้ก่อนที่จะเกิด ก็จะสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ได้ในภายหลัง ทั้งนี้ปัจจัยหลักๆที่มักพลิกผันชีวิตการเงินของคนส่วนใหญ่ไปทางลบนั้น มักจะมีด้วยกัน 8 อย่างที่ส่งผลเสียต่อฐาน การเงิน ของคุณโดยตรง มีอะไรบ้างนั้นมาดูกัน!
1. รีบออกจากงานที่ทำแต่ไม่มีงานรองรับ
คุณอาจจะรู้สึกเบื่อเต็มทนจนอยากหนีออกจากที่ทำงานจะแย่อยู่แล้วใช่ไหม ? แต่เราขอบอกว่าอย่าเพิ่มผลีพลามถ้าคุณยังไม่สามารถหางานมารองรับหลังออกจากงานตรงนี้ได้ เพราะหากคุณออกไปแล้วไม่มีงานรอบรับต่อ คุณจะกลายเป็นคนที่ตกงานโดยสมบูรณ์ และเงินก็ขาดมือโดยชั่วขณะไปเลยล่ะแถมพอจะกลับมาทำงานเดิมเขาก็อาจจะไม่รับแล้วอีกด้วยนะ
2. งานที่จมปลักเหมือนมีโคลนดูด ก้าวไปไหนไม่ได้
เพื่อนทุกคนวิ่งล้ำหน้าไปแล้ว บางคนได้ตำแหน่ง แต่ทว่าคุณกลับยังอยู่ในจุดเดิมๆ ฐานเงินเดือนที่เดิม เราขอแนะนำว่าให้เริ่มมองหางานใหม่ที่เหมาะกับตัวคุณดีกว่า เพราะถ้าหากงานนั้นเป็นงานที่คุณถนัดจะทำแล้วละก็ เชื่อได้เลยว่างานนั้นจะนำพาคุณให้เดินไปข้างหน้าได้อย่างสง่าผ่าเผยเลยล่ะ ทั้งนี้อย่ารีบลาออกจากงานเก่าทั้งๆที่งานใหม่ยังไม่ตอบรับล่ะ หากต้องการงานใหม่จริงๆ ควรเข้าไปติดต่องานให้เรียบร้อยก่อน แล้วรอการตอบรับจากที่ทำงานใหม่แล้วค่อยลาออกจะดีกว่านะ
3. ซื้อของที่มีจำนวนเงินมากกว่าตัว
หมายถึง การที่เราซื้ออะไรที่ไม่จำเป็น หรือ ที่มากจนเกินไป ทำให้เราต้องเสียเงินมาก ยกตัวอย่าง การที่คุณซื้อบ้านหลังใหญ่มหึมาในราคาแพงสุดๆ แต่เงินเดือนคุณข่างน้อยนิดเหลือเกิน เป็นต้น ทั้งนี้การจะซื้ออะไรสักอย่างนั้นควรจะคำนึงถึงความพอใช้จ่ายในแต่ละเดือนของตัวเอง หลังจากทำการคิดคำนวณหักหนี้หักสินจากสิ่งที่ต้องจ่ายด้วยแล้ว เพราะฉะนั้นเพื่อการเงินที่ดีขึ้นคุณควรเลือกใช้จ่ายแต่สิ่งที่จำเป็นเท่านั้น แค่นี้ก้ลดปัญหาทางการเงินได้มากแล้วล่ะ
4. การที่ต้องไปกู้ยืมเงินเพื่อมาจ่ายค่าเทอมในมหาวิทยาลัยดังๆ
