ปัจจุบันอัตราการเกิดของเด็กลดลงทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย สาเหตุที่คนไทยนิยมมีลูกน้อยลง อาจเป็นเพราะเรื่องเศรษฐกิจ บางครอบครัวต้องการมีลูกน้อยๆ เพื่อจะเลี้ยงลูกได้อย่างมีคุณภาพมากที่สุด สังคมทุกวันนี้อยู่ยาก แข่งขันสูง ค่าครองชีพยิ่งสูงกว่าสมัยก่อนมาก บางครอบครัวรายได้ไม่พอกับรายจ่าย พ่อแม่บางคนมัวแต่ทำงาน ไม่มีเวลาเอาใจใส่ลูกๆ ปล่อยลูกเรียนรู้ชีวิตและเติบโตไปกับสื่อ ที่บางครั้งก็ไม่มีคุณภาพ ส่งผลต่อเด็กๆโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดังนั้นพ่อแม่จึงต้องมีเวลามาเอาใจใส่ลูกให้พอเพียง ไม่ใช่เลี้ยงแบบทิ้งขว้าง การใช้จ่ายเงินของเด็กเป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญและถ้าได้รับการปลูกฝังที่ดีและถูกต้องแล้ว นิสัยนี้จะติดตัวเด็กไปจนโต การจะปลูกฝังสิ่งใดให้กับลูกๆ ต้องเข้าใจนิสัยพื้นฐานของเขาด้วย ในทางจิตวิทยาพบว่า ลำดับการเกิดของลูกแต่ละคน มีผลต่อนิสัยการใช้เงินของลูกๆ ไม่มากก็น้อยดังนี้
ลูกคนโต
มักจะถูกคาดหวังจากพ่อแม่ ไปถึงปู่ย่า ตายาย เนื่องจากเป็นลูกคนแรก หลานคนแรก เป็นประสบการณ์ใหม่ของครอบครัว ทุกคนก็จะมุ่งความคาดหวังจากลูกคนโต ประมาณเห่อลูก เห่อหลาน สิ่งใดที่ผู้ใหญ่ผิดหวัง ก็จะมาแก้ตัวที่ลูกคนนี้นี่แหละ ทำให้ลูกคนโต จะดูเป็นผู้ใหญ่ ยึดมั่นคำสอนของพ่อแม่ มีระเบียบวินัย ตั้งใจเรียน พ่อแม่จะวางใจลูกคนนี้มากเป็นพิเศษ มอบหน้าที่ในการดูแลน้องๆให้ แต่ด้านลบ ลูกคนโตอาจดูเผด็จการ หน้าใหญ่ใจโต นิสัยการใช้เงินอาจใช้เพื่อเสริมสร้างภาพพจน์ให้กับตนเอง แต่อีกมุมหนึ่งก็จะรู้จักหา รู้จักรับผิดชอบประมาณว่า ใช้เงินเก่ง แต่ก็หาเงินเก่งด้วย เพราะจะมีความรู้สึกว่า ตัวเองถูกคาดหวังให้เป็นที่พึ่งของครอบครัว ของพ่อแม่ และน้องๆ จึงขวนขวาย เพื่อให้ประสบความสำเร็จ พ่อแม่ก็ต้องเข้าใจลูก ว่าเขาจำเป็นต้องเสริมภาพพจน์ให้ตนเอง ต้องเจ้าระเบียบกับน้องๆบ้าง ก็อย่าไปบ่นเรื่องการใช้จ่ายกับลูกคนนี้มากนัก
ลูกคนกลาง
พ่อแม่จะใส่ใจน้อยกว่าลูกคนโตกับคนเล็ก จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ทำให้ลูกคนกลางค่อนข้างน้อยเนื้อต่ำใจ คิดว่าพ่อแม่ไม่รัก แต่ในท้ายที่สุดพบว่าลูกคนกลางมักจะเป็นลูกที่ได้ดีกว่าใครๆในบ้าน ตามสถิติเขาว่าไว้แบบนั้น เมื่อพ่อแม่ไม่ค่อยสนใจ ลูกคนกลางจึงต้องพัฒนาทักษะการเข้าสังคม และมีเพื่อนฝูงเยอะ เวลาทำงานก็พยายามตั้งใจ เพราะอยากให้พ่อแม่เห็นถึงความสำคัญบ้าง ประมาณว่าจะคอยระวังตัวเองทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้เรื่องเงิน อยากได้อะไรก็จะขวนขวายเอง ไม่ค่อยรบกวนพ่อแม่ คนเป็นพ่อแม่ก็ต้องหมั่นถามไถ่ลูกคนกลางเรื่องการจะซื้อหาอะไรให้เขาบ้างตามสมควร เพราะเขาไม่ค่อยอยากรบกวนพ่อแม่ บางครั้งอาจเผลอหลงผิดไปหาเงินในทางมิชอบก็เป็นได้ เรื่องเพื่อนฝูงก็อย่าบ่นว่าเขามาก เป็นธรรมชาติของเขาที่ต้องสร้างมนุษย์สัมพันธ์ขึ้นมาทดแทนการที่พ่อแม่อาจจะใส่ใจเขาน้อยกว่าคนอื่นๆ
ลูกคนเล็ก
ส่วนใหญ่จะเอาแต่ใจ เพราะเป็นลูกคนสุดท้อง และในช่วงนี้ฐานะของครอบครัวน่าจะดีขึ้น พ่อแม่จึงหย่อนวินัยและไม่เข้มงวดกับลูกคนเล็กมาก จึงดูเอาแต่ใจตั้งแต่เด็กใช้เงินเก่ง อยากได้ของเล่นใหม่ๆเรื่อย ขี้เบื่อ เพราะขออะไรก็ได้เสมอ พ่อแม่จึงต้องรู้ตัวเองว่า การให้ที่มากเกินไป อาจเป็นการทำร้ายลูก แม้ลูกคนเล็กจะขี้เล่น ขี้เอาใจ เรียนเก่ง เลียนแบบความสามารถหลายๆอย่างจากพี่ๆ แต่ต้องปลูกฝังเรื่องการใช้จ่าย อย่าให้อะไรแบบง่ายเกินไป เพราะจะทำให้เขาไม่พยายามเท่าที่ควรเมื่อโตขึ้นและต้องหาเงินเอง
ที่กล่าวมาทั้งหมด ใช่ว่าจะเป็นกับลูกแบบนี้ทุกคน เพียงแต่เป็นการกล่าวถึงอย่างกว้างๆ ตามหลักจิตวิทยาพื้นฐาน ลูกคนเล็กบางคนอาจไม่เอาแต่ใจตัวเองก็ได้ ลูกคนกลางเป็นคนชอบเก็บตัวก็ได้ ลูกคนโตอาจไม่ได้เป็นผู้นำเสมอไป แต่ถึงอย่างไร พ่อแม่ก็ต้องใส่ใจเรื่องวินัยการเงินกับลูกอย่างเคร่งครัด เพราะปัจจุบันปัญหาทางหนี้สิน และสิ่งล่อตาล่อใจนั้นมีมากมาย ต้องสอนลูกให้รู้จักหา รู้จักใช้ และรู้จักเก็บ ปฏิบัติให้ติดเป็นนิสัย เพื่อจะได้ดำเนินชีวิตให้เป็นปกติสุข ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับตนเองและผู้อื่น
อ้างอิงผลการวิจัยจาก http://www.parents.com/baby/development/social/birth-order-and-personality/