เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจนำไปสู่การสูญเสียเงิน และเสียเวลาภายหลัง ควรจะมีหลักหรือข้อคิดในการวางแผนก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ บ้าน หรือ คอนโดฯ, ทาวน์เฮาส์ ฯลฯ โดยคุณจะต้องมีการหาข้อมูล และตรวจสอบรายละเอียดรวมถึงทำความเข้าใจกับกฎหมายทางด้านอสังหาริมทรัพย์ให้เข้าใจ สำหรับหลายๆ คนที่มีความใฝ่ฝันอยาก จะเป็นเจ้าของบ้านหรือคอนโดสักหลัง แต่เนื่องจากบ้านและคอนโดในปัจจุบันถือเป็นทรัพย์สินที่มีราคาสูง ซึ่งก่อนที่จะ เลือกซื้อบ้าน หรือคอนโดฯ จะต้องศึกษารายละเอียดให้ดีๆ เพื่อที่จะไม่ทำให้ต้องเป็นหนี้สินเพิ่มขึ้น หรือตังค์ไม่พอใช้จ่ายในแต่ละเดือน จะต้องมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน
สำรวจความต้องการของตนเองและตั้งงบประมาณซื้อตามกำลังทรัพย์
ในการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ ผู้ซื้อจะต้องกำหนดความต้องการของตัวเองก่อนว่ามีบ้านในฝันแบบไหน การเลือกบ้านที่เหมาะสมควรเป็นไปตามกำลังและความสามารถในการผ่อนชำระ ต้องดูว่าอยากได้บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ หรือ คอนโดมิ เนียม ไม่ควรซื้อในราคาที่สูงเกินกำลัง ซึ่งในแต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกันไป แทนที่จะมีชีวิตสุขสบายกับบ้านหลังใหม่ อาจทำให้ต้องแบกรับภาระหนี้ในการผ่อนชำระต่อไปในอนาคตอีกสิบๆ ปี ไหนจะเป็นในเรื่องของการตกแต่งบ้าน ราคา รูปแบบ หรือเนื้อที่ใช้สอย เพราะตามปกติเมื่อคุณทำงานได้ตามเกณฑ์ทั่วไปที่ธนาคารกำหนด คือการทำงานต่อ เนื่องมาเป็นเวลา 2 ปี ก็อาจจะสามารถกู้ซื้อบ้านได้แล้ว แต่ถ้าหากซื้อบ้านที่มีราคาสูงเกินความสามารถ ก็อาจจะกลาย เป็นทุกข์เพราะเหน็ดเหนื่อยอย่างมากกับการตั้งหน้าตั้งตาหาเงินเพื่อมาทำการผ่อนชำระค่าบ้าน จนไม่มีเวลาได้พักผ่อนหรือใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนั้น ซึ่งค่าผ่อนบ้านในอัตราที่เหมาะสม คือประมาณ 25% ของรายได้ และมากสุด ไม่ควรเกิน 35% เพราะจะทำให้ภาระหนี้ตึงมือ และอาจทำให้บ้านหลุดมือไปได้
การพิจารณาการทำเลของที่ตั้งและราคาที่เหมาะสม
สิ่งแรกที่ผู้ซื้อจะต้องปฏิบัติหลังจากที่ผู้ซื้อประเมินกำลังเงินของตัวเองอย่างถี่ถ้วนแล้วว่า รายได้ของคุณหรือครอบครัวเหมาะสมที่จะซื้อที่อยู่อาศัยในประเภทไหน และจะกู้เงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงินได้โดยที่จะต้องสามารถผ่อนส่งได้โดยไม่เดือดร้อนครอบครัว แต่สิ่งที่ควรทำก็คือการหาข้อมูลเบื้องต้นของบ้านที่ต้องการซื้อ โดยอาจจะต้องดูจากการทำเลที่ตั้งที่สมาชิกในครอบครัวสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกหรือปลอดภัยที่สุด มาเป็นข้อพิจารณาอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปสถานที่ทำงาน หรือสถานศึกษาของสมาชิกที่อยู่ในครอบครัว และการคมนาคมที่มีระบบขนส่งรองรับทำให้การเดินทางเพื่อปฏิบัติภารกิจประจำวันมีความสะดวกรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งการเลือกทำเลที่ตั้งของบ้านจะ ต้องพิจารณาจากความเหมาะสมกับความต้องการหรือวิถีชีวิตของคนในครอบครัวเป็นหลัก
การเลือกโครงการให้มีความพอใจและสะดวกที่สุด
เมื่อผู้ซื้อได้ทำเลของบ้านหรือหมู่บ้าน ที่ต้องการแล้ว ในแต่ละทำเลจะมีโครงการที่ให้ผู้ซื้อสามารถเลือกได้อย่างมากมายทั้งโครงการขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก การพิจารณาเลือกโครงการและราคาที่เหมาะสม ซึ่งหากเป็นโครงการที่ดีควรจะมีสาธารณูปโภคและสาธารณูปการที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นถนน ไฟฟ้า ประปา ท่อระบายน้ำ โทรศัพท์ ที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายการจัดสรรที่ดินกำหนด รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ เช่น สระว่ายน้ำ สวนสาธารณะ ฯลฯ ตรงตามความต้องการของผู้ซื้อหรือไม่ ในบริเวณใกล้เคียงโครงการมีโรงเรียน โรงพยาบาล ศูนย์การค้าหรือสิ่งอำนวยความสะดวกหรือไม่ รวมถึงสภาพของแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกโครงการ เหมาะสมกับการอยู่อาศัยของสมาชิกในครอบครัวแค่ไหน ซึ่งการซื้อบ้านไม่จำเป็นต้องเป็นมือหนึ่งเสมอไป เพราะการซื้อบ้านมือสองจะทำให้ผู้ซื้อมีโอกาสต่อรองราคาได้มากกว่าบ้านมือหนึ่งและอาจได้บ้านดีแลละมีราคาถูกตามไปด้วย ขณะที่เหตุการณ์แบบนี้แทบไม่มีโอกาสเกิดขึ้นในโครงการบ้านใหม่ๆ ทำให้บ้านมือสองอาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับครอบก็ได้
การวางมัดจำ และการทำสัญญาซื้อขาย
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีกประการหนึ่งคือดูความน่าเชื่อถือของบริษัทหรือเจ้าของโครงการที่มีความน่าเชื่อถือ หรือมีประสบ การณ์ในการพัฒนาโครงการ ที่อยู่อาศัยมากน้อยเพียงไร ซึ่งการพิจารณาอาจดูจากประวัติชื่อเสียงและผลงานที่ผ่านมา เพื่อเป็นเครื่องรับประกันในขั้นต้นว่า คุณจะได้บ้านที่มีมาตรฐาน ที่มีทั้งความมั่นคงแข็งแรง และก่อสร้างบ้านให้ได้ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันอย่างตรงเวลา ในกรณีนี้ผู้ประกอบการหรือเจ้าของโครงการที่มีประสบการณ์และมีความเป็นมืออาชีพมากกว่าจะได้เปรียบกว่าเจ้าของโครงการหน้าใหม่ที่ยังไม่เคยมีผลงานในการก่อสร้าง โดยก่อนทำสัญญาจะซื้อ หรือสัญญาวางมัดจำ หากเป็นการซื้อบ้านพร้อมที่ดินคุณควรตรวจสอบสำเนาโฉนดทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ตรวจสอบทะเบียนบ้านเพื่อยืนยันสิทธิ์ความเป็นเจ้าของบ้าน หรือเจ้าของที่ดินเดิม แต่หากเป็นอาคารชุด หรือคอนโด อาจต้องดูสัญญาก่อน ส่วนเรื่องการวางเงินมัดจำ จะต้องขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อ และผู้ขาย ซึ่งจะมีเงื่อนไขต่าง ๆ ที่จะต้องระบุไว้ในเอกสารสัญญาอย่างชัดเจน
คนส่วนใหญ่นิยมกู้เงินมาซื้อบ้าน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านเป็นอัตราที่ถูกเมื่อเทียบกับเงินกู้ประเภทอื่นๆ ซึ่งการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านยังมีโอกาสได้สิทธิ์ลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้ได้อีก ในแง่การลงทุนนั้นยิ่งกู้ได้มากยิ่งดี เพราะคือการที่ไม่ต้องใช้เงินตัวเองในการลงทุน โดยหากใช้เงินก้อนจ่ายสดไปกับการซื้อบ้าน สู้นำไปลงทุนเพื่อเพิ่มพูนมูลค่าน่าจะดีกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองความคิดของแต่ละคนด้วย
อ่านเพิ่มเติม :อัพเดท ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน ไตรมาส 2 ปี 2559
