ติดบูโร กู้ร่วมได้มั้ย มีขั้นตอนยังไงให้เพิ่มโอกาสอนุมัติ
หากคุณกำลังมองหาทางเลือกในการกู้เงินเพื่อซื้อบ้าน หรือรถยนต์ แต่ยังกังวลเรื่องคุณสมบัติ และความสามารถในการผ่อนชำระ การกู้ร่วม อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา แต่การกู้ร่วมคืออะไรกันแน่? และถ้าหากคุณมีประวัติ ติดบูโร กู้ร่วมได้มั้ย บทความนี้จะไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการกู้ร่วมอย่างละเอียด ทั้งในกรณีของสินเชื่อบ้าน และสินเชื่อรถยนต์ สำหรับการกู้ร่วมกับผู้ติดเครดิตบูโร
การกู้ร่วม คืออะไร
การกู้ร่วม หรือที่เรียกอีกอย่างว่า “สินเชื่อร่วม” คือการที่มีผู้กู้มากกว่าหนึ่งคนในสัญญาเงินกู้เดียวกัน โดยทั่วไปมักจะเป็นการกู้ร่วมกันระหว่างสมาชิกในครอบครัว เช่น สามี-ภรรยา พ่อแม่-ลูก หรือพี่น้อง แต่ก็สามารถกู้ร่วมกับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ญาติได้เช่นกัน
ข้อดีของการกู้ร่วม
- เพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ เมื่อมีผู้กู้หลายคน ธนาคารจะพิจารณารายได้รวมของทุกคน ทำให้มีโอกาสผ่านเกณฑ์การอนุมัติมากขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้กู้หลักมีรายได้ไม่เพียงพอตามเกณฑ์ของธนาคาร
- วงเงินกู้สูงขึ้น ด้วยรายได้รวมที่มากขึ้น คุณอาจได้รับวงเงินกู้ที่สูงกว่าการกู้เดี่ยว ทำให้สามารถซื้อบ้านหรือรถยนต์ในราคาที่สูงขึ้นได้
- ภาระผ่อนชำระน้อยลง เมื่อมีผู้รับผิดชอบหลายคน ภาระในการผ่อนชำระก็จะแบ่งเบาลง ทำให้แต่ละคนมีความสามารถในการผ่อนชำระที่ดีขึ้น
- ลดความเสี่ยงให้กับสถาบันการเงิน การมีผู้กู้หลายคนช่วยกระจายความเสี่ยงให้กับธนาคาร ทำให้มีโอกาสได้รับอนุมัติสูงขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้กู้แต่ละคนมีจุดแข็งที่แตกต่างกัน เช่น คนหนึ่งมีรายได้สูง อีกคนมีความมั่นคงในอาชีพ
ข้อควรระวังของการกู้ร่วม
- ความรับผิดชอบร่วมกัน ทุกคนที่ชื่ออยู่ในสัญญาต้องรับผิดชอบหนี้ร่วมกัน หากมีใครไม่สามารถผ่อนชำระได้ คนอื่นๆ ต้องรับภาระแทน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างผู้กู้ร่วมในระยะยาว
- ผลกระทบต่อเครดิต หากเกิดการผิดนัดชำระ ทุกคนในสัญญาจะได้รับผลกระทบต่อประวัติเครดิตเช่นกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อการขอสินเชื่อในอนาคต
- ความสัมพันธ์อาจเปลี่ยนแปลง การเงินอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างผู้กู้ร่วมได้ โดยเฉพาะหากเกิดปัญหาในการชำระหนี้ ดังนั้นควรมีการตกลง และวางแผนการชำระหนี้ร่วมกันอย่างชัดเจนก่อนตัดสินใจกู้ร่วม
ติดบูโร กู้ร่วมได้มั้ย ?
คำถามนี้เป็นที่สงสัยของหลายคนที่มีประวัติทางการเงินไม่ดีนัก คำตอบคือ “อาจเป็นไปได้” แต่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้
- ระดับความรุนแรงของการติดบูโร
หากเป็นการติดบูโรเพียงเล็กน้อย เช่น เคยจ่ายบิลล่าช้าไม่กี่ครั้ง อาจยังมีโอกาสในการกู้ร่วมได้ แต่หากเป็นการติดบูโรที่รุนแรง เช่น มีประวัติการผิดนัดชำระหนี้เป็นเวลานาน โอกาสในการกู้ร่วมก็จะน้อยลง ทั้งนี้ ธนาคารจะพิจารณาจากรายงานเครดิตบูโรที่แสดงประวัติการชำระหนี้ย้อนหลัง 3-5 ปี
- คุณสมบัติของผู้กู้ร่วม
หากผู้กู้ร่วมมีประวัติเครดิตที่ดี มีรายได้มั่นคง และมีความสามารถในการชำระหนี้สูง ก็อาจช่วยให้โอกาสในการอนุมัติสินเชื่อเพิ่มขึ้น แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีประวัติติดบูโร โดยธนาคารอาจพิจารณาให้ผู้กู้ร่วมที่มีคุณสมบัติดีเป็นผู้กู้หลัก และให้ผู้ที่มีประวัติติดบูโรเป็นผู้กู้ร่วมรอง
- นโยบายของสถาบันการเงิน
แต่ละธนาคารหรือสถาบันการเงินมีนโยบายการพิจารณาสินเชื่อที่แตกต่างกัน บางแห่งอาจมีความยืดหยุ่นมากกว่า ในขณะที่บางแห่งอาจมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด ดังนั้น การเปรียบเทียบเงื่อนไขจากหลายๆ สถาบันการเงินจึงเป็นสิ่งสำคัญ
- ประเภทของสินเชื่อ
สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อรถยนต์มีความแตกต่างกันในแง่ของความเสี่ยง และหลักประกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อการพิจารณาอนุมัติ โดยทั่วไป สินเชื่อบ้านมักจะมีโอกาสได้รับการอนุมัติมากกว่า เนื่องจากมีหลักประกันที่มีมูลค่าสูงกว่า
กรณีกู้ร่วมซื้อบ้าน
สำหรับสินเชื่อบ้าน การกู้ร่วมอาจเป็นทางออกสำหรับผู้ที่มีประวัติติดบูโร แต่มีข้อควรพิจารณา ดังนี้
- มูลค่าหลักประกัน บ้านถือเป็นหลักประกันที่มีมูลค่าสูง ทำให้ธนาคารอาจพิจารณาให้สินเชื่อได้แม้ว่าผู้กู้บางคนจะมีประวัติติดบูโร โดยธนาคารจะประเมินมูลค่าบ้าน และที่ดินเพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาวงเงินกู้
- สัดส่วนการกู้ ธนาคารอาจลดสัดส่วนวงเงินกู้ต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ลง เพื่อลดความเสี่ยง เช่น จากปกติที่อาจให้กู้ได้ 80-90% ของมูลค่าบ้าน อาจลดลงเหลือ 70-75% ในกรณีที่มีผู้กู้ร่วมติดบูโร
- อัตราดอกเบี้ย อาจได้รับอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าปกติ เนื่องจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น โดยอาจสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยปกติประมาณ 0.5-1% ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร
- เงื่อนไขพิเศษ ธนาคารอาจกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม เช่น การทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินกู้ หรือการวางเงินประกันเพิ่มเติม เพื่อลดความเสี่ยงของธนาคาร
กรณีกู้ร่วมซื้อรถยนต์
สำหรับสินเชื่อรถยนต์ การกู้ร่วมเมื่อติดบูโรอาจทำได้ยากกว่าสินเชื่อบ้าน เนื่องจาก
- มูลค่าหลักประกันต่ำกว่า รถยนต์มีมูลค่าต่ำกว่าบ้าน และมีการเสื่อมราคาเร็วกว่า ทำให้ธนาคารอาจระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่มีผู้กู้ร่วมติดบูโร
- ระยะเวลาผ่อนชำระสั้นกว่า สินเชื่อรถยนต์มักมีระยะเวลาผ่อนชำระที่สั้นกว่าสินเชื่อบ้าน ทำให้ภาระการผ่อนต่อเดือนสูงกว่า ธนาคารจึงอาจพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้อย่างเข้มงวดมากขึ้น
- ทางเลือกอื่น สำหรับรถยนต์ อาจมีทางเลือกอื่นเช่นการเช่าซื้อหรือลีสซิ่ง ซึ่งอาจมีเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นกว่าการกู้จากธนาคารโดยตรง บริษัทเช่าซื้อหรือลีสซิ่งบางแห่งอาจมีนโยบายที่ผ่อนปรนมากกว่าในการพิจารณาผู้กู้ที่มีประวัติติดบูโร
- การพิจารณารายได้ สถาบันการเงินมักจะพิจารณารายได้ และความสามารถในการผ่อนชำระอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเมื่อมีประวัติติดบูโร โดยอาจกำหนดให้ภาระการผ่อนต่อเดือนไม่เกิน 25-30% ของรายได้รวมของผู้กู้ร่วมทั้งหมด
