หลังจากที่ได้มีการเปิดประเทศเป็น AEC เรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้ก็เริ่มมีอะไรหลายๆอย่างที่กำลังเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง จำนวนนักท่องเที่ยวที่เริ่มมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อนอย่างมาก ด้วยความสะดวกสบายในการเดินทางข้ามประเทศที่ไม่เรื่องมากเหมือนเมื่อก่อน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยนะ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม บางสิ่งบางอย่างที่เราไม่เห็นว่าจะมีการเคลื่อนไหวอะไรอย่างเช่นในด้านอุตสาหกรรมที่ยังเป็นข่าวเงียบๆไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร ก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวบ้างแล้วนะเพื่อให้ทันกับยุค AEC ฉะนั้นแล้ว ตัวเราเองก็ควรที่จะเริ่มเคลื่อนไหวบ้างแล้วล่ะ
ในช่วงนี้ กระแสการลงทุนต่างๆยังคงเป็นสิ่งที่เงียบๆ ไม่มีการหวือหวาหรือเปิดเผยแต่อย่างใด นับได้ว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะเริ่มลงทุนทำธุรกิจขึ้นมาเพื่อรองรับ AEC หรือสร้างธุรกิจขึ้นมาเพื่อที่จะรองรับเม็ดเงินสกุลต่างชาติจำนวนมหาศาล ซึ่งในการเริ่มต้นลงมือทำธุรกิจในช่วงนี้ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีเพราะว่าอีกไม่ช้า ชาวต่างชาติจะเดินทางกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และใครที่เริ่มลงมือทำธุรกิจก่อน ก็จะได้เปรียบก่อนเช่นกัน โดยเรามีคำแนะนำเล็กๆในการ ลงทุนอะไรให้เข้ากับยุค AEC ดังนี้
ลงทุนในด้านการท่องเที่ยว
ด้วยกระแสในด้านการท่องเที่ยวของเมืองไทยที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความสวยงามทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นทั้งวิวทิวทัศน์ บรรยากาศตามป่าเขา ความสดชื่นจากท้องทะเล และอื่นๆอีกมากมาย และด้วยความมีมารยาทในวัฒนธรรมในสายตาของชาวต่างชาติ จึงทำให้ประเทศไทยได้ถูกจัดอยู่ในอันดับต้นๆของแหล่งท่องเที่ยวที่น่าเที่ยวที่สุดนะ และยิ่งเปิด AEC ด้วยแล้ว ทำให้ชาวต่างชาติเลือกที่จะพักผ่อนที่เมืองไทยอย่างแน่นอน
ฉะนั้นเมื่อเรารู้อย่างนี้แล้ว การลงทุนในด้านการท่องเที่ยวจึงสามารถสร้างกำไรได้อย่างมากเลยล่ะ อีกทั้งเรายังสามารถลงทุนกับธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวได้อีกด้วยนะ อย่างเช่นในเรื่องของการขนส่ง ในเรื่องของการเดินทางที่เราสามารถลงทุนในส่วนนี้เพื่อที่จะรองรับการเดินทางของชาวต่างชาติที่มากขึ้น หรือลงทุนในเรื่องของบริการทางด้านสุขภาพ ในด้านการแพทย์แผนไทยหรืออื่นๆ
ลงทุนในด้านอุตสาหกรรม
