การลงทุนเป็นเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ เพราะการที่ใครๆก็สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว ทำให้การลงทุนเป็นเรื่องง่าย แค่ปลายนิ้วสัมผัส แต่ผลของการลงทุนจะเป็นอย่างไรนั้นอีกเรื่องหนึ่ง การลงทุนทำได้มากมายแล้วแต่ความถนัดและความสนใจของนักลงทุน เป็นการรับผิดชอบสภาพการเงินส่วนตัวและสร้างคุณค่าให้กับเงินของเรา
บ้านและที่ดินเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่เกิด ตอนเด็กเราได้อยู่บ้านกับพ่อแม่ พ่อแม่มีที่ดินทำกิน ทำไร่ ทำนา ค้าขาย แต่เราก็ยังไม่ประสาว่า ที่ดินนั้นเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าอย่างไร โตขึ้นมาหน่อย บางคนอาจย้ายที่เรียนจากบ้านในชนบทมาสู่เมือง ก็ต้องมาเช่าพอพักอยู่ และเสียค่าเช่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ จนพอเรียนจบมหาวิทยาลัยออกมาทำงาน เห็นเพื่อนๆเล่นหุ้น เพื่อนบางคนซื้อคอนโดแล้วปล่อยให้คนอื่นเช่า “เอ๊ะ! ยังไงกัน แล้วเราจะเอาอะไรอย่างเขาบ้างได้ไหมเนี่ย”
ได้แน่นอน สิ่งที่ใกล้ตัวเรามาตั้งแต่เกิด จนโต แล้วก็เห็นเพื่อนๆทำกันนั่น เขาเรียกว่า การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์แปลง่ายๆว่ามันคือบ้าน ที่ดิน หรือทรัพย์ที่อยู่ติดกับที่ดิน เช่น คอนโดมิเนียม ห้องเช่า โรงงาน เป็นต้น เมื่อมันเป็นทรัพย์ ย่อมมีมูลค่า มีราคา ซื้อขายแลกเปลี่ยนกันได้ และยิ่งไปกว่านั้น บางอสังหาริมทรัพย์ สามารถเก็งกำไรได้ด้วย แต่โดยทั่วไป อสังหาริมทรัพย์สร้างผลตอบแทนให้เราได้หลักๆ 2 ทาง คือ
1 การขายอสังหาริมทรัพย์ที่เราครอบครองอยู่ออกไป
โดยปกติผืนดินในโลกนี้มีจำกัด แต่คนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีคนต้องการที่ดินเพิ่มขึ้น จะเพื่ออยู่อาศัย ทำการเกษตร สร้างโรงงาน หรืออื่นๆ เรียกว่ามีความต้องการเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา แต่ตัวสินค้ามีเท่าเดิม ในระยะยาวแล้ว ราคาจึงมีแต่ขึ้นกับขึ้น ถ้าเราไม่ได้ซื้อในช่วงฟองสบู่อสังหา โอกาสที่จะขายขาดทุนนั้นมีน้อยมาก สรุปผลตอบแทนข้อแรกที่ได้จากอสังหาริมทรัพย์ก็คือ เงินกำไรจากการขายบ้าน ที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์อื่นๆ
2 รายได้จากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์
บางคนเรียกวิธีนี้ว่า เสือนอนจริง ก็จริงอย่างเขาว่า เพียงลงทุนสร้างหอพัก ห้องเช่า จะไซด์เล็กหรือไซด์ใหญ่ได้ทั้งนั้น อาจหนักในการลงเงินครั้งแรก แต่ได้เก็บกินระยะยาว กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์นั้นก็ยังเป็นของเราอยู่ หรือถ้าเรามีที่ดินอยู่นอกเมือง ต่างจังหวัด ไม่เหมาะกับการอยู่อาศัย เราก็สามารถปล่อยให้คนเช่าที่ดินนั้นทำการเกษตรได้ ข้อดีของการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์คือ เราไม่ต้องเสียทรัพย์สินหรือที่ดินนั้นไป แต่ผลตอบแทนจะมาในรูปของน้ำซึมบ่อทราย ได้เรื่อยน้อยแต่รวยนาน หรือถ้าเรายังไม่พร้อมที่จะพัฒนาผืนดินตรงนั้น ก็ปล่อยให้ผู้อื่นทำประโยชน์ เราก็คอยดูลาดเลาและเก็บค่าเช่ากินไปก่อน เมื่อใดที่มีไอเดียบรรเจิด รอจนหมดสัญญาเช่า ก็ค่อยนำที่ดินผืนนั้นกลับมาพัฒนาด้วยตนเองได้
นอกจาก 2 วิธีทำเงินจากอสังหาริมทรัพย์ในข้างต้น เรายังสามารถเล่นกับอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างรายได้ช่องทางอื่นๆอีกมากมาย
เช่น ถ้าเรายังไม่มีเงินก้อนใหญ่ ยังไม่สามารถซื้อบ้านหรือซื้อคอนโดมีเนียมได้ เราก็อาจจะประกอบอาชีพนายหน้าซื้อขายบ้านและที่ดินไปพลางๆก่อนก็ได้ กลับเป็นข้อดีเสียด้วยซ้ำที่จะได้เรียนรู้และฝึกพื้นฐานหาประสบการณ์เกี่ยวกับวงการนี้ไปก่อน เพราะการที่จะสามารถมองหาที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ชิ้นงามนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ มักจะไม่ทันพวกเขี้ยวลากดินที่มีมาก่อนเรา การไปเป็นนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นการฝึกงาน เสมือนการซ้อมของนักกีฬา ฝึกจนวิชาแก่กล้าค่อยลงสนามจริงก็ยังไม่สาย เพราะอสังหาริมทรัพย์เป็นการเล่นกับเม็ดเงินค่อนข้างโต หากพลาดพลั้งก็จะเสียหาย ขาดทุนหนักได้เหมือนกัน
สำหรับผู้ที่หลงใหลในอสังหาริมทรัพย์จริงๆ ปัจจุบันมีโรงเรียนสอนในเรื่องธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วย และมีข้อมูลให้ค้นหาในอินเตอร์เน็ตมากมาย ค่อยๆเริ่มก้าวไป วันหนึ่งจะได้เป็นเจ้าพ่ออสังหา หรือเป็นราชาที่ดินก็ได้
อ่านเพิ่มเติม : เรียนอสังหาริมทรัพย์ ระดับปริญญาโท-เอก ที่ไหนดี ?