ความเป็นมา และแบบธนบัตร แต่ละยุคสมัย สำหรับการออกธนบัตร ครั้งแรกเดขึ้นตั้งแต่เมื่อพุทธศักราช 2445 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีพระบรมราชโองการให้ตรา พระราชบัญญัติธนบัตรสยามรัตนโกสินทร์ศก 121 ขึ้นเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2445 ทั้งโปรดให้จัดตั้ง กรมธนบัตรในสังกัดกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ เพื่อทำหน้าที่ออกธนบัตรและรับจ่ายเงินขึ้นธนบัตร โดยเปิดให้ประชาชนนำเงินตราโลหะมาแลกเปลี่ยนเป็นธนบัตรตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2445 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ธนบัตรในระบบการเงินของไทยอย่างจริงจัง ต่อมาในรัชกาลพระบาท สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติเงินตรา ปี พ.ศ. 2471 ซึ่งกำหนดให้ธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ เป็นเงินตราของประเทศเพื่อใช้เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย
ทำให้ทราบว่าที่ผ่านมาในประเทศไทย มีการผลิตธนบัตรมาแล้วจนถึงปัจจุบันทั้งหมด จำนวน 16 แบบ และเริ่มมีพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เริ่มปรากฏในธนบัตร แบบที่ 9 และมีระยะเวลาการนำออกใช้นานกว่า 20 ปี ประชาชนจึงคุ้นเคยกับสีของธนบัตรแต่ละชนิดราคาจนยากที่จะเปลี่ยนแปลง ทำให้สีของธนบัตรแบบเก้ากลายเป็นต้นแบบของการ กำหนดสีของธนบัตรในปัจจุบัน
รายละเอียดและที่มาของลวดลายบนธนบัตร
ซึ่งการพิมพ์ธนบัตรแต่ละแบบจะมีความแตกต่างกันออกไป อย่างแบงค์100 ด้านเป็นพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้านหลังเป็นภาพเรือสุพรรณหงส์ และมีการเพิ่มเอกลักษณ์ความเป็นไทยด้วยการนำลายไทย และสถาปัตยกรรมไทยที่มีลักษณะโดดเด่นและเป็นศิลปะประจำชาติมาเป็นองค์ประกอบสำคัญของรายละเอียดในธนบัตร โดยมี 5 ชนิด คือ 5 บาท,10 บาท ,20 บาท , 100 บาท และ 500 บาท
ซึ่งธนบัตรบางชนิดจะมีจุดมุ่งหมายเพื่อเผยแผ่พระเกียรติคุณอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าที่ได้รับการถวายพระราชสมัญญาภิไธย “มหาราช” และได้เชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ที่ได้รับการเทิดพระเกียรติดังกล่าว มาเป็นภาพประธานด้านหลังของธนบัตร คือ 10 บาท 20 บาท และ 100 บาท ซึ่งการเปลี่ยนแปลงภาพและลวดลายในธนบัตรยังคงมีมาเรื่อยๆ แต่ยังคงมีจุดมุ่งหมายเป็นภาพเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์ไทย ตั้งแต่สมัยสุโขทัย ธนบุรี อยุธยา และรัตนโกสินทร์ ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณูปการแก่ประเทศชาติ โดยปัจจุบัน มี 5 ชนิดคือ 20 บาท 50 บาท 100 บาท 500 บาท และ 1,000 บาท
สิ่งที่ซ่อนอยู่ในธนบัตรที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
รายละเอียดของธนบัตรแบบ 16 ที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน คือ มีการสืบค้นข้อมูลในโลกออนไลน์แล้วพบว่า เคยมีผู้เขียนบทความเกี่ยวกับคำสอนที่แฝงอยู่ในธนบัตร มีความน่าสนใจไว้ หลายเรื่อง ซึ่งคุณเชื่อไหมว่า….คำสอนของพ่อหลวงของเราอยู่กับทุกๆ คน และทุกๆ ที่ ทุกๆวัน ไม่ว่าคุณจะยาก ดีหรือ มี จน และรวยล้นฟ้ามาจากไหน แต่ความรักความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผู้ซึ่งเป็นพ่อหลวงของแผ่นดิน พ่อหลวงของชาวไทย ก็ยังคงติดตามคอยแนะนำ และสั่งสอนด้วยความรัก มีความเป็นห่วง ต่อลูกๆมานานหลายยุค หลายสมัย
ในขณะที่หลายคนคงนั่งหมดอาลัยตายอยากกับอนาคตของประเทศชาติ ด้วยการจากไปของพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ลองหยิบแบงค์ 20 บาท ออกมานั่งมองดูและสำรวจสักใบสองใบสิ นอกจากจะได้เห็นรูปพ่อหลวง ที่แบงค์ใบนั้นแล้ว เชื่อว่าหลายคนอาจจะคิดเหมือนๆ กัน อยากจะรู้ว่าป่านนี้ท่านจะทรงพระบรรทมได้ไหมหนอ แล้วเวลานี้ท่านจะระทมพระทัยแค่ไหนที่ลูกๆ ชาวไทยร้องไห้กันทั่วประเทศต่อการจากไปของพ่อ หรือจะกำลังเครียดกับพวกลูกๆ ที่กำหลังหลงทาง มองไม่เห็นรอยเท้าของพระองค์ท่านซึ่งพระองค์ท่านจะเศร้าพระทัยแค่ไหนนะ
พระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัวบนหลังธนบัตร
แบงค์ 20 บาท เมื่อพินิจดูอย่างละเอียด ลองพลิกแบงค์กลับไปกลับมา คุณจะได้พบกับ “คำสอนของพ่อ…….. และหากพลิกดูแบงค์ใบอื่นๆที่เหลือ ก็จะพบข้อความเช่นเดียวกัน
อย่างรัชกาลที่๘ ท่านทรงสอนเรื่อง “ความซื่อสัตย์สุจริต” บนแบงค์ 20 บาท
ส่วนเสด็จพ่อ ร.๕ สอนเรื่อง “การมีทาสเป็นตัวกีดขวางทางเจริญของประเทศ” บนแบงค์ 100 บาท
สำหรับ รัชกาลที่ ๓ สอนว่า “จงเลือกเรียนรู้สิ่งดี ๆ เอาไว้ เรียกว่า เอาเยี่ยงได้ แต่อย่าเอาอย่าง” บนแบงค์ 500 บาท
และ พ่อหลวงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ สอนว่า “เศรษฐกิจพอเพียง คือ เศรษฐกิจที่ใช้จ่ายพอดี ไม่ประหยัดเกินไป และไม่ฟุ่มเฟือยเกินไป” บนแบงค์ 1,000 บาท
ซึ่งพ่อหลวงของชาวไทย แต่ละพระองค์ได้ทรงสอนสิ่งที่ดีแก่เราและทรงแนะในสิ่งที่ถูกต้องแก่เรา ด้วยความรัก ซึ่ง”พระราชดำรัสของในหลวง” ที่แต่ละรัชกาลได้ทรงสอนและให้ข้อคิดบนธนบัตร ลองอ่านแล้วคิด คิดแล้ว หากเห็นว่า เป็นสิ่งดี ดีก็นำมาปฏิบัติ และเมื่อปฏิบัติแล้วเกิดปีติสุข ก็จงเผื่อแผ่ถึงผู้อื่นด้วย ซึ่งความพอเพียงของพ่อหลวง รัชกาลที่ ๙ สอนไว้คือ ประหยัด อดออม และมัธยัสถ์ ซึ่งเศรษฐกิจพอเพียงอยู่ใกล้ชิดกับเราใน ธนบัตร 1,000 บาท เวลาจะใช้จ่ายเงินอาจทำให้ต้องคิดตลอดเวลา เพราะในธนบัตร 1,000 บาท มีพระราชดำริของในหลวงอยู่ พระองค์ทรงสอนเราทุกคนก็จริงแต่อาจจะยังไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง เพราะในธนบัตร จะมีทั้งพระราชดำรัส และภาพต่างๆ ที่แสดงถึงเศรษฐกิจพอเพียงที่พระองค์ทรงอยากให้พวกเราปฏิบัติตาม เพื่อความสงบสุขของประชาชน และในภาพทรงฉลองพระองค์เป็นภาพทรงงานมีแผนที่ กล้องถ่ายภาพ ทรงไปทุกพื้นที่เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่ราษฎร ที่ทุรกันดารแบบไม่เคยย่อท้อ
การที่คำสอนของพ่อหลวง ร.๙ มาอยู่ในแบงค์พัน เพราะเป็นหน่วยธนบัตรที่ใหญ่ที่สุดและหากจะใช้จ่ายเงินทองออกไปควรที่จะคิดให้ดีๆ ก่อนที่จะใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยนอกเหนือเกินความจำเป็น แม้คนส่วนมากรู้แค่มูลค่าของมัน แต่จะมีสักกี่คนที่รู้คุณค่าของธนบัตรแบงค์พันนี้”