มีอีกหลายคนที่ทนกับกิเลสที่ยั่วยุไม่ไหว เวลาที่ไปงานมอเตอร์โชว์ ทำให้ต้องตัดสินใจอยากจะออกรถป้ายแดงแบบมีใครมาฉุดรั้งไว้ก็คงเอาไม่อยู่แล้ว อาจจะเป็นเพราะมีโปรโมชั่น ลด แลก แจกแถม หรือเป็นรุ่นใหม่ เป็นรถในฝัน เป็นอะไรต่อมิอะไรที่ฟังแล้วรู้สึกเคลิ้มจนอดใจไม่ไหว ทำให้ต้องรีบคว้าใบจองมา ณ บัดนาว และเมื่อถึงเวลาที่ต้องจ่ายเงินดาวน์ไปแล้ว และเมื่อสติกลับคืนมาอาจจะทำให้คิดได้ว่า ทำอะไรลงไป ทำไมต้องรีบจองขนาดนั้น แถมรถคันเก่าก็ยังผ่อนไม่หมด ยังจะหาหนี้มาเพิ่มอีก บลาๆๆ ฯลฯ ซึ่งแม้จะยังไม่ได้รับรถแต่จ่ายเงินดาวน์ไปแล้วทำให้มีความคิดว่าอยากจะยกเลิกไฟแนนซ์ได้หรือไม่นะ ?? ที่สำคัญจะได้เงินดาวน์คืนไหม เพราะส่วนใหญ่แล้วเงินจองจะอยู่ที่ขั้นต่ำประมาณ 5,000 บาท ส่วนเงินดาวน์ ก็อาจจะเท่ากันหรือมากกว่านี้ไม่เท่าไหร่ แล้วแต่ข้อตกลงหรือ โปรโมชั่นในงาน
เงินจองหรือเงินดาวน์ ถือว่าเป็นราคารถที่ผู้เช่าซื้อได้มีการชำระล่วงหน้า เพราะได้รับอนุมัติจากไฟแนนซ์หลังจากได้ทำ สัญญาเช่าซื้อกับไฟแนนซ์ และหากลูกค้ามีความต้องการจะยกเลิกสัญญาเช่าซื้อ ซึ่งทางไฟแนนซ์ไม่ได้มีความผิดใด ๆ ว่ากัน ตามสัญญาแล้ว คุณสามารถใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาได้ แต่หากไฟแนนซ์เสียหายคุณก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ไฟแนนซ์สำหรับความเสียหายนั้น ในเรื่องของการจ่ายค่าจอง หรือเงินดาวน์นั้น เมื่อคุณทำการบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อไฟแนนซ์จำต้องคืนเงินดาวน์หลังจากหักค่าเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของมาตรา 391 เมื่อคู่สัญญาฝ่ายหนึ่ง หรือลูกค้าได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม แต่จะให้เป็นที่เสื่อมเสียแก่สิทธิของบุคคลภายนอกนั้นหาได้ไม่ สำหรับเงินที่จะต้องใช้คืนในกรณีดังกล่าว ก็ให้บวกดอกเบี้ยเข้าด้วย โดยคิดตั้งแต่เวลาที่ได้รับไว้ ในส่วนที่เป็นการงานอันได้กระทำให้และเป็นการยอมให้ใช้ทรัพย์ และในการที่จะชดใช้คืน ให้ทำได้ด้วยการใช้เงินตามควรค่าแห่งการนั้นๆ หรือหากในสัญญามีกำหนดว่าให้ใช้เงินตอบแทน ก็ให้ใช้ตามนั้น ส่วนการใช้สิทธิเลิกสัญญา หา กระทบกระทั่งถึงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายไม่
หากมีการจองรถไปแล้ว ต้องการรับเงินจองคืนได้ไหมนะ??
ในกรณีที่คุณไปจองรถและทำสัญญาไฟแนนซ์เรียบร้อย แต่มีความประสงค์จะยกเลิกสัญญาประมาณว่า ไม่เอารถแล้วและได้โทรแจ้งกับเซลล์ว่าจะยกเลิก เมื่อเซลล์รับทราบ แต่แบงค์อนุมัติแล้ว จะต้องทำอย่างไรดีหลังจากนี้จะสามารถขอเอกสารคืนได้หรือไม่อย่างกรณีจองรถยนต์ไป 5000 บาท พร้อมมอบเอกสารต่างๆ ไปแล้วเพื่อรอไฟแนนซ์ทำการพิจารณา.โดยปัจจุบันไฟแนนซ์ให้ผ่านและเรียกไปทำสัญญา แต่ต่อมาไม่ต้องการรถแล้ว จะบอกยกเลิกจะผิดกฎหมาย หรือติดแบลคลิสต์รึเปล่า และจะขอเงินจอง คืนจะได้ไหม ???
