เมื่อการไป เปิดบัญชีเงินฝาก ธนาคารไม่ได้มีแค่เรื่องดอกเบี้ย แต่ยังมีเรื่องอื่นๆ อีกมากมายที่เราน่าจะต้องรู้ไว้ ซึ่งทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้รวบรวมเอาไว้ให้ บทความนี้จึงขอนำมาแบ่งปันกันอีกทางหนึ่ง
สิ่งที่เราจะต้องรู้อันดับแรกในการเลือกเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารสักที่ ก็คือ อัตราดอกเบี้ยและผลตอบแทนที่แท้จริง
ว่าธนาคารแต่ละแห่งหรือบัญชีเงินฝากแต่ละประเภทมีวิธีการคำนวณดอกเบี้ยแบบไหน มีความถี่ในการจ่ายอย่างไร และจำนวนวันที่ใช้คำนวณดอกเบี้ยเป็นเท่าไร ซึ่งเราก็สามารถหาข้อมูลมาเปรียบเทียบได้จากเว็บไซต์ของธนาคารต่างๆ
ต่อมาก็เป็นเรื่องของภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ที่บางคนอาจจะมองว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารที่เราได้นั้นมีเพียงเล็กน้อย จึงอาจจะไม่ได้สนใจเท่าไรนัก แต่ถ้าเรารู้กันไว้อย่างน้อยก็ดีว่า ดอกเบี้ยที่เราได้จากบัญชีเงินฝากธนาคารนั้นจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ของดอกเบี้ยรับทั้งหมด ภายใต้เงื่อนไขว่า ถ้าเราได้รับดอกเบี้ยจากเงินฝากออมทรัพย์รวมกันทุกบัญชีจากธนาคารเดียวกันมากกว่า 20,000 บาทภายในปีภาษี เราจะถูกธนาคารหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% และมีหนังสือแจ้งหัก ณ ที่จ่ายมาให้เรา แต่ถ้าเราได้รับดอกเบี้ยจากธนาคารหลายๆ ที่รวมกันมากกว่า 20,000 บาทภายในปีภาษี สิ่งที่เราจะต้องทำคือ เราจะต้องแจ้งแก่ธนาคารเพื่อให้ธนาคารหักภาษี ณ ที่จ่ายและออกหนังสือรับรองการหักภาษีมาให้เราสำหรับยื่นภาษีให้ถูกต้อง
อีกเรื่องที่จะลืมไปไม่ได้เลย ก็คือ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่มีกับบัญชีเงินฝากธนาคาร
ไม่ว่าจะค่าธรรมเนียมการทำบัตรเอทีเอ็ม บัตรเดบิต ค่าธรรมเนียมการรักษาบัญชีหากเรามีจำนวนเงินไม่ถึงขั้นต่ำตามที่ธนาคารกำหนด ค่าธรรมเนียมกรณีถอนเงินออกก่อนกำหนดเวลา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบัญชีเงินฝากประจำที่ให้ดอกเบี้ยสูงๆ หรือจะเป็นค่าธรรมเนียมอื่นๆ เช่น การโอนเงิน การขอ Statement การโอนเงินอัตโนมัติ การทำเรื่องขอตรวจสอบความถูกต้องกรณีทำรายการผ่านตู้ ATM เป็นต้น ซึ่งค่าธรรมเนียมต่างๆ นี้ เราสามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ของธนาคารได้อีกเช่นกัน หรือจะไปที่สาขาของธนาคารก็ได้เหมือนกัน
ต่อมาก็จะเป็นเรื่องการคุ้มครองเงินฝาก
ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกมาบังคับใช้ได้ไม่นานหรือประมาณปี 2555 ที่จะกำหนดเงื่อนไขสำหรับผู้มีบัญชีเงินฝากธนาคาร บัตรเงินฝาก และใบรับฝากเงินที่เป็นเงินบาทที่ฝากไว้กับธนาคารพาณิชย์ จะได้รับการคุ้มครองเงินฝากตามเงื่อนไขนี้เลย
แต่อย่าลืมนะว่าจะคุ้มครองเฉพาะเงินฝากธนาคารที่เป็นเงินบาทเท่านั้น เงินในหุ้น กองทุนรวม ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน พันธบัตร หุ้นกู้ เช็ค เงินฝากสหกรณ์ เงินลงทุนในกองทุนส่วนบุคคล หรืออะไรก็ตามที่ไม่ใช่เงินฝากธนาคารนั้น ไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายฉบับนี้
เรื่องสำคัญที่ต้องรู้ก่อนเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารอีกเรื่องก็คือ เราควรจะต้องใส่ใจในเรื่องการแจ้งข้อมูลที่อยู่ของเราให้ธนาคารทราบทุกครั้งเมื่อเรามีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่
เพราะถ้าธนาคารจะแจ้งข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของบัญชีเงินฝากธนาคารของเราตามที่อยู่ที่เราใช้เปิดบัญชี แต่ถ้าเราไม่แจ้’เปลี่ยนแปลงที่อยู่แล้วธนาคารติดต่อเราไม่ได้ ก็อาจจะทำให้เราไม่ทราบข่าวคราวความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีเงินฝากธนาคารของเราได้ ซึ่งบางครั้งอาจจะทำให้บัญชีเงินฝากธนาคารของเราเกิดความเสียหายก็เป็นได้
และเรื่องสุดท้ายอีกเรื่องเราควรจะต้องรู้ก่อนการเปิดบัญชีธนาคาร คือ การรับจ้างเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารให้กับคนอื่นนั้น
เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายที่มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำและทั้งปรับเลย รู้แบบนี้แล้วก็อย่าไปรับจ้างเปิดบัญชีให้กับคนอื่นเพื่อหวังเงินเพียงเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทหรือจะเป็นญาติพี่น้อง แล้วที่มาจ้างให้เราเปิดบัญชีให้ส่วนใหญ่แล้วไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ดีหรือเป็นเงินที่ถูกต้องสักเท่าไร เพราะถ้าเป็นเรื่องที่ดีและเป็นเงินที่ถูกต้องแล้วก็น่าที่จะต้องกล้าไปเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารด้วยตัวเอง กล้าให้ธนาคารตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินที่เอามาฝาก แล้วถ้าเกิดเราใจอ่อนไปเปิดบัญชีเงินฝากให้กับคนเสียแล้ว ก็ไม่ต้องตกใจว่าจะถูกจับหรือถูกปรับ เราเพียงแต่นำหลักฐานต่างๆ ไปแจ้งความไว้ก่อนและติดต่อกลับไปที่ธนาคารที่เราได้เปิดเงินฝากธนาคารไว้เท่านั้นเอง