หากคุณคิดว่าข้อนี้ คุณสามารถจัดการบริหารการเงินจนสามารถคืนเงินที่กู้ยืมมาได้อย่างสบายแล้วล่ะก็ ข้ามไปอ่านข้ออื่นต่อได้เลย แต่อยากจะแนะนำว่า บางวิทยาลัยนั้น ก็มีคุณภาพดีได้โดยค่าเทอมไม่ต้องสูงเสียดฟ้าเป็นได้ ถึงแม้การงานนั้นในบางแห่งจะเลือกรับมหาวิทยาลัยที่ดังๆค่าเทอมแพงๆ แต่ถ้าหากคุณใฝ่เรียน แม้จะเรียนในมหาวิทยาลัยที่อาจจะไม่ดังมากแต่คุณภาพคับแก้วนั้น เขายากที่จะวางโปรไฟล์คุณทิ้งไปยากเหมือนกัน นอกจากนี้ประสบการณ์และความสามารถก็มีความสำคัญเหมือนกันนะ เพราะไม่ว่าที่ไหนก็อยากจะได้พนักงานที่มีความสามารถและประสบการณ์ดีทั้งนั้นแหละ
5. เรียนต่อในชั้นสูงๆโดยไม่มีจุดมุ่งหมายที่แน่ชัด
หากคุณเรียนเพราะมีจุดมุ่งหมายในตัวของมัน ไม่ว่าคุณจะปริญญาโท คุณก็จะสามารถจบออกมาแล้วพบกับคำตอบของการเรียนจบได้เป็นอย่างดีว่า จบมาเพื่ออะไร จบมาเพื่อทำงานในสาขาวิชาไหน เราไม่ขอแนะนำว่าถ้าคุณรู้เคว้งคว้างแล้วยังเรียนโดยไม่รู้ว่าจะเรียนไปทำไม เพราะส่วนใหญ่คุณจะไม่ได้อะไรจากการเรียน แถมยังอาจจะก่อหนี้สินท่วมท้นตามมาภายหลังอีกด้วย หากคุณคิดที่จะเรียนต่อในระดับชั้นสูงๆ ล่ะก็ ควรคำนึงให้ดีก่อนถึงเป้าหมายที่ทำให้คุณอยากเรียน แล้วจึงทำตามเป้าหมายที่คุณต้องการ
6. จัดงานแต่งอย่างหรูหรา
พิธีการแต่งงาน เป็นพิธีการแสดงให้เห็นว่าคนทั้งคู่พร้อมที่จะตกลงปลงใจซึ่งกันและกัน ทั้งนี้หากคุณทุ่มทุนสร้างงานแต่งงานอย่างอลังการงานช้างโดยไม่สนใจว่าอาจจะผลร้ายแรงเมื่อหลังเสร็จงานพิธีภายหลัง วันชื่นคืนสุขอาจจะกลายเป็นวันที่คุณปวดหัวกับหนี้จากพิธีแต่งงานก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องจัดงานแต่งให้ใหญ่โตหรูหราเลย เอาเงินไว้ใช้หลังชีวิตงานแต่งจะดีกว่านะ
7. การถูกฟ้องร้อง
แน่นอนว่าหากเกิดเรื่องราวที่รุนแรงจนยอมความกันไม่ได้ จะต้องมีการนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม นั่นคือ การฟ้องร้องต่อศาล ทั้งนี้ในการต่อสู้คดีหรือยื่นคดีต่าง ต้องมีการใช้เงินเป็นแน่นอน ซึ่งยิ่งในกรณีคดีฟ้องหย่าด้วยแล้วนั้น แน่นอนว่าต้องมีการเสียเงินในจำนวนมากตามมา
8. ซื้อของหรูหราเกินตัว
เป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาไม่กี่หมื่นบาท แต่ยอมที่จะมีหนี้หลักแสนเพื่อยกฐานะความไฮโซเพื่อโชว์ว่ารวยมาก(ทั้งๆที่ไม่ใช่แบบนั้น)พฤติกรรมการใช้เงินแบบไม่ยั้งคิดแบบนี้แน่นอนว่าจะส่งผลใหญ่หลวงแก่คุณตามมา เพราะฉะนั้นเรามาซื้อของเท่าที่จำเป็นจริงๆ กันดีกว่านะคะ ส่วนราคาก็เอาแค่เหมาะสม ไม่ต้องแพงเว่อร์ แต่คุณภาพดีก็พอ