หลังจากที่เปิด AEC ทุกคนรู้ดีว่ากำแพงภาษีระหว่างประเทศสมาชิกภายในกลุ่มนั้น ก็จะลดน้อยลงไปอย่างมากเลยล่ะ ซึ่งด้วยกำแพงภาษีที่ลดน้อยลงนี้ ก็มีทั้งด้านบวกและด้านลบนะ โดยสิ่งแรกที่เราเห็นได้อย่างชัดเจนเลยก็คือราคาสินค้าและราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตที่ต้องนำเข้าจะลดน้อยลง เพราะว่าไม่ต้องจ่ายภาษีเยอะเหมือนเมื่อก่อน ทำให้เราได้ใช้ของที่ถูกขึ้น สินค้าต่างๆที่ใช้วัตถุดิบต่างประเทศก็จะมีราคาต้นทุนที่ถูกลงอย่างมากเลยล่ะ และแน่นอนว่าด้วยราคาต้นทุนที่ถูกลงประกอบกับกำแพงภาษีที่ลดน้อยลง ทำให้ราคาสินค้าของเรานั้นลดน้อยลงเช่นกัน อีกทั้งสินค้าชนิดเดียวกันก็อาจจะมีคู่แข่งอยู่ในประเทศอื่นๆอีกด้วยนะ ฉะนั้นแล้วถ้าทำไม่ได้คุณภาพ ลูกค้าก็จะไม่สนใจของเรา
ลงทุนในด้านการสอนภาษา
เมื่อเปิด AEC สิ่งแรกที่เราทุกคนต้องรู้ก่อนเลยก็คือ ภาษา ซึ่งแน่นอนว่าการใช้ภาษาอื่นๆได้นอกจากภาษาไทยนั้น ย่อมสร้างความได้เปรียบให้กับตัวเองอย่างมากเลยล่ะ และการเรียนรู้ภาษาอังกฤษก็เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับคนไทยนะ ฉะนั้นแล้วการลงทุนในด้านการสอนภาษา จะสามารถสร้างรายได้ให้เราได้เป็นอย่างดี โดยถึงแม้ว่าเราจะเห็นสถาบันสอนภาษาต่างๆที่เยอะแยะมากมายก็จริง แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยนะที่ยังคงไม่มีที่เรียนภาษาอังกฤษหรือต้องการสถานที่เรียนรู้ภาษาอยู่
เริ่มมองวางแผนลงทุนธุรกิจควบคู่
เมื่อกล่าวถึงธุรกิจควบคู่ หลายๆคนอาจจะนึกไม่ออก ลองจินตนาการถึงร้านอาหารสักร้านหนึ่งที่ขายอาหารตามสั่งหรือข้าวราดแกง แล้วก็ยังมีการขายเครื่องดื่มหรืออาหารว่างควบคู่ไปด้วย เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนเดินเข้าร้านอาหารแล้วสั่งอาหารสักจานหนึ่ง พวกเขาเหล่านั้นก็มีโอกาสสูงอย่างมากที่จะสั่งเครื่องดื่มหรือของว่างควบคู่ด้วย เป็นการสร้างรายได้ได้อย่างดีเลยล่ะ
แต่ธุรกิจควบคู่ที่เราพูดถึงนี้ควรจะรองรับความเป็น AEC และก็มีจุดเด่นเป็นของตัวเอง อย่างเช่นธุรกิจโรงแรมที่เป็นได้มากกว่าการเป็นที่พักผ่อน แต่ยังมีห้องประชุม มีห้องจัดงานเลี้ยงด้วย หรืออาจจะเป็นธุรกิจท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่เน้นวิถีความเป็นไทยเพิ่มเข้ามา เป็นการสร้างจุดเด่นแลเพิ่มรายได้ได้อย่างดีเลยล่ะ
การลงทุนเริ่มต้นทำธุรกิจนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะให้ประสบความสำเร็จในค่ำคืนเดียว ซึ่งทุกอย่างล้วนต้องใช้เวลาและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของผู้ประกอบการ โดยในการลงทุนช่วงแรกๆของสินค้าจำพวกของกิน ของฝากหรือของใช้นี้ เราก็อาจจะยังไม่เน้นสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับชาวต่างชาติก็ได้นะ แต่สำหรับในอนาคตที่มีชาวต่างชาติพลุกพล่านในบ้านเรา การสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่สะดุดตาของชาวต่างชาติ จะทำให้ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เราก็ไม่ควรลืมคำนึงถึงสัญชาติ วัฒนธรรม ธรรมเนียมประเพณีต่างๆของพวกเขาเหล่านั้นด้วย เพราะมีโอกาสที่สินค้าของเราจะไม่ได้รับความนิยมและยังโดนประนามอีกต่างหาก ฉะนั้นแล้วก็ควรที่จะระวังไม่น้อยล่ะในด้านของการลงทุนที่เป็นสินค้าหรือผลิตภัณฑ์