ในยุคปัจจุบันที่งานเริ่มหายากมากยิ่งขึ้นและค่าครองชีพก็มีแนวโน้มดีดตัวสูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เด็กที่กำลังจบใหม่ก็เริ่มตั้งคำถามให้แก่ตนเองแล้วว่าปริญญาตรีที่กำลังจะจบนั้นเพียงพอหรือเปล่าสำหรับการทำงานหรือการหางานในสมัยนี้ เพราะเงินเดือนของนักศึกษาจบใหม่จะเริ่มต้นที่ 15,000 บาท แต่บางสาขาที่เรียนมาอาจจะเริ่มต้นเงินเดือนที่มากกว่าอาจจะเริ่มต้นที่ 30,000 บาท การเลือกเรียนจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสำหรับอนาคตในการทำงานเป็นอย่างดี และมีสาขาที่เรียนจบมาน้อยมากได้ทำงานจำเพาะเจาะจงตรงกับสาขาที่ได้เล่าเรียนมา
หากจบใหม่ก็มีโอกาสหางานได้ง่ายมากแต่ถ้าเลือกงานก็อาจจะยากเล็กน้อย แต่บางสาขาก่อนจบก็มีบริษัทห้างร้านต่าง ๆ มาคอยจองตัวนักศึกษาจบใหม่เพื่อไปทำงานด้วย แต่แค่บางสาขาวิชาเรียนเท่านั้น โอกาสของนักศึกษาจบใหม่ก็มีโอกาสได้งานมากพอสมควร นอกเสียจากว่าจะไปเจองานที่ต้องการผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำงาน เงินเดือนแต่ละเดือนนั้น แม้ว่าจะเริ่มต้นที่ 15,000 บาท ซึ่งเป็นค่าแรงขั้นต่ำของนักศึกษาที่เรียนจบปริญญาตรี หากถามว่าเพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคนเราหรือไม่ มันก็ต้องขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการเงินของแต่ละบุคคลเป็นหลัก บางคนก็ให้คำตอบกับตนเองว่าพอกินพอใช้และพอเหลือเก็บ แต่กับบางคนก็ให้คำตอบกับตนเองว่ามันไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เพราะบางคนใช้เงินแบบเกินตัวให้รางวัลแก่ชีวิตตนเองบ่อยเกินไปเพียงเริ่มต้นทำงานไม่กี่เดือนยังไม่ทันมีเงินเก็บก็อยากมีรถยนต์ เพียงแค่ให้เหตุผลกับตนเองว่ามันช่วยในเรื่องความสะดวกสบายและเวลาเดินทางไปทำงาน แต่สิ่งตามมาก็คือหนี้สินก้อนใหญ่ที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการผ่อนชำระ หรือบางคนใช้บัตรเครดิตเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้จ่ายให้แก่ตนเองจนกลายเป็นการสร้างหนี้สินท่วมหัวให้แก่ตนเอง
ดังนั้น จึงสรุปได้ไม่ยากเลยว่าเรียนจบ ปริญญาตรี พอหรือไม่ หรือไม่กับการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะมันมีทั้งกลุ่มคนที่เพียงพอและไม่เพียงพอ มันอยู่ที่การใช้ชีวิตของแต่ละคนมากกว่า
ซึ่งหากอยากเลื่อนขั้นหรือเลื่อนตำแหน่งที่ดีมากยิ่งขึ้นก็สามารถเรียนต่อปริญญาโทไปพร้อมกับการทำงานก็ได้ ยิ่งหากได้ทำงานตามหน่วยงานราชการก็ยิ่งเรียนสูงเท่าไร โอกาสมีความก้าวหน้าก็จะเพิ่มมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ปัจจุบันระบบการเรียนรู้มีความกว้างขวางมากยิ่งขึ้น สามารถเรียนรู้ผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตหรือเข้าเรียนแค่อาทิตย์ละครั้งก็สามารถทำได้ ผู้ที่อยากมีความก้าวหน้าจึงให้ความสำคัญกับการเรียนไปพร้อมกับการทำงาน เพราะหากจบปริญญาตรีแต่เลือกเรียนต่อเลย ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีงานทำค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนก็จะตกเป็นภาระของคนในครอบครัว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วผู้ที่จบปริญญาตรีก็มีวุฒิภาวะที่เป็นผู้ใหญ่ที่สามารถดูแลตนเองได้แล้ว การพึ่งพาแต่เงินในครอบครัวจะยิ่งทำให้ไม่สามารถหาประสบการณ์ให้แก่ชีวิตของตนเองได้เลย
อ่านเพิ่มเติม : เด็กจบใหม่อยู่ได้ด้วย เงินเดือนหมื่นห้า !
ผู้ที่เลือกเรียนไปพร้อมกับการทำงานและเรียนเพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงานจึงมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่าการเลือกเรียนอย่างเดียว แต่หากบางคนโชคดีมีกิจการที่บ้านหรือมีหัวในทางธุรกิจ สามารถสร้างธุรกิจให้แก่ตนเองได้ สังเกตได้ว่าบุคคลเหล่านี้จะเป็นกลุ่มที่ประสบความสำเร็จอย่างมากที่สุด อีกทั้งมีความรวดเร็วมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ การเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญแต่การเรียนรู้และการทำงานก็เป็นสิ่งที่ควบคู่กัน แม้ว่าการเรียนและการทำงานไปพร้อมกันจะสร้างความเหน็ดเหนื่อยให้แก่คนหลายคนอยู่ไม่น้อย แต่ปลายทางก็เป็นสิ่งที่สวยงามและสมบูรณ์แบบอยู่เสมอเช่นกัน
ผู้ที่เรียนจบปริญญาตรีจึงไม่ต้องวิตกกังวลกันไป เพราะว่าเมื่อมีงานแล้วจะเรียนต่อเมื่อไรก็สามารถทำได้ บางคนเรียนไม่จบปริญญาแต่ก็สามารถทำให้ชีวิตของตนเองประสบความสำเร็จได้เช่นเดียวกันอย่างเช่นตัวอย่างนักธุรกิจชั้นแนวหน้าของประเทศไทยหลาย ๆ คนเน้นการใช้ประสบการณ์มากกว่าใบปริญญาเพื่อเปิดทางให้แก่การทำธุรกิจของตนเอง หากมีโอกาสเรียนก็ต้องตั้งใจเรียนให้จบและเลือกสาขาวิชาที่คิดว่าและมีแนวโน้มการหางานเงินเดือนดี ๆ ให้ได้ แต่หากไม่มีโอกาสได้เรียนก็พยายามสร้างชีวิตที่ดีให้แก่ตนเองหาประสบการณ์ในการทำงานให้มากและเรียนต่อตามหลังเพื่ออนาคตที่ดีของตนเองก็ได้ ไม่มีใครสายเกินกว่าการเรียนอยู่แล้ว