- ดาวน์สูงขึ้น ในกรณีที่มีผู้กู้ร่วมติดบูโร สถาบันการเงินอาจเรียกเงินดาวน์ในสัดส่วนที่สูงขึ้น เช่น จากปกติที่อาจเรียกดาวน์ 10-20% อาจเพิ่มเป็น 25-30% ของราคารถ เพื่อลดความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ
- อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น เช่นเดียวกับสินเชื่อบ้าน อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อรถยนต์ในกรณีที่มีผู้กู้ร่วมติดบูโรอาจสูงกว่าปกติ โดยอาจสูงขึ้น 1-2% จากอัตราดอกเบี้ยปกติ
ขั้นตอนการกู้ร่วมสำหรับผู้ที่ติดบูโร
หากคุณหรือผู้กู้ร่วมมีประวัติติดบูโร แต่ยังต้องการขอสินเชื่อร่วม มีขั้นตอนที่ควรทำ ดังนี้
- ตรวจสอบเครดิตบูโร ขอรายงานเครดิตจากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (NCB) เพื่อดูรายละเอียดประวัติการชำระหนี้ การตรวจสอบนี้จะช่วยให้คุณทราบสถานะปัจจุบันของเครดิต และสามารถวางแผนการแก้ไขได้อย่างเหมาะสม
- ชำระหนี้ค้าง หากมีหนี้ค้างชำระ ให้รีบดำเนินการชำระให้เรียบร้อย การชำระหนี้ค้างจะช่วยปรับปรุงประวัติเครดิตให้ดีขึ้น แม้ว่าประวัติการผิดนัดชำระจะยังคงปรากฏในรายงานเครดิตเป็นระยะเวลาหนึ่ง
- เตรียมเอกสารให้พร้อม รวบรวมเอกสารที่แสดงถึงรายได้ ความสามารถในการชำระหนี้ และหลักฐานการปรับปรุงสถานะทางการเงิน เช่น
- สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน
- หนังสือรับรองการทำงานจากนายจ้าง
- เอกสารการเงินอื่นๆ เช่น บัญชีเงินฝาก หลักฐานการลงทุน
- หลักฐานการชำระหนี้ที่ตรงเวลาในช่วงที่ผ่านมา (ถ้ามี)
- หาผู้กู้ร่วมที่มีคุณสมบัติดี ชักชวนบุคคลที่มีประวัติเครดิตดี รายได้มั่นคง มาเป็นผู้กู้ร่วม โดยอธิบายสถานการณ์ และแผนการชำระหนี้อย่างชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้กู้ร่วม
- เปรียบเทียบข้อเสนอ สอบถามเงื่อนไขสินเชื่อจากหลายๆ สถาบันการเงิน เพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุด โดยพิจารณาทั้งอัตราดอกเบี้ย วงเงินกู้ ระยะเวลาผ่อนชำระ และเงื่อนไขอื่นๆ ประกอบกัน
- เจรจากับสถาบันการเงิน อธิบายสถานการณ์ และแสดงความตั้งใจในการปรับปรุงสถานะทางการเงิน พร้อมนำเสนอแผนการชำระหนี้ที่ชัดเจน และเป็นไปได้ บางครั้งการสื่อสารที่ดีกับเจ้าหน้าที่สินเชื่ออาจช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติ
- วางแผนการชำระหนี้ระยะยาว หากได้รับอนุมัติสินเชื่อ ควรวางแผนการชำระหนี้อย่างรัดกุม โดยอาจพิจารณา
- การตั้งระบบหักบัญชีอัตโนมัติเพื่อป้องกันการลืมชำระ
- การสร้างเงินออมฉุกเฉินเพื่อรองรับสถานการณ์ไม่คาดคิด
- การหารายได้เสริมเพื่อเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้
- ติดตาม และปรับปรุงเครดิตอย่างต่อเนื่อง แม้จะได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว ควรติดตาม และพยายามปรับปรุงเครดิตให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อหรือปรับเงื่อนไขสินเชื่อที่ดีขึ้นในอนาคต
คงได้คำตอบแล้วว่าติดบูโร กู้ร่วมได้มั้ย คำตอบคือมีโอกาสกู้ได้อยู่ และยังการกู้ร่วมยังเป็นทางเลือกที่อาจช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับสินเชื่อสำหรับผู้ที่มีประวัติติดบูโร แต่ก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบ และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น การตัดสินใจกู้ร่วมควรผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ของทุกฝ่าย และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว สำหรับผู้ที่มีประวัติติดบูโร การปรับปรุงประวัติเครดิตอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการชำระหนี้ตรงเวลา การลดภาระหนี้สิน หรือการสร้างวินัยทางการเงิน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับสินเชื่อ และเงื่อนไขที่ดีขึ้นในอนาคต