เชื่อว่าคนที่อยากจะได้รถมากๆ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็มีรถอยู่แล้ว แต่อยากจะได้รถคันใหม่เพิ่ม จึงทำเรื่องจอง พร้อมรอการอนุมัติเพื่อที่จะให้เรื่องผ่านและจะได้รับรถไวๆ หลังจากเริ่มคิดได้ ทำให้รู้สึกว่าเหมือนจะมีภาระเพิ่มขึ้นมาอีก พร้อมกับถามความจำเป็นกับตัวเองหลายๆ ครั้ง อาจไม่ได้คำตอบใดๆ ซึ่งหากปรากฏว่าเซลล์โทรมาบอกว่าเรื่องผ่านแล้ว จึงได้โทรมานัดวันรับรถ อันดันแรกเชื่อว่าคุณคงจะบอกปัดๆไป สรุปว่าบอกหลายครั้งก็เริ่มจะรำคาญทั้งตัวเองและเซลล์ ทำให้สุดท้ายเลยต้องยกเลิกเอง ด้วยการยกเรื่องอนุมัติการทำเรื่องขอซื้อรถซึ่งส่วนใหญ่ที่ไม่อยากเสียเวลา มักจะยอมเสียค่าดาวน์ หรือค่ามัดจำ ค่าจองไป เรียกว่าให้ยึดกันไปข้างนึงเลยทีเดียว
กรณีที่ยื่นเรื่องผ่านแล้วและอยากจะขอยกเลิกสัญญาการจองรถ คือไม่เอาแล้วและต้องการที่จะขอเงินจองคืน มองแบบทั่วไป คงไม่มีทางที่จะได้เงินจองคืนแน่นอน เพราะว่าเซลล์เองก็พยายามเดินเรื่องมาให้จนถึงที่สุดแล้ว นอกจากว่าจะมีการตกลงก่อนจองเป็นลายลักษณ์อักษร ว่าบริษัทจะคืนเงินจองทุกกรณี ส่วนจะเจอแจ็คพอร์ตเข้าที่ใด สาขาไหน ที่อาจจะมีการทำสัญญาขึ้นมา ซึ่งต้องดูว่า ตกลงไว้ว่าอย่างไรให้ดูสัญญาดีกว่า หรือรอตีกลับเป็นเช็ค ไม่เกิน 15 วัน ที่สำคัญคือก่อนทำการเซ็นต์สัญญาจองรถจะต้องดูในใบจองด้วยว่าเงื่อนไขการคืนเงินมีหรือไม่คืนเงินจองรถได้มีการระบุอะไรไว้บ้าง โดยส่วนมากบางยี่ห้อระบุไว้ชัดเจนในใบจองว่า หากผ่านแล้วผู้ซื้อบอกเลิกสัญญาการจองถือว่าผิดเงื่อนไขและไม่สามารถขอคืนเงินจองได้
ที่หลายคนยกเลิกสัญญาคืออาจมีการนั่งคำนวณแล้ว มาคิดราคารวมดอกเบี้ยแล้วสามารถซื้อรถอีกยี่ห้อนึงได้เลย แถมราคาแพงซะด้วย ส่งผลให้อยากจะทำเรื่องขอคืนเงินจอง มีหลายแห่งที่ไม่ยอมคืน เพราะหากผ่านจริงๆ ทำให้ต้องยกเลิก และชวดเงินจองไป แต่ที่โชว์รูมบางแห่งอาจจะทำเรื่องคืนเงินให้ แล้วแต่นโยบายของบริษัท และหากมีการคืนเงินจริงๆ ก็ต้องมีการหักค่าเสียหาย ค่าเสียเวลาและอาจจะได้เงินคืนช้าหลายเดือน ซึ่งทางที่ดีควรจะศึกษาให้ดีก่อนที่จะเซ็นต์สัญญาดีที่